กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ประกาศเพิ่มชื่อ เทนเซ็นต์ โฮลดิงส์ (Tencent Holdings) บริษัทเทคโนโลยีและโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่ของจีน และผู้ผลิตแบตเตอรี CATL ลงในบัญชีบริษัทที่สหรัฐฯ เชื่อว่ามีการทำงานร่วมกับกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน
นอกจากเทนเซ็นต์ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ WeChat และ CATL แล้ว บริษัทอื่นๆ ที่ถูกสหรัฐฯขึ้นบัญชีดำพร้อมกันในคราวนี้ ได้แก่ Changxin Memory Technologies Inc, Quectel Wireless และผู้ผลิตโดรน Autel Robotics
บัญชีบริษัทด้านการทหารของจีน หรือที่มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการตามกฎหมายสหรัฐฯ ว่า Section 1260H List มีการอัปเดตเป็นประจำทุกปี โดยปัจจุบันได้ขึ้นบัญชีบริษัทจีนเอาไว้ทั้งหมด 134 ราย ตามที่ระบุเอาไว้ใน Federal Registrar หรือวารสารทางการของรัฐบาลสหรัฐฯ
โฆษกของ Quectel ยืนยันว่าบริษัท "ไม่เคยทำงานร่วมกับกองทัพของประเทศใดๆ และจะร้องขอให้กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ทบทวนการขึ้นบัญชี ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นการกระทำที่ผิดพลาด"
สำหรับบริษัทอื่นๆ รวมถึงสถานทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ยังไม่ออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้
ท่ามกลางสายสัมพันธ์ที่ตึงเครียดระหว่าง 2 มหาอำนาจรายใหญ่ที่สุดของโลก การอัปเดตบัญชีบริษัทที่พัวพันกองทัพจีนเป็นหนึ่งในหลายๆ กลยุทธ์ที่สหรัฐฯ ใช้เพื่อตราหน้าและกีดกันบริษัทจากแดนมังกรที่วอชิงตันเห็นว่าเป็นภัยคุกคามความมั่นคง
แม้การถูกขึ้นบัญชีจะไม่ได้นำไปสู่มาตรการแบนโดยตรง แต่ก็ทำให้บริษัทที่ตกเป็นเป้าหมายเสื่อมเสียชื่อเสียง และกระตุ้นให้ภาคธุรกิจอเมริกันต้องทบทวนความเสี่ยงในการทำธุรกิจร่วมกับบริษัทเหล่านี้ อีกทั้งยังอาจกดดันให้กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ต้องออกมาตรการคว่ำบาตรด้วย
ผู้ผลิตโดรน DJI และ Hesai Technologies ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์ตรวจจับและวัดระยะด้วยแสง (Lidar) ต่างยื่นฟ้องเพนตากอนเมื่อปีที่แล้ว แต่ทว่าก็ยังคงถูกขึ้นบัญชีอยู่ในปีนี้ ขณะเดียวกันก็มีบริษัทจีน 6 แห่งที่สหรัฐฯ ถอดออกจากบัญชีเนื่องจากคุณสมบัติไม่เข้าเกณฑ์อีกต่อไป ในจำนวนนี้รวมถึง Beijing Megvii Technology, China Railway Construction Corporation Limited (CRCC), China State Construction Group และ China Telecommunications Corporation
ที่มา: รอยเตอร์