สหรัฐฯ ออกมาเตือนในวันพุธ (8 ม.ค.) ว่าเกาหลีเหนือกำลังตักตวงผลประโยชน์จากการส่งทหารไปช่วยรัสเซียทำสงครามกับยูเครน โดยประสบการณ์ในสนามรบอาจช่วยให้เปียงยางมีศักยภาพและความพร้อมมากยิ่งขึ้นสำหรับการ “เปิดศึกกับเพื่อนบ้าน”
รัสเซียได้ยกระดับความสัมพันธ์กับเกาหลีเหนือทั้งในทางทหารและการทูต นับตั้งแต่เปิดศึกรุกรานยูเครนในเดือน ก.พ. ปี 2022
โดโรธี คามิลล์ เชีย รองเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติ ให้ข้อมูลกับคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็น (UNSC) ว่า เกาหลีเหนือได้ส่งทหารกว่า 12,000 นายเข้าไปในรัสเซีย และเมื่อเดือนที่แล้วก็ได้เริ่มสู้รบกับกองกำลังยูเครนในภูมิภาคคูสก์ (Kursk)
“เกาหลีเหนือได้ประโยชน์จากการได้รับอาวุธยุทโธปกรณ์ เทคโนโลยี และประสบการณ์ ซึ่งจะทำให้พวกเขามีศักยภาพมากขึ้นในการทำสงครามกับประเทศเพื่อนบ้าน” เชีย บอกกับสมาชิกคณะมนตรีทั้ง 15 ชาติ ซึ่งได้เปิดประชุมเพื่อหารือกรณีโสมแดงยิงทดสอบขีปนาวุธพิสัยปานกลางแบบไฮเปอร์โซนิกรุ่นใหม่เมื่อวันจันทร์ (6)
“ในขณะเดียวกัน เกาหลีเหนืออาจจะนำศักยภาพที่เพิ่มขึ้นนี้ไปใช้ส่งเสริมการขายอาวุธและทำสัญญาฝึกยุทธวิธีทั่วโลก” เธอเอ่ยเสริม
คิม ซอง เอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือประจำยูเอ็น ออกมาอ้างเหตุผลอันชอบธรรมในการยิงทดสอบขีปนาวุธเมื่อวันจันทร์ (6) โดยบอกว่าเป็นส่วนหนึ่งของแผนยกระดับศักยภาพในการป้องกันประเทศ พร้อมกล่าวหาสหรัฐฯ ว่าทำตัว “สองมาตรฐาน”
“ในขณะที่ตัวเลขพลเรือนในกาซาพุ่งสูงกว่า 45,000 คน สหรัฐฯ ยังมองการสังหารหมู่ของอิสราเอลว่าเป็นสิทธิในการป้องกันตนเอง แต่กลับมาหาเรื่องหาราวกับเกาหลีเหนือที่ใช้สิทธิในการป้องกันตนเองอย่างชอบธรรม” คิม แถลงต่อที่ประชุม UNSC
วาสซิลีย์ เนเบนเซีย เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำยูเอ็น ย้ำข้อกล่าวหาของมอสโกที่ว่าสหรัฐฯ เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น มีเจตนายั่วยุเกาหลีเหนือด้วยปฏิบัติการซ้อมรบ พร้อมทั้งปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ “ไม่มีมูลเลยสักนิดเดียว” ของอเมริกาที่ว่ารัสเซียแบ่งปันเทคโนโลยีด้านดาวเทียมและอวกาศให้เกาหลีเหนือ
“คำพูดเหล่านี้คือตัวอย่างล่าสุดของการกล่าวหาที่ไม่มีมูล ซึ่งมีเจตนาใส่ร้ายป้ายสีความร่วมมือระหว่างรัสเซียกับเกาหลีเหนือ” เนเบนเซีย ระบุ
ที่มา : รอยเตอร์