นับเป็นดรามาชะตาขาดอย่างสาหัสสำหรับ เชจู แอร์ เที่ยวบินที่ 7C 2216 ของเกาหลีใต้ ในเช้าวันอาทิตย์ 29 ธันวาคม 2024 ซึ่งประสบเหตุเภทภัยซ้ำซ้อน 2-3 รายการ ตั้งแต่การปะทะกับฝูงนกขณะเตรียมตัวลงสู่รันเวย์ ที่นอกจากจะทำให้เครื่องยนต์ตัวหนึ่งระเบิดกลางอากาศ เห็นเป็นควันสีขาวอย่างชัดเจนได้ด้วยตาเปล่าจากภาคพื้นดินแล้ว ยังส่งผลให้ระบบแลนดิ้ง เกียร์ (Landing Gear) เสียหาย ล้อไม่สามารถกางออกมาสนับสนุนการลงแตะพสุธาอย่างราบรื่นได้
อีกทั้งยังอาจจะมีอีกหนึ่งวิกฤตตัวไคลแมกซ์ ที่นำไปสู่โศกนาฏกรรมหมู่ 179 ชีวิตในไฟลต์มรณะ “ล้อไม่กาง” กล่าวคือ แม้นักบินพยายามสุดความสามารถในการแลนดิ้งได้สำเร็จโดยใช้วิธีลงรันเวย์ด้วยท้องลำเรือ ที่เห็นได้ว่าน่าจะโอเค แต่กระนั้น เที่ยวบินที่ 7C 2216 ก็หนีไม่พ้นเงื้อมมือมัจจุราช
เพราะขณะตัวเครื่องพุ่งไปตามรันเวย์ด้วยความเร็วสูง โดยที่นักบินปราศจากล้อที่จะใช้ควบคุมให้ลำเรือมั่นคงอยู่บนรันเวย์ ตลอดจนไม่มีเครื่องมือลดความเร็วได้เลยนั้น โบอิ้ง 737-800 ลำนี้ที่มีน้ำหนักกว่า 41 ตัน เฉี่ยวชนกับอุปกรณ์ด้านทิศทาง และอาจเป็นเหตุให้เกิดการไถลหลุดออกจากรันเวย์ แล้วพุ่งเข้าชนโครมวินาศสันตะโรกับกำแพง สร้างแรงกระทบกระแทกที่ก่อให้เกิดระเบิดรุนแรงกลายเป็นเพลิงไหม้มโหฬารโหมไปท่วมทั่วลำเรืออย่างน่าสะพรึงกลัว
โศกนาฏกรรมครั้งร้ายแรงจึงอุบัติขึ้นอย่างเหลือเชื่อเหนือความคาดหมายกันจริงๆ โดยผู้คน 179 รายจากทั้งหมด 181 ราย เสียชีวิตในวินาศภัยอันน่าสลดใจ ในช่วงเช้าวันนี้ เวลาประมาณ 08.30 น. ของวันอาทิตย์ที่ 29 ธันวาคม 2024 ณ ท่าอากาศยานนานาชาติมูอัน จังหวัดซ็อลลาใต้ สาธารณรัฐเกาหลี
โดยสถานการณ์ชะตาขาดขั้นสุดนี้ เป็นหายนะภัยทางอากาศครั้งร้ายแรงครั้งแรกของสายการบินเชจู แอร์ นับจากที่เปิดให้บริการในปี 2005
โดนเข้าจนได้ : ซีเอ็นเอ็นรายงาน 2 นาทีชีวิต หลังหอบังคับการบินแจ้งเตือนไฟลต์ 7C 2216 ให้ระวังฝูงนก แล้วไม่ทันจะ 60 วินาที นักบินก็รัวสัญญาณเมย์เดย์ๆ ขอความช่วยเหลือ
นักบินของไฟลต์ 7C 2216 ของเชจู แอร์ รัวสัญญาณแจ้งเหตุฉุกเฉินและขอความช่วยเหลือไปยังหอบังคับการบินแห่งท่าอากาศยานนานาชาติมูอัน หลังจากที่หอบังคับการบินเพิ่งจะเตือนให้ระวังปัญหาจากฝูงนกซึ่งปรากฏมากมายในรันเวย์ 01 ของสนามบิน ซีเอ็นเอ็นรายงานโดยอ้างอิงตามคำแถลงสรุปสถานการณ์ของทางการเกาหลีใต้
ในตอนต้นนั้น เครื่องบินเจ็ตลำนี้เตรียมจะลงจอดโดยใช้รันเวย์หมายเลข 01 โดยที่หอบังคับการบินเพิ่งแจ้งเตือนว่ามีนกจำนวนมากอยู่ในพื้นที่ และเตือนให้ระวังเพราะมีโอกาสที่ลำเรือจะปะทะกับฝูงนก
หลังจากนั้นเพียง 1 นาที นักบินก็ส่งสัญญาณแจ้งเหตุฉุกเฉิน เมย์เดย์ๆ และขอความช่วยเหลือกลับไป
หอบังคับการบินจึงสั่งให้ตรงไปใช้รันเวย์หมายเลข 19 ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับรันเวย์ 01
นักบินปฏิบัติตามนั้น และในเสี้ยววินาทีหนึ่งของความฉุกเฉินโกลาหล ตัวเครื่องบินโบอิ้ง 737-800 ก็เฉี่ยวชนเข้ากับอุปกรณ์จับสัญญาณทิศทาง
แล้วซีนต่อมาก็คือ ดรามาชีวิตจริงที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดและสายธารน้ำตาแห่งดวงใจอันแตกสลาย เมื่อลำเรือพุ่งโครมเข้าบดขยี้กับกำแพง ซึ่งทั้งหมดนี้อุบัติขึ้นภายในเวลาเพียง 2 นาทีนับจากที่นักบินส่งสัญญาณเมย์เดย์ไปยังหอบังคับการบิน ซีเอ็นเอ็นรายงาน
ทั้งนี้ มีการค้นพบกล่องดำที่บันทึกข้อมูลการบินแล้ว แต่กล่องดำที่บันทึกเสียงยังอยู่ระหว่างการกอบกู้ คำแถลงสรุปสถานการณ์ระบุไว้อย่างนั้น
พบ 2 รายรอดชีวิตได้อย่างมหัศจรรย์ ทั้งคู่เป็นลูกเรือซึ่งนั่งที่บริเวณท้ายลำ!! โดยหนึ่งรายสามารถให้ปากคำว่า ได้ยินเสียงเครื่องยนต์ระเบิด 1 ครั้ง
ที่ผ่านมาในช่วงก่อนเที่ยง หน่วยกู้ภัยแห่งจังหวัดซ็อลลาใต้ทำการนำผู้รอดชีวิตอย่างมหัศจรรย์จำนวน 2 ราย ออกมาจากพื้นที่ส่วนหางของซากโบอิ้ง 737-800 ที่ถูกเพลิงพลุ่งโพลงฉายฉานลุกลามทำลายชีวิตและทรัพย์สินไปทั่วทั้งลำ
ทั้งคู่เป็นลูกเรือ โดยรายหนึ่งเป็นเพศชาย และอีกรายหนึ่งเป็นเพศหญิง ทั้งสองถึงโรงพยาบาลได้อย่างปลอดภัยภัยแล้ว ซีเอ็นเอ็นรายงานอย่างนั้น
ทั้งนี้ หนึ่งในลูกเรือสุดยอดด้านดวงชะตาชีวิตแข็งแกร่ง ซึ่งไม่มีการเปิดเผยนาม เล่าจากเตียงผู้ป่วยว่าหนึ่งในเครื่องยนต์ของโบอิ้ง 737-800 ลำนี้เกิดระเบิดดังกลางอากาศ โดยมองเห็นควันสีขาว ขณะที่อยู่เหนือท่าอากาศยานนานาชาติมูอัน ตอนเวลาประมาณ 8.30 น. เดลิเมลออนไลน์รายงาน พร้อมนำเสนอภาพเหตุการณ์ในภาพที่ 3 และภาพที่ 4
ฝูงนกปะทะกับลำเรือเป็นหนึ่งในทฤษฎีอธิบายสาเหตุของหายนะภัยทั้งหมดที่จบลงด้วยการพุ่งชนกำแพงและเกิดเพลิงไหม้ทำลายชีวิตตลอดจนทรัพย์สินทั้งปวง เดลิเมลออนไลน์รายงานอย่างนั้น
พร้อมให้ข้อมูลว่าโศกนาฏกรรมนี้อาจเริ่มขึ้นเมื่อมีการปะทะกับฝูงนก ทำให้ระบบแลนดิ้งเกียร์ (ซึ่งประกอบด้วยชุดล้อหลัก กับล้อสนับสนุนที่ทำหน้าที่รับแรงกระแทกขณะร่อนลง) เสียหาย ล้อไม่กาง ในเวลาที่เครื่องบินของเชจู แอร์ เตรียมลงสู่รันเวย์
สำหรับในส่วนของเหยื่อรายอื่นๆ แห่งหายนะภัยร้ายแรงอย่างยิ่งยวดนี้ อีกจำนวน 179 รายนั้น ไม่สามารถมีปาฏิหาริย์มาช่วยให้รอดชีวิตได้ โดยหน่วยกู้ภัยสามารถกอบกู้ร่างผู้เสียชีวิตออกมาได้แล้วทั้งหมด ในการนี้ มีไม่น้อยกว่า 11 รายอยู่ในสภาพที่ยังไม่สามารถระบุเพศได้!!
ส่วนสำหรับชาวไทยสองรายที่อยู่ในกลุ่มผู้เสียชีวิตนั้น จะไม่ตายเปล่าอย่างแน่นอน โดยในขณะนี้ เรื่องราวความช่วยเหลือสนับสนุนและการจ่ายค่าชดเชยแก่ผู้ที่เสียชีวิตและบาดเจ็บ ตลอดจนครอบครัวนั้น กระทรวงต่างๆ ที่เกี่ยวข้องของเกาหลีใต้เริ่มแจ้งข้อมูลบ้างแล้ว โดยจะมีกระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการเข้าไปกำกับดูแล
ในเวลาเดียวกัน ซีอีโอของสายการบินเชจู แอร์ ก็ประกาศจะ “รับผิดชอบอย่างเต็มที่” ต่อโศกนาฏกรรมเครื่องบินระเบิดในครั้งนี้ เดลิเมลออนไลน์รายงาน
อุบัติเหตุการบินล่าสุดก่อนปิดท้ายปี 2024 ที่นครมูอัน จังหวัดซ็อลลาใต้ เป็นโศกนาฏกรรมที่ร้ายแรงที่สุดของสาธารณรัฐเกาหลี นับจากเมื่อคราวเครื่องบินของสายการบินโคเรียน แอร์ พุ่งชนภูเขาบนเกาะกวม ในปี 1997 ที่ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากมายถึง 229 ราย
ขณะนี้ นครมูอัน บ้านเมืองแสนงดงามแห่งจังหวัดช็อลลาใต้ ถูกประกาศว่า พื้นที่อำเภอทางตะวันตกเฉียงใต้ของซ็อลลาใต้ เป็นโซนพิเศษที่ประสบหายนะภัยร้ายแรง ซึ่งจะทำให้ได้รับความช่วยเหลือสนับสนุนอย่างเต็มที่จากรัฐบาลในกรุงโซล
คอลัมน์ PLANET No.3
โดย รัศมี มีเรื่องเล่า
(ที่มา : ซีเอ็นเอ็น เดลิเมลออนไลน์ สำนักข่าวยอนฮับ)