สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ (FBI) ระบุวานนี้ (3 ม.ค.) ว่า ชายผู้ต้องสงสัยขับรถกระบะไฟฟ้าไซเบอร์ทรัก (Cybertruck) ของเทสลาไปจุดชนวนระเบิดที่ด้านนอกโรงแรม ทรัมป์ อินเตอร์เนชันแนล ที่ลาสเวกัส ไม่ได้มีความคับแค้นใจใดๆ ต่อว่าที่ผู้นำสหรัฐฯ และอาจมีสภาวะป่วยทางจิตหลังเผชิญกับเหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจอย่างร้ายแรง หรือ PTSD
FBI ย้ำอีกครั้งว่า ไม่พบความเชื่อมโยงที่ชัดเจนระหว่างเหตุการณ์นี้ซึ่งทำให้มีผู้บาดเจ็บ 7 คน กับกรณีชายขับรถกระบะพุ่งชนคนที่นิวออร์ลีนส์ซึ่งคร่าชีวิตคนไป 14 คน แม้ทั้ง 2 เหตุการณ์จะเกิดขึ้นในวันเดียวกันก็ตาม
เมื่อวันพฤหัสบดี (2) เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ได้เปิดเผยตัวตนของชายที่ถูกพบเสียชีวิตอยู่ในไซเบอร์ทรักว่าคือ แมทธิว ลิเวลสเบอร์เกอร์ อายุ 37 ปี เป็นสมาชิกหน่วยรบพิเศษกรีนเบเรต์จากโคโลราโดสปริงส์ และลงมือก่อเหตุเพียงลำพัง
“ผู้ก่อเหตุไม่ได้มีความคับแค้นใจใดๆ ต่อว่าที่ประธานาธิบดี” เจ้าหน้าที่ FBI ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนในงานแถลงข่าวเมื่อวานนี้ (3)
“จากการสอบสวนพบข้อมูลว่า ทหารนายนี้อาจจะป่วยด้วยโรค PTSD และเรายังทราบว่าเขาอาจมีปัญหาภายในครอบครัว หรือความทุกข์ใจส่วนตัวเกี่ยวกับชีวิตของเขาเองที่อาจเป็นปัจจัยนำมาสู่การก่อเหตุ"
เจ้าหน้าที่ FBI คนเดิมบอกด้วยว่า เคสนี้ดูเหมือนจะเป็น “การฆ่าตัวตายที่น่าเศร้า”
ตำรวจสหรัฐฯ พบว่า ลิเวลสเบอร์เกอร์ ฆ่าตัวตายด้วยการยิงกระสุนกรอกปาก
สำหรับโรงแรม ทรัมป์ อินเตอร์เนชันแนล ที่ลาสเวกัสนั้นเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจในเครือ ทรัมป์ ออร์แกไนเซชัน ของ โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งกำลังจะกลับขึ้นมาครองทำเนียบขาวอีกครั้งในวันที่ 20 ม.ค. นี้
อีริค ทรัมป์ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้บริหาร ทรัมป์ ออร์แกไนเซชัน ได้ออกมากล่าวชื่นชมเจ้าหน้าที่ซึ่งตอบสนองเหตุการณ์อย่างรวดเร็วภายหลังเกิดเหตุระเบิดขึ้น
อีลอน มัสก์ ซึ่งเป็นเจ้าของเทสลา ถือเป็นผู้สนับสนุน ทรัมป์ รายใหญ่ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี 2024 และยังเป็นที่ปรึกษาให้กับว่าที่ผู้นำสหรัฐฯ ด้วย
ที่มา : รอยเตอร์