เอเจนซีส์ - ไทเปแถลง เรือสินค้าชักธงแคเมอรูน Shunxin-39 ต้องสงสัยทำดาต้าเคเบิลใต้ทะเลไต้หวันเชื่อม AT&T ของอเมริกาเสียหาย 4 จุดในเช้าวันศุกร์ (3 ม.ค.) เชื่อปักกิ่งอยู่เบื้องหลัง ซ้ำรอยฟินแลนด์รับวันคริสต์มาส (25 ธ.ค.) ถูกเรือบรรทุกน้ำมันรัสเซีย Eagle S ตัดเคเบิลใต้ทะเลเสียหายเป็นรอบที่ 3
เดลีเทเลกราฟของอังกฤษรายงานวันอาทิตย์ (5 ม.ค.) ว่า ไทเปออกมาชี้นิ้วกล่าวหาว่า เรือสินค้าจีนแอบตัดเคเบิลใต้น้ำเส้นสำคัญบริเวณนอกชายฝั่งทางเหนือของไต้หวันในวันศุกร์ (3)
เอบีซีนิวส์ของออสเตรเลียรายงานว่า หน่วยงานยามฝั่งไต้หวัน CGA แถลงว่า ได้ส่งเรือลาดตระเวนออกไปหลังได้รับรายงานจากบริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของไต้หวัน จุงหวา เทเลคอม (Chunghwa Telecom) เมื่อเวลา 12.40 น.ตามเวลาท้องถิ่นในวันศุกร์ (3)
ทั้งนี้ พบว่าเคเบิลอยู่ใกล้เย๋หลิ่ว (Yehliu) ในเมืองไทเปใหม่ โดยดาต้าเคเบิลระหว่างประเทศที่สำคัญนี้ได้รับความเสียหาย 4 จุด เป็นดาต้าเคเบิลใต้น้ำเชื่อมระหว่างไต้หวันไปยังบริษัท AT&T ของสหรัฐฯ นั้นเกิดการติดขัดเมื่อช่วงต้นของวันศุกร์ (3)
ปักกิ่งเคยตกเป็นจำเลยก่อนหน้าจากการที่เรือคาร์โกของปักกิ่งพบว่าจงใจสร้างความเสียหายให้เคเบิลใต้ทะเลบอลติกเมื่อตุลาคม ปี 2023 และซ้ำอีกครั้งในเดือนพฤศจิกายนปี 2024
เรือคาร์โก Shunxing39 ชักธงแคเมอรูน แต่เจ้าหน้าที่ไทเปเปิดเผยว่า เรือลำดังกล่าวนั้นเป็นของบริษัท Jie Yang Trading Ltd ที่จดทะเบียนในฮ่องกง โดยมีชาวจีนชื่อ กัว เหวินเจีย (Guo Wenjie) เป็นเจ้าของ เดลีเทเลกราฟรายงาน
จุงหวา เทเลคอม แถลงว่า การต่อเชื่อมสำคัญถูกกู้ได้กลับอย่างรวดเร็วหลังจากทางบริษัทต้องเปลี่ยนการส่งดาต้าผ่านไปยังสายเคเบิลใต้ทะเลเส้นอื่นในเช้าวันเกิดเหตุ (3)
เอบีซีนิวส์ของออสเตรเลียรายงานเพิ่มเติมว่า หน่วยงานยามฝั่งออสเตรเลียล้มเหลวไม่สามารถขึ้นไปบนเรือคาร์โกจีนต้องสงสัยเนื่องมาจากสภาพอากาศรุนแรงส่งผลทำให้เรือสามารถวิ่งต่อไปยังจุดหมายปลายทางที่เกาหลีใต้สำเร็จ
เกิดขึ้นหลังหน่วยงานยามฝั่งเมื่อเวลา 16.40 น. พบเรือ Shunxin-39 ในพิกัดตั้งอยู่ห่างจากชายฝั่งทางตอนเหนือของ Yehliu ออกไปราว 7 ไมล์ทะเล และออกคำสั่งให้เรือย้อนกลับไปที่น่านน้ำเพื่อตรวจสอบ
และกลายเป็นเหตุการณ์เคเบิลใต้ทะเลโดนทำลายจนเกิดความเสียหายนี้กลายเป็นแพตเทิร์นที่ถูกจับตาแบบไม่กะพริบ
เดลีเทเลกราฟรายงานว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงความมั่นคงไทเปเปิดเผยกับไฟแนนเชียลไทมส์ว่า "นี่ถือเป็นอีกเคสของเทรนการก่อวินาศกรรมสายเคเบิลใต้ทะเลทั่วโลก"
ขณะที่สื่อออสเตรเลียชี้ว่า เคสเคเบิลใต้ทะเลของไต้หวันถูกตัดไม่ต่างจากสถานการณ์ในทะเลบอลติก โดยมี 'ฟินแลนด์' ซึ่งมีพรมแดนทางตะวันออกติดรัสเซียตกเป็นเหยื่อ
CBS News ของสหรัฐฯ รายงานเมื่อวันที่ 30 ธ.ค.ว่า เฮลซิงกิล่าสุดโดนสงครามไฮบริดจากรัสเซียล่าสุดวันคริสต์มาส (25 ธ.ค.) สายเคเบิลเชื่อมเอสโตเนียโดนเรือบรรทุกน้ำมันรัสเซีย Eagle S ทำให้เกิดความเสียหาย ซึ่งเฮลซิงกิประสบความสำเร็จสามารถยึดเรือลำดังกล่าวได้ พบว่าเรือขนน้ำมันรัสเซีย 70,000 ตันชื่อ Eagle S ต้องสงสัยเชื่อมโยง ‘กลุ่มเรือลึกลับเครมลิน’ หรือ Russian's shadow fleet
NPR ของสหรัฐฯ อธิบาย shadow fleet นี้เป็นเครือข่ายเรือเก่ารัสเซียที่ใช้เพื่อหลบการคว่ำบาตรจากตะวันตก และแอบใช้ในปฏิบัติการลับ เรือเหล่านี้ถูกใช้เพื่อขนน้ำมันรัสเซียไปขายโดยปกปิดซ่อนเร้นต้นทาง
CBS News รายงานว่าเคเบิลพลังงาน Estlink-2 ที่ส่งพลังงานจากฟินแลนด์ข้ามทะเลบอลติกไปยังเอสโตเนียนั้นไม่สามารถใช้การได้ในวันที่ 25 ธ.ค. หลังถูกลอบโจมตี
เกิดขึ้นตามหลังเคเบิลใต้ทะเลส่งข้อมูล 2 เส้นและท่อส่งก๊าซ Nord Stream ได้รับความเสียหาย โดยเฮลซิงกิชี้ว่า ทั้งสองนั้นถูกจัดในฐานะการลอบโจมตี
ทั้งนี้ หัวหน้าตำรวจสอบสวนฟินแลนด์ ซามี ไพลา (Sami Paila) กล่าวว่า เรือบรรทุกน้ำมันรัสเซียลากสมอยาวเป็นระยะทางหลายสิบกิโลเมตรหากไม่ใช่เกือบหนึ่งร้อยเมตร
สอดคล้องกับความเสียหายจากเคเบิลใต้น้ำ 2 เส้น เมื่อพฤศจิกายนล่าสุดกระทบฟินแลนด์ เยอรมนี ลิทัวเนีย และสวีเดน โดยวอลล์สตรีทเจอร์นัลรายงานเปิดเผยในเวลานั้นว่า เจ้าหน้าที่สอบสวนต้องสงสัยว่าเรือสินค้าจีน Yi Peng 3 จงใจทำให้เคเบิลไฟเบอร์ออปติกใต้ทะเลขาดจากการวิ่งลากสมอไปตามพื้นทะเล