เหตุชนนก ซึ่งถูกระบุว่าอาจเป็นหนึ่งในหลายสาเหตุของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับเครื่องบินของสายการบินเชจูแอร์เมื่อวันอาทิตย์ (29 ธ.ค.) ที่ผ่านมา ได้ก่อความกังวลเกี่ยวกับปัญหาขาดแคลนเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการด้านควบคุมนก ณ สนามบินนานาชาติมูอัน เนื่องจากพบว่าในช่วงเวลาดังกล่าวมีทีมงานเฝ้าระวังนก (BAT) เพียงรายเดียวที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ โหมกระพือคำถามว่าจำนวนพนักงานและกฎระเบียบด้านปฏิบัติการที่มีอยู่ในปัจจุบันนั้นเพียงพอหรือไม่
ปกติแล้วทีม BAT จะใช้อาวุธปืนสั้นหรือมาตรการป้องปรามอื่นๆ ในการไล่นกออกไปจากบริเวณสนามบิน และสื่อสารโดยตรงกับหอควบคุมการบิน หากสังเกตเห็นฝูงนกบริเวณใกล้เคียง
สำนักข่าวฮันคุ๊ก อิลโบ อ้างอิงแหล่งข่าวระบุว่ามีสมาชิกของ BAT เพียงแค่รายเดียวที่กำลังทำงานในช่วงเวลาที่เครื่องบินของสายการบินเชจูแอร์ประสบเหตุ ซึ่งต้องสงสัยว่าชนนก ตอนเวลาราว 8.57 น. ถึง 8.59 น. สวนทางกับถ้อยแถลงก่อนหน้านี้ของสำนักงานใหญ่ศูนย์มาตรการตอบสนองภัยพิบัติและความปลอดภัยของรัฐบาล ที่บอกว่ามีพนักงานของ BAT ปฏิบัติหน้าที่อยู่ 2 คน ในวันดังกล่าว
ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนดังกล่าวอาจมีต้นตอจากโครงสร้างเจ้าหน้าที่ของสนามบิน โดยที่ท่าอากาศยานมูอัน มีทีมงาน BAT มีสมาชิกอยู่ 4 คน ทำงานแยกกันเป็น 2 กะ แต่ในวันเกิดเหตุนั้น มี 2 คนปฏิบัติหน้าที่ระหว่างเวลา 9.00 น. ถึง 18.00 น. และมีเพียงคนเดียวทำงานตอนกลางคืน ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ถึง 9.00 น.
เนื่องด้วยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นไม่นานก่อนกะเช้าเริ่มทำงาน เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่เพียงรายเดียวอาจสังเกตเห็นสถานการณ์ผิกปกติล่าช้า สืบเนื่องจากกระบวนการเปลี่ยนกะ และเมื่อสอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ของสนามบิน ก็ได้รับคำยืนยันว่ามีสมาชิกทีม BAT เพียงรายเดียวที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ตอนที่เครื่องบินชนนก ตามรายงานของโคเรียไทม์ส
จำนวนสมาชิกทีม BAT ของสนามบินมูอัน ถือว่าค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับสนามบินอื่นๆ ที่มีขนาดพอๆ กัน ยกตัวอย่างเช่นสนามบินช็องจู และสนามบินแทกู ศูนย์กลางหลักในภาคกลางและตะวันออกเฉียงเหนือของเกาหลีใต้ ตามลำดับ แต่ละแห่งมีสมาชิกทีม BAT ถึง 8 คน มากกว่าของสนามบินมูอันถึงเท่าตัว
แม้กระทั่งเหตุเครื่องบินชนนกในประเทศเพิ่มขึ้นจาก 91 กรณีในปี 2019 เป็น 130 กรณีในปีที่แล้ว แต่ มูอัน ก็ยังไม่มีแผนเพิ่มเจ้าหน้าที่ทีม BAT โดยอ้างว่าความถี่ของเหตุชนนก ณ สนามบินแห่งนี้นั้นค่อนข้างต่ำ มีเพียงแค่ 10 เคส ระหว่างปี 2019 ถึงเดือนสิงหาคม 2024
อย่างไรก็ตาม ในข้อเท็จจริงคือ สนามบินมูอันมีอัตรานกชนมากที่สุดในประเทศ ที่ระดับ 0.09% ต่อ 11,104 เที่ยวบินของสนามบิน
สนามบินภายในประเทศส่วนใหญ่ตั้งอยู่ใกล้พื้นที่อาศัยของนกอพยพ ทำให้เสี่ยงเผชิญเหตุการณ์นกชน ผู้เชี่ยวชาญย้ำความสำคัญของการมีกำลังเจ้าหน้าที่เพียงพอและใช้เทคโนโลยีที่มีความก้าวหน้า เช่น ระบบเรดาร์ตรวจจับนก
(ที่มา : โคเรียไทม์ส)