เกาหลีใต้ในวันจันทร์ (30 ธ.ค.) ออกคำสั่งให้ทำการ "ตรวจสอบอย่างครอบคลุม" เครื่องบินโบอิ้ง 737-800 ทุกลำ ที่ปฏิบัติการโดยสายการบินต่างๆ ของประเทศ หลังเครื่องบินลำหนึ่งของสายการบินเชจูแอร์ ลงจอดกระแทกแล้วไฟลุกท่วม คร่าชีวิต 179 คนบนเครื่อง เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
เจ้าหน้าที่ด้านความปลอดภัยทางอากาศของสหรัฐฯ และตัวแทนจากโบอิ้ง ผู้ผลิตเครื่องบิน กำลังเดินทางมาถึงเพื่อร่วมทำงานกับคณะสืบสวนที่กำลังตอบสอบหายนะทางอากาศครั้งเลวร้ายที่สุดในแผ่นดินเกาหลีใต้ ซึ่งเบื้องต้นพวกเจ้าหน้าที่กล่าวโทษว่ามีต้นตอจากการชนนก
เครื่องบินกำลังพาผู้โดยสาร 181 คน บินจากประเทศไทยไปยังเกาหลีใต้ ตอนที่แจ้งเหตุฉุกเฉิน จากนั้นได้ทำการลงจอดโดยใช้ลำตัว ท่ามกลางข้อสันนิษฐานว่าระบบฐานล้ออาจขัดข้อง ก่อนพุ่งชนแนวรั้วและไฟลุกท่วม
เกือบทุกคนบนเที่ยวบิน 2216 ของสายการบินเชจูแอร์ เสียชีวิต ยกเว้นพนักงานต้อนรับบนเที่ยวบิน 2 คน ที่ได้รับบาดเจ็บและได้รับความช่วยเหลือดึงออกจากเศษซากเครื่องบิน
เกาหลีใต้เริ่มต้นไว้ทุกข์เป็นเวลา 7 วัน มีการลดธงครึ่งเสาและรักษาการประธานาธิบดีเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ ในเมืองมูอัน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ เพื่อร่วมพิธีไว้อาลัย
ชอย ซัง-ม็อก รักษาการประธานาธิบดี ซึ่งเพิ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันศุกร์ (27 ธ.ค.) บอกว่ารัฐบาลกำลังใช้ทุกความพยายาม ระบุเอกลักษณ์บุคคลเหยื่อและสนับสนุนครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมรับปากจะมีการสืบสวนอย่างละเอียดเพื่อหาต้นตอของอุบัติเหตุครั้งนี้
เขาบอกด้วยว่าเกาหลีใต้ "จะตรวจสอบความปลอดภัยของระบบปฏิบัติการเครื่องบินโดยรวมเป็นการเร่งด่วน" เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดหายนะด้านการบินซ้ำรอยในอนาคต
ที่ผ่านมา เกาหลีใต้มีประวัติความปลอดภัยด้านการบินค่อนข้างดี ขณะที่กล่องดำทั้ง 2 กล่องจากเที่ยวบิน 2216 อันประกอบด้วยบันทึกข้อมูลการบินและบันทึกการสนทนาในห้องนักบินถูกพบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
จู จอง-วาน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการบินพลเรือน เผยว่า จนถึงตอนนี้พวกเจ้าหน้าที่ระบุเอกลักษณ์บุคคลเหยื่อได้แล้ว 146 ราย โดยใช้การวิเคราะห์ดีเอ็นทีและรวบรวมลายนิ้วมือ
"เพื่อการสืบสวนอย่างครอบคลุม ประวัติการบำรุงรักษาของระบบสำคัญๆต่างๆ อย่างเช่นเครื่องยนต์และระบบฐานล้อ จะถูกตรวจสอบอย่างละเอียด สำหรับเครื่องบิน 101 ลำ ที่ปฏิบัติการโดยสายการบิน 6 แห่ง ที่ใช้เครื่องบินรุ่นเดียวกับลำที่ประสบอุบัติเหตุ" เขากล่าว "กระบวนการนี้จะดำเนินการอย่างเข้มข้น เริ่มตั้งแต่วันนี้ ไปจนถึงวันที่ 3 มกราคม 2025"
พวกผู้เชี่ยวชาญส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์หนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ หลังทำการวิเคราะห์ภาพวิดีโอการลงจอดของเที่ยวบิน 2216 โดยมุ่งเน้นไปที่ข้อสันนิษฐานที่ว่าโครงสร้างของสนามบินมีส่วนเกี่ยวข้องกับโศกนาฏกรรมครั้งนี้หรือไม่
คิม ควาง-อิล ศาสตราจารย์ด้านวิทยาศาสตร์การบิน ณ มหาวิทยาลัยซิลลา ซึ่งเป็นอดีตนักบิน กล่าวว่าเขารู้สึกหัวเสียมาก ตอนที่ได้ตรวจสอบวิดีโอที่เผยให้เห็นภาพกำลังเครื่องบินกำลังลงจอดฉุกเฉินอย่างชำนาญ แต่ทันใดนั้นมันพุ่งชนเข้าชนกำแพง "มันไม่ควรมีโครงสร้างแข็งใดๆ อยู่ในบริเวณดังกล่าวเลย"
"ปกติแล้ว ในส่วนท้ายสุดของรันเวย์จะไม่มีสิ่งกีดขวางแข็งเช่นนี้ มันสวนทางกับมาตรฐานความปลอดภัยด้านการบินระหว่างประเทศ สิ่งปลูกสร้างดังกล่าวเป็นเหตุให้เครื่องบินเกิดการกระแทกและไฟลุกท่วม" เขากล่าว "บริเวณด้านนอกสนามบิน ปกติแล้วมีแค่รั้ว ซึ่งไม่แข็งและจะไม่ก่อความเสียหายร้ายแรงใดๆ เครื่องบินสามารถไถลไปได้ไกลกว่านั้นและหยุดเองโดยธรรมชาติ น่าเสียใจอย่างยิ่งที่มีสิ่งปลูกสร้างที่ไม่จำเป็นนี้"
(ที่มา : เอเอฟพี)