พายุหิมะรุนแรงซัดถล่มสหรัฐฯ ด้วยนักพยากรณ์อากาศเตือนว่ามีประชาชนมากกว่า 60 ล้านคนในภาคตะวันออกของประเทศ อาจต้องเผชิญกับสภาพลมแรงและหิมะตกอย่างต่อเนื่อง และบางพื้นที่อาจไม่เห็นหิมะตกหนักสุดในรอบหลายทศวรรษ
สำนักงานพยากรณ์อากาศแห่งชาติ (NWS) ในวันอาทิตย์ (5 ม.ค.) เตือนเกี่ยวกับสภาพน้ำแข็ง หิมะและลมแรง ในรัฐต่างๆ ไล่ตั้งแต่ที่ราบลุ่มภาคกลาง ไปจนถึงตอนกลางของแอตแลนติก ทั้งนี้ได้มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในรัฐเคนทักกี มิสซูรี และเวอร์จิเนีย
มีชาวบ้านมากกว่า 60 ล้านคนที่อยู่ในเส้นทางของพายุที่อันตรายนี้ ที่มีสิทธิฉุดให้ซีกตะวันออกของสหรัฐฯ ดำดิ่งสู่ภาวะเย็นยะเลือกสุดขั้วจากลมอาร์กติกไปจนถึงวันจันทร์ (6 ม.ค.) ผลก็คือกันก่อความยุ่งเหยิงด้านการเดินทางอย่างรุนแรง
หลายรัฐได้ออกประกาศเตือนเกี่ยวกับพายุหิมะ ไล่ตั้งแต่แคนซัส ทางตะวันตก ไปจนถึงรัฐต่างๆ ที่ตั้งอยู่ทางริมชายฝั่ง อย่างเช่นแมรีแลนด์ เดลาแวร์ และเวอร์จิเนีย ซึ่งอยู่ภายใต้ภัยคุกคามอย่างกว้างขวางอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ครอบคลุมระยะทางกว่า 2,400 กิโลเมตร
"พายุหิมะที่สร้างความปั่นป่วนนี้ ส่งผลกระทบต่อที่ราบลุ่มตอนกลางของประเทศ ไปจนถึงแถบตอนกลางของแอตแลนติก ไปจนถึงวันจันทร์ (6 ม.ค.) ท่ามกลางความคาดหมายหิมะตกหนักเป็นบริเวณกว้างและความเสียหายจากน้ำแข็งสะสม" สำนักงานพยากรณ์อากาศแห่งชาติสหรัฐฯ ระบุในรายงานล่าสุด
หน่วยงานแห่งนี้เตือนว่าพื้่นที่ต่างๆ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของแคนซัส ไปจนถึงตอนกลางค่อนไปทางเหนือของมิสซูรี อาจได้เห็นหิมะตกหนักที่สุดในรอบ 1 ทศวรรษ
พวกนักวิทยาศาสตร์บอกว่าสภาพอากาศรุนแรงเริ่มพบเห็นเป็นเรื่องปกติมากขึ้น และรุนแรงยิ่งขึ้น ผลจากการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศที่เกิดจากฝีมือมนุษย์
พายุรุนแรงลูกแรกของปี 2025 ลูกนี้ ได้ก่อความปั่นป่วนแก่การเดินทาง โดยที่สนามบินนานาชาติแคนซัส ซิตี ได้แถลงระงับปฏิบัติการเที่ยวบินในวันเสาร์ (4 ม.ค.) สืบเนื่องจากมีน้ำแข็งสะสมอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะกลับมาให้บริการเที่ยวบินต่างๆ ได้อีกครั้งหลังจากนั้น หลังจากได้มีการเคลียร์รันเวย์และแท็กซี่เวย์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากการเปิดเผยของ ควินตัน ลูคัส นายกเทศมนตรีแคนซัส ซิตี ที่โพสต์ข้อความบนสื่อสังคมออนไลน์
คาดหมายว่าอุณหภูมิจะดำดิ่ง ในบางพื้นที่อาจต่ำกว่า -18 องศาเซลเซียส ส่วนในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. อาจได้เห็นหิมะปกคลุมหนาถึง 5 นิ้ว หรือมากกว่านั้น
อีกความกังวลคือฝนเยือกแข็งและลูกเห็บที่คาดหมายว่าจะซัดเล่นงานแคนซัส ไปทางทิศตะวันออกถึงเคนทักกี และเวอร์จิเนีย ซึ่งอาจก่อหิมะหนาเกาะพื้นถนนและทำให้การเดินทางอยู่ในภาวะอันตรายอย่างยิ่ง นอกจากนี้แล้วต้นไม้และเสาไฟฟ้าอาจหักโค่น และเป็นไปได้ว่าอาจทำให้ประชาชนหลายล้านคนไม่มีไฟฟ้าใช้ในช่วงที่ถูกอากาศหนาวเหน็บเล่นงาน
แอนดี บีเชียร์ ผู้ว่าการรัฐเคททักกี บอกกับที่ประชุมฉุกเฉินว่า "พายุลูกใหม่นี้มีความเป็นไปได้ที่จะก่อความสภาพที่ยุ่งเหยิงและอันตรายบนท้องถนนของเรา และอาจทำให้ไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้าง 24 ชั่วโมง หรือนานกว่านั้น ก่อนที่อากาศหนาวเย็นที่แท้จริงจะปกคลุมเคนทักกี"
(ที่มา : อัลจาซีราห์)