เจ้าหน้าที่สอบสวนเกาหลีใต้ดึงข้อมูลจากกล่องบันทึกเสียงในห้องนักบินของเที่ยวบินสายการบินเชจู แอร์ ที่ประสบอุบัติเหตุช่วงสิ้นปีสำเร็จแล้ว และคาดว่าจะใช้เวลาราว 2 วันในการแปลงข้อมูลเป็นไฟล์เสียงเพื่อทำการตรวจสอบรายละเอียดต่อไป นอกจากนั้น ยังเตรียมส่งกล่องบันทึกข้อมูลการบินที่ได้รับความเสียหายไปให้คณะกรรมการความปลอดภัยในการขนส่งแห่งชาติของอเมริกา (เอ็นทีเอสบี) ร่วมวิเคราะห์
ผู้โดยสารทั้ง 175 คน และลูกเรือจำนวน 4 จาก 6 คนของสายการบินเชจู แอร์ เที่ยวบิน 2216 ที่ออกเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ไปยังเกาหลีใต้เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (29 ธ.ค.) เสียชีวิตทั้งหมด โดยในจำนวนนี้เป็นผู้โดยสารชาวไทย 2 คน หลังจากที่เครื่องลงจอด ณ จุดหมายปลายทาง คือ ท่าอากาศยานนานาชาติมูอัน ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของเกาหลีใต้ ในสภาพที่ล้อไม่กาง ทำให้เครื่องไถลไปชนกับแนวกั้นคอนกรีตที่สุดรันเวย์และเกิดการระเบิดไฟลุกไหม้ทั้งลำ
สำหรับลูกเรือ 2 คนที่รอดชีวิตนั้นถูกช่วยออกมาจากส่วนหางของเครื่องบินลำนี้ ซึ่งเป็นเครื่องโบอิ้ง 737-800
รัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศไว้อาลัยทั่วประเทศจนถึงวันที่ 4 ม.ค. และลดระดับงานฉลองปีใหม่
ในวันพุธ (1 ม.ค.) กระทรวงคมนาคมแถลงว่า จาก “กล่องดำ” ประจำเครื่องบินทั้ง 2 กล่องซึ่งค้นพบแล้วนั้น เจ้าหน้าที่สอบสวนสามารถดึงข้อมูลออกจากกล่องบันทึกเสียงในห้องนักบินแล้วและจะแปลงเป็นไฟล์เสียงซึ่งคาดว่าอาจใช้เวลาราว 2 วัน พร้อมตั้งความหวังว่า ไฟล์เสียงดังกล่าวจะให้ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับช่วงไม่กี่นาทีสุดท้ายก่อนที่เครื่องจะประสบอุบัติเหตุ
สำหรับกล่องดำอีกกล่างหนึ่ง คือ กล่องบันทึกข้อมูลการบินนั้น ทีมสอบสวนลงความเห็นว่า มีความเสียหายจนไม่สามารถดึงข้อมูลออกมาได้ และวางแผนส่งกล่องดำนี้ไปยังอเมริกาเพื่อทำการวิเคราะห์ร่วมกับเอ็นทีเอสบี
จู จองวาน รัฐมนตรีช่วยกระทรวงคมนาคมฝ่ายการบินพลเรือน แถลงว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ อีก 2 คนเดินทางถึงเกาหลีใต้เมื่อคืนวันอังคาร (31 ธ.ค.) เพื่อทำงานร่วมกับทีมเจ้าหน้าที่สอบสวนกว่า 20 คน ซึ่งรวมถึงเจ้าหน้าที่จากเอ็นทีเอสบี สำนักงานการบินของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ และโบอิ้ง ผู้ผลิตเครื่องบินของอเมริกา โดยขณะนี้กำลังวางแผนเพื่อเริ่มตรวจสอบซากเครื่องบินด้วยสายตา
แรกทีเดียวนั้นพวกเจ้าหน้าที่ระบุว่า การบินชนฝูงนกอาจเป็นสาเหตุของโศกนาฏกรรมครั้งนี้ แต่ต่อมาได้มีการเผยแพร่ความคิดเห็นเพิ่มเติมว่า จะจัดการสอบสวนแท่งคอนกรีตที่กั้นที่ปลายรันเวย์ซึ่งเครื่องบินพุ่งชนก่อนระเบิด รวมถึงความล้มเหลวของชุดฐานล้อเครื่องบิน หรือปัญหาจากระบบควบคุมอื่นๆ ตลอดจนจะสอบสวนกรณีที่นักบินเร่งรีบลงจอดทันทีหลังจากส่งสัญญาณเหตุฉุกเฉินไปยังหอบังคับการบิน
พวกผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางอากาศยังตั้งคำถามว่า งานถมคันทางสนามบินที่ออกแบบมาเพื่อรองรับอุปกรณ์นำทางนั้น สร้างใกล้ปลายรันเวย์มากเกินไปหรือไม่
ขณะเดียวกัน ที่สนามบินมูอัน ผู้คนนับร้อยต่อคิวรอแสดงความเคารพผู้เสียชีวิตจากเหตุเครื่องบินเชจูที่แท่นพิธีที่จัดไว้ให้เมื่อวันพุธ ส่งผลให้เครือข่ายมือถือโอเวอร์โหลด
เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นได้ประกาศเตือนความปลอดภัย และขอให้ผู้ที่ต้องการไว้อาลัยเดินทางไปยังสถานที่จัดพิธีรำลึกแห่งอื่นๆ ที่จัดเตรียมไว้ทั่วประเทศ
สำหรับภายในสนามบินที่ครอบครัวผู้เสียชีวิตไปปักหลักอยู่นับตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุนั้น มีการจัดพื้นที่พยาบาลฉุกเฉินเพื่อให้น้ำเกลือ เนื่องจากญาติผู้เสียชีวิตหลายคนเครียดจนรับประทานอาหารไม่ได้
ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่เผยว่า ร่างผู้เสียชีวิตได้รับความเสียหาย ทำให้กระบวนการระบุตัวตนล่าช้าและยากลำบากมาก ขณะที่เจ้าหน้าที่สอบสวนยังคงพยายามป้องกันหลักฐานซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุ
อย่างไรก็ตาม ชอย ซังม็อก รักษาการประธานาธิบดีเกาหลีใต้ที่เข้าทำงานไม่ทันถึงหนึ่งสัปดาห์ ระบุระหว่างการประชุมหน่วยงานภายในเมื่อวันพุธว่า การระบุอัตลักษณ์ผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการเสร็จสิ้นแล้ว และเจ้าหน้าที่ได้ทยอยส่งร่างผู้เสียชีวิตไปให้ครอบครัวจัดพิธีศพ
นอกจากนั้น ชอยยังเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่สอบสวนสาเหตุของโศกนาฏกรรมครั้งนี้อย่างเป็นธรรม
(ที่มา : เอเอฟพี, รอยเตอร์, เอพี)