xs
xsm
sm
md
lg

‘มาเลเซีย-สิงคโปร์’ แถลงความตกลงร่วมมือพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษใน ‘รัฐยะโฮร์’

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รัฐบาลมาเลเซียและสิงคโปร์ประกาศข้อตกลงว่าด้วยเขตเศรษฐกิจพิเศษในรัฐยะโฮร์ทางตอนใต้ของมาเลเซียวันนี้ (7 ม.ค.) โดยมุ่งสนับสนุนการลงทุน รวมถึงเอื้อให้การเคลื่อนย้ายสินค้าและการเดินทางระหว่างผู้คนทั้ง 2 ประเทศเป็นไปอย่างสะดวก

ถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้นระหว่างการเยือนมาเลเซียของนายกรัฐมนตรี ลอว์เรนซ์ หว่อง และคณะรัฐมนตรีระดับสูงของสิงคโปร์ โดยก่อนหน้านี้รัฐบาลทั้ง 2 ชาติเห็นพ้องในเชิงหลักการเมื่อ 1 ปีที่แล้วว่าจะร่วมกันพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษขึ้นมา

“นี่คือโครงการที่สำคัญ เราทั้ง 2 ชาติสามารถเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน ส่งเสริมค่านิยมร่วม และร่วมกันดึงดูดเม็ดเงินลงทุนเข้าสู่ประเทศของเรา” หว่อง ระบุในงานแถลงข่าวร่วมกับนายกรัฐมนตรี อันวาร์ อิบราฮิม แห่งมาเลเซีย

“ในระหว่างที่มีการเจรจาข้อตกลงนี้ ทั้ง 2 ฝ่ายได้ดึงเอาผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเข้ามาร่วมพูดคุยเพื่อให้มั่นใจได้ว่า SEZ จะมีเงื่อนไขที่เอื้อต่อการเติบโตทางธุรกิจในระยะยาว”

ด้านนายกฯ มาเลเซียชี้ว่า SEZ ถือเป็นความริเริ่มที่พิเศษ เพราะไม่บ่อยนักที่ 2 ประเทศจะร่วมมือกันในโครงการเดียวเช่นนี้


ราฟิซี รามลี รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจมาเลเซีย ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า มาเลเซียและสิงคโปร์ตั้งเป้าดึงดูดเม็ดเงินลงทุนมูลค่าสูง (high-value investments) เข้าสู่รัฐยะโฮร์ ตั้งแต่ภาคการผลิต โลจิสติกส์ การท่องเที่ยว เรื่อยไปจนถึงการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน (energy transition) โดยมีเป้าหมายให้เกิดโครงการอย่างน้อย 50 โครงการในเขตเศรษฐกิจพิเศษภายในระยะ 5 ปี และสร้างงานให้ได้ถึง 20,000 ตำแหน่ง

มาเลเซียจะจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อสนับสนุนบริษัทต่างๆ ที่ต้องการเข้าไปลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษนี้ ขณะที่สิงคโปร์จะตั้งกองทุนของตนเองขึ้นมาเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกด้านการลงทุน และสนับสนุนบริษัทสิงคโปร์ที่ทำธุรกิจอยู่ในรัฐยะโฮร์

ในทุกๆ วันจะมีชาวมาเลเซียหลายพันคนเดินทางข้ามไปทำงานและเรียนหนังสือที่สิงคโปร์ ซึ่งทำให้สะพานเชื่อมระหว่างรัฐยะโฮร์กับสิงคโปร์เผชิญปัญหาการจราจรติดขัด และกลายเป็นหนึ่งในจุดผ่านแดนที่มีคนเดินทางคับคั่งที่สุดในโลก

ผู้นำทั้ง 2 ฝ่ายยังเชิญชวนให้มีการเสนอโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมมาเลเซียกับสิงคโปร์ โดย อันวาร์ เห็นว่าควรจะให้ภาคเอกชนเป็นผู้นำ และมีรัฐเข้าไปกำกับดูแลอย่างจำกัดเท่านั้น

ที่มา : รอยเตอร์
กำลังโหลดความคิดเห็น