xs
xsm
sm
md
lg

จักรวรรดินิยมชัดๆ! วิพากษ์ทรัมป์หมกมุ่นขยายอาณาเขต ขู่ใช้ทหาร-เศรษฐกิจยึดดินแดนพันธมิตร ทั้งที่พูดว่าจะไม่ก่อสงคราม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หลังจากหาเสียงด้วยการฟื้นนโยบายต่างประเทศ “อเมริกาต้องมาก่อน” พร้อมป่าวประกาศว่า อเมริกาจะเลิกเป็นตำรวจโลกและภายใต้ยุคสมัยของตน จะไม่มีสงครามใหม่ๆ เกิดขึ้น ทว่านับจากชนะการเลือกตั้ง ทรัมป์กลับเชิดชูลัทธิจักรวรรดินิยมใหม่ด้วยการขู่เข้ายึดคลองปานามาและกรีนแลนด์ด้วยกำลัง และใช้มาตรการทางเศรษฐกิจบีบให้แคนาดายอมเป็นรัฐที่ 51 ของอเมริกา

โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันอังคาร (6 ม.ค.) ว่า การลบ “เส้นเขตแดนที่มนุษย์กำหนดขึ้น” ระหว่างพรมแดนอเมริกากับแคนาดาน่าจะเป็นผลดีต่อความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ

การพูดถึงการบ่อนทำลายพรมแดนซึ่งเป็นอธิปไตยของชาติและใช้กำลังทหารกับประเทศพันธมิตรกระทั่งเพื่อนชาติสมาชิกนาโต เท่ากับเป็นการละทิ้งบรรทัดฐานเกี่ยวกับบูรณภาพแห่งดินแดนที่ยึดถือมานับสิบปี อีกทั้งยังเป็นถ้อยแถลงที่ทำให้ศัตรูของอเมริกาฮึกเหิม เนื่องจากตีความได้ว่า วอชิงตันยอมรับการที่ประเทศต่างๆ จะใช้กำลังเพื่อร่างเส้นพรมแดนใหม่ในขณะที่รัสเซียกำลังบุกหนักในยูเครน และจีนข่มขู่ไต้หวันที่พวกเขาบอกว่าเป็นดินแดนของตนเอง

ถ้อยคำของทรัมป์ที่สะท้อนมุมมองของช่วงศตวรรษที่ 19 ซึ่งเป็นยุคมหาอำนาจนักล่าอาณานิคมแห่งยุโรป เกิดขึ้นขณะที่พันธมิตรทั่วโลกกำลังพยายามหาทางรับมือกับผลกระทบจากการกลับสู่เวทีโลกของนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ผู้นี้

เจอรัลด์ บัตส์ อดีตที่ปรึกษาระดับสูงและเพื่อนสนิทของนายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโดของแคนาดา ที่กำลังจะอำลาตำแหน่ง บอกว่า ดูเหมือนทรัมป์ตอนนี้จะกล้าได้กล้าเสียและไปสุดยิ่งกว่าตอนรับตำแหน่งสมัยแรกเมื่อปี 2017

บัตต์สำทับว่า มีคนพูดติดตลกว่า สิ่งที่น่ากลัวมากในยุคทรัมป์ 1.0 คือ เขาไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ แต่สิ่งที่น่ากลัวมากในขณะนี้คือ ทรัมป์รู้ดีว่าตัวเองกำลังทำอะไร

บรรดาพันธมิตรพากันแก้ต่างว่า การวางโตบ้าบิ่นของทรัมป์เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์การเจรจาอันซับซ้อน ขณะที่เหล่าผู้ช่วยตั้งข้อสังเกตว่า ตู้คอนเทนเนอร์สินค้าของอเมริกาเกือบครึ่งขนส่งผ่านคลองปานามาซึ่งควบคุมโดยบริษัทที่มีฐานอยู่ในฮ่องกง ที่เป็นดินแดนในปกครองของจีน

สำหรับกรีนแลนด์ ซึ่งเป็นเขตปกครองตนเองของเดนมาร์ก ชาติพันธมิตรเก่าแก่ของอเมริกาและสมาชิกรุ่นก่อตั้งของนาโตนั้น นอกจากตั้งอยู่ในอาร์กติกและอุดมด้วยทรัพยากรธรรมชาติแล้ว ยังเป็นที่ตั้งฐานทัพอวกาศพิทูฟิ กของอเมริกาซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเตือนภัยขีปนาวุธและเฝ้าระวังทางอวกาศ ขณะที่จีนและรัสเซียกำลังลงทุนในอาร์กติกในช่วงเวลาที่บริเวณดังกล่าวมีแนวโน้มเกิดเส้นทางเดินเรือใหม่ๆ เพิ่มขึ้นจากการที่ภูเขาน้ำแข็งกำลังละลายอย่างรวดเร็ว

ส่วนกรณีแคนาดา ทีมทรัมป์ตั้งข้อสังเกตว่า ประเทศเพื่อนบ้านแห่งนี้ใช้จ่ายงบประมาณกลาโหมน้อยกว่าอเมริกามาก

แคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกทีมเปลี่ยนผ่านอำนาจของทรัมป์ ย้ำว่า ทุกการตัดสินใจของว่าที่ประธานาธิบดีผู้นี้มีเป้าหมายเพื่อผลประโยชน์ที่ดีที่สุดของอเมริกาและอเมริกันชน ด้วยเหตุนี้ ทรัมป์จึงต้องการให้ทุกคนสนใจที่ประเด็นความมั่นคงแห่งชาติอันชอบธรรมและความกังวลทางเศรษฐกิจเกี่ยวกับแคนาดา กรีนแลนด์ และปานามา

ทว่า ไมเคิล แมคโฟล เอกอัครราชทูตประจำรัสเซียสมัยอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา ที่ปัจจุบันเป็นผู้อำนวยการสถาบันฟรีแมน สป็อกลี เพื่อการระหว่างประเทศศึกษา ของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด รวมทั้งเป็นนักวิชาการอาวุโสของสถาบันฮูเวอร์ กล่าวว่า คำพูดของทรัมป์บ่อนทำลายผลประโยชน์ด้านความมั่นคงแห่งชาติของอเมริกา เนื่องจากขณะนี้เป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่อันตรายที่สุดในประวัติศาสตร์ซึ่งอเมริกาควรจัดการความท้าทายเหล่านั้นร่วมกับพันธมิตร และเขาหวังว่า ทรัมป์จะโฟกัสภัยคุกคามที่แท้จริง ไม่ใช่ยั่วยุให้เกิดภัยคุกคามเสียเอง

แมคโฟลเสริมว่า การยั่วยุของทรัมป์ไม่ใช่ยุทธศาสตร์การต่อรองของ “อัจฉริยะปัญญานิ่ม” และการกระทำเหล่านั้นจะเกิดผลลัพธ์ในทางลบติดตามมา

ทางด้านแคนาดาตอบโต้เผ็ดร้อน โดยโดมินิก เลอบลองก์ รัฐมนตรีคลัง บอกว่า “เรื่องตลกจบแล้ว” และว่า ทรัมป์ต้องการให้เกิดความสับสน ทำให้คนแตกตื่นเพื่อสร้างความชุลมุนวุ่นวายทั้งที่รู้ว่า แคนาดาไม่มีทางผนวกกับอเมริกาได้

ขณะที่ประธานาธิบดีคลอเดีย เชนบัม ของเม็กซิโก ประชดข้อเสนอของทรัมป์ในการเปลี่ยนชื่ออ่าวเม็กซิโกเป็น “อ่าวอเมริกา” ว่า อเมริกาเหนือควรเปลี่ยนชื่อเป็น “อเมริกา เม็กซิกานา” หรือ “เม็กซิกัน อเมริกา” ตามที่บัญญัติในรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ ปี 1814

ด้าน ฌาเวียร์ มาร์ติเนซ-อาชา รัฐมนตรีต่างประเทศปานามา ยืนกรานว่า อธิปไตยคลองปานามาเป็นสิ่งที่ไม่อาจต่อรองได้ และเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์การต่อสู้และชัยชนะที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ของปานามา

ไมค์ โอแฮนลอน นักวิชาการอาวุโสของสถาบันบรูคกิงส์ บอกว่า แปลกใจกับการแสดงความคิดเห็นล่าสุดของทรัมป์เนื่องจากก่อนหน้านี้เขาไม่มีท่าทีสนใจการใช้กำลัง และยังประกาศว่า หลังจากเข้าสู่ทำเนียบขาวสมัยที่สอง เขาจะไม่ก่อสงครามใหม่ๆ รวมทั้งจะป้องกันไม่ให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 3

โอแฮนลอนตั้งข้อสังเกตว่า สมาชิกนาโตให้คำมั่นจะปกป้องกันและกันหากชาติหนึ่งชาติใดถูกโจมตี ดังนั้น หากทรัมป์พยายามใช้กำลังเข้ายึดกรีนแลนด์จริง เชื่อได้ว่า สมาชิกที่เหลือของนาโตจำเป็นต้องเข้าช่วยเดนมาร์ก

จอห์น โบลตัน อดีตที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของทรัมป์ซึ่งเวลานี้หันมาวิพากษ์วิจารณ์นายเก่า เคยพูดมานานแล้วว่า ว่าที่ประมุขทำเนียบขาวผู้นี้ขาดยุทธศาสตร์ด้านนโยบายที่สอดประสานกัน เขาโจมตีว่า แนวทางของทรัมป์เป็นการจัดการเฉพาะกิจ ชั่วคราว และต้องการให้เกิดประโยชน์กับตนเองเท่านั้น

โบลตันยังบอกอีกว่า ทรัมป์ไม่ชอบขี้หน้าทรูโด และสนุกกับการยั่วผู้นำแคนาดา ซึ่งเป็นประเทศที่ร่ำรวยทรัพยากร แถมเกินดุลการค้าอเมริกา อย่างไรก็ดี เขาสำทับว่า การพูดถึงแนวคิดในการขยายดินแดนที่มีเป้าหมายที่แคนาดาและกรีนแลนด์นั้น จะส่งผลสะท้อนกลับไปที่ตัวทรัมป์เอง

(ที่มา: เอพี)
กำลังโหลดความคิดเห็น