xs
xsm
sm
md
lg

‘ไบเดน’ โดดขวาง ‘นิปปอน สตีล’ ซื้อกิจการ ‘ยูเอส สตีล’ ชี้กระทบความมั่นคงของสหรัฐฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ออกคำสั่งห้ามไม่ให้บริษัท นิปปอน สตีล สัญชาติญี่ปุ่นเข้าซื้อกิจการยูเอส สตีล ผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ของสหรัฐฯ ด้วยวงเงิน 14,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อวานนี้ (3 ม.ค.) โดยอ้างว่าข้อตกลงควบกิจการดังกล่าวจะกระทบต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ

ข้อเสนอซื้อกิจการดังกล่าวถูกประกาศเมื่อเดือน ธ.ค. ปี 2023 และเผชิญแรงต่อต้านจากคนในแวดวงการเมืองสหรัฐฯ ทันทีในช่วงก่อนศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 5 พ.ย. ปีที่แล้ว

ทั้งประธานาธิบดี โจ ไบเดน และโดนัลด์ ทรัมป์ ต่างแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยและประกาศจะขัดขวางข้อตกลงนี้

ในอดีต ยูเอส สตีล เคยควบคุมการผลิตเหล็กเกือบทั้งหมดในสหรัฐฯ และปัจจุบันถือเป็นผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่อันดับ 3 ของอเมริกา และลำดับที่ 24 ของโลก

“อุตสาหกรรมเหล็กที่สหรัฐฯ เป็นเจ้าของและดำเนินการเอง นับว่าสำคัญยิ่งต่อความมั่นคงของชาติ และจำเป็นต่อห่วงโซ่อุปทานที่มีความแข็งแรงยืดหยุ่น” ไบเดน กล่าว “หากปราศจากการผลิตเหล็กในประเทศและแรงงานในประเทศ ประเทศของเราก็จะแข็งแกร่งและปลอดภัยน้อยลง”

นิปปอน สตีล ซึ่งเป็นผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่อันดับ 4 ของโลก ยอมจ่ายเงินส่วนเกิน (premium) ก้อนโตเพื่อที่จะคว้าข้อตกลงซื้อกิจการยูเอส สตีล และยอมประนีประนอมอ่อนข้อหลายอย่าง รวมถึงยอมให้รัฐบาลสหรัฐฯ ได้มีอำนาจ “วีโต” เกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนกำลังผลิตด้วย ทว่าก็ยังไม่เป็นผล

ทั้ง นิปปอล สตีล และ ยูเอส สตีล ต่างออกมาวิจารณ์การขัดขวางของ ไบเดน ว่า “ละเมิดกระบวนการทางกฎหมายอย่างชัดแจ้ง” และมีมูลเหตุจูงใจทางการเมือง พร้อมประกาศจะใช้ทุกมาตรการที่เหมาะสมเพื่อปกป้องสิทธิทางกฎหมายของบริษัท

ยูเอส สตีล ซึ่งมีฐานอยู่ที่นครพิตต์สเบิร์กออกมาเตือนแล้วว่า อาจจะต้องมีการปลดพนักงานออกหลายพันตำแหน่ง หากว่าดีลขายกิจการครั้งนี้ไม่สำเร็จ


เดวิด เบอร์ริตต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ยูเอส สตีล แถลงวานนี้ (3) ว่า บริษัทเตรียมที่จะคัดค้านการตัดสินใจของ ไบเดน ซึ่งเขาเรียกว่าเป็นการกระทำที่ “ทุจริตและน่าละอาย”

เขายังวิจารณ์ ไบเดน ว่า “ไม่ให้เกียรติญี่ปุ่น” แถมยังปฏิเสธไม่ยอมพบเจ้าหน้าที่ของยูเอส สตีล เพื่อรับฟังมุมมองของบริษัทด้วย

ด้านสหภาพแรงงาน ยูเอส สตีล (USW) ซึ่งคัดค้านข้อตกลงควบกิจการมาตั้งแต่ต้น ออกมาแถลงชื่นชมการตัดสินใจของผู้นำสหรัฐฯ โดย เดวิด แมคคอลล์ ประธาน USW ชี้ว่าทางสหภาพ “ไม่มีข้อสงสัยเลยว่านี่คือการตัดสินใจที่ถูกต้องสำหรับสมาชิกของเรา และความมั่นคงของชาติ”

จอห์น เคอร์บีย์ โฆษกทำเนียบขาว ก็ออกมาปกป้องการตัดสินใจของ ไบเดน เช่นกัน โดยชี้ว่า “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับญี่ปุ่น แต่เกี่ยวกับการที่สหรัฐฯ จำเป็นต้องรักษาหนึ่งในผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ที่สุดให้ยังคงเป็นบริษัทของอเมริกาต่อไป”

นิปปอน สตีล เคยขู่จะยื่นฟ้องศาลหากข้อตกลงซื้อกิจการ ยูเอส สตีล ถูกรัฐบาลสหรัฐฯ ขัดขวาง ขณะที่ทนายความส่วนใหญ่ชี้ว่าความพยายามของ นิปปอน สตีล ที่จะท้าทายคำสั่งของรัฐบาลสหรัฐฯ นั้น “ไม่ง่าย” แน่นอน

ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการว่าด้วยการลงทุนต่างประเทศ (Committee on Foreign Investment) ได้ใช้เวลาหลายเดือนในการพิจารณาทบทวนข้อตกลงซื้อกิจการ ยูเอส สตีล เพื่อประเมินความเสี่ยงต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ ทว่าสุดท้ายก็ยังเห็นไม่ตรงกัน และได้มอบอำนาจให้ ไบเดน เป็นผู้ตัดสินใจในเดือน ธ.ค.

ที่มา : รอยเตอร์


กำลังโหลดความคิดเห็น