สหรัฐฯ คาดโทษเอาผิดกับผู้ที่บินโดรนผิดกฎหมายเหนือพื้นที่ไฟป่า หลังเกิดเหตุโดรนพุ่งชนกับเครื่องบินซึ่งกำลังปฏิบัติภารกิจดับไฟป่าครั้งเลวร้ายในนครลอสแองเจลิส จนส่งผลให้ลำตัวเครื่องบินเสียหายเป็น “รูโหว่” ขนาดใหญ่เท่ากำปั้น ตามข้อมูลจากหัวหน้าหน่วยดับเพลิงเมื่อวานนี้ (10 ม.ค.)
เครื่องบิน Super Scooper ซึ่งถือเป็นกำลังสำคัญในภารกิจต่อสู้วิกฤตไฟป่าครั้งหายนะที่สุดแอลเอ ต้องถูกพักการบินชั่วคราวหลังประสบเหตุพุ่งชนโดรนดังกล่าว และจะไม่สามารถขึ้นบินอีกครั้งได้จนถึงวันจันทร์ (13)
แอนโทนี มาร์โรน ผู้บัญชาการสำนักงานดับเพลิงลอสแองเจลิส ระบุว่า นักบินซึ่งผลัดกันนำเครื่องขึ้นไปดับไฟป่าที่ย่านแปซิฟิกพาลิเซดส์ (Pacific Palisades) ไม่ทราบว่าเกิดการชนขึ้น และสามารถนำเครื่องลงจอดได้อย่างปลอดภัย
“เจ้าหน้าที่ซ่อมบำรุงภาคพื้นดินสังเกตเห็นว่ามีรูโหว่ขนาดเท่ากำปั้นใกล้กับปีกเครื่องบิน” มาร์โรน กล่าว “เครื่องบิน Super Scooper ลำนี้จะต้องถูกซ่อมแซมก่อนเป็นอันดับแรก และคาดว่าจะสามารถกลับไปบินได้ในวันจันทร์... เรามีเครื่องบินประเภทนี้อยู่แค่ 2 ลำเท่านั้น”
มาร์โรน ย้ำว่า การบินโดรนในพื้นที่ไฟป่าถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและอันตรายมาก เนื่องจากก่อความเสี่ยงร้ายแรงให้เฮลิคอปเตอร์และเครื่องบินที่กำลังปฏิบัติภารกิจดับไฟ
“สิ่งสำคัญที่สุดที่คุณต้องรู้ก็คือ หากคุณเอาโดรนขึ้นไปบินเหนือพื้นที่ไฟป่า ปฏิบัติการการบินทั้งหมดจะต้องถูกระงับ” เขาบอก
เจ้าหน้าที่ผู้นี้ระบุด้วยว่า หน่วยงานของรัฐบาลกลางกำลังติดตั้งระบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อตรวจสอบว่าใครเป็นผู้บินโดรนอย่างผิดกฎหมาย ขณะที่ เนธาน ฮอชแมน อัยการเขตเทศมณฑลลอสแองเจลิส ก็ประกาศจะดำเนินคดีขั้นรุนแรงกับผู้ฝ่าฝืน
นครลอสแองเจลิสกำลังเผชิญวิกฤตไฟป่าหลายจุดซึ่งเผาผลาญพื้นที่มากกว่า 35,000 เฮกตาร์ ทำลายอาคารบ้านเรือนไปแล้วกว่า 10,000 หลัง และคร่าชีวิตประชาชนไปไม่แล้วไม่ต่ำกว่า 10 ราย
ไฟป่าซึ่งเริ่มปะทุขึ้นเมื่อวันอังคาร (7) ได้ลุกลามขยายวงกว้างจนกลายเป็นหนึ่งในหายนะไฟป่าครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของรัฐแคลิฟอร์เนีย และมีการประเมินมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นไม่ต่ำกว่า 150,000 ล้านดอลลาร์
ที่มา : เอเอฟพี