โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ส่งคำร้องถึงศาลสูงสุดสหรัฐฯ ในวันศุกร์ (27 ธ.ค.) ขอให้หยุดการแบนติ๊กต็อก ที่ทำท่าจะเกิดขึ้นในช่วงกลางเดือนมกราคม 2025 เอาไว้ก่อน จนกว่าคณะบริหารของเขาจะสามารถแสวงหา “หนทางทางการเมือง” เพื่อแก้ไขคลี่คลายประเด็นปัญหานี้
คำร้องขอนี้บังเกิดขึ้นขณะที่ทั้งติ๊กต็อก และคณะบริหารไบเดน ต่างได้ยื่นคำแถลงสรุปสาระสำคัญของฝ่ายตนต่อศาลสูงสุด โดยที่ของฝ่ายติ๊กต็อกระบุว่าศาลควรยกเลิกกฎหมายฉบับที่มีเนื้อหาระบุให้แบนแพลตฟอร์มคลิปวิดีโอสั้นนี้ภายในวันที่ 19 มกราคม ขณะที่ของฝ่ายรัฐบาลย้ำจุดยืนของพวกเขาที่ว่ากฎหมายฉบับนี้มีความจำเป็นเพื่อใช้ขจัดความเสี่ยงที่มีต่อความมั่นคงแห่งชาติ
“ประธานาธิบดีทรัมป์ ไม่ขอเข้าข้างฝ่ายใดในเรื่องคุณค่าที่อยู่เบื้องลึกลงไปของข้อพิพาทนี้ ตรงกันข้าม เขาขอร้องด้วยความเคารพให้ศาลพิจารณาสั่งหยุดพักเส้นตายตามรัฐบัญญัติฉบับนี้สำหรับการให้ล้มเลิกกิจการ (ของติ๊กต็อกในอเมริกา) ณ วันที่ 19 มกราคม 2025 ขณะที่ศาลกำลังพิจารณาคุณค่าของคดีนี้อยู่” เป็นเนื้อหาในคำแถลงที่ทรัมป์ยื่นเสนอในฐานะเป็นคำแถลงสรุปความเห็นของบุคคลภายนอก
การยื่นคำแถลงต่อศาลสูงสุดเช่นนี้ เป็นตัวอย่างล่าสุดของการที่ ทรัมป์ พาตัวเองเข้าสอดแทรกในประเด็นปัญหาระดับชาติต่างๆ ตั้งแต่ก่อนที่เขาจะขึ้นรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ โดยว่าที่ประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันผู้นี้ยังได้เริ่มต้นเปิดการเจรจากับประเทศต่างๆ เกี่ยวกับแผนการของเขาในเรื่องจะจัดเก็บภาษีศุลกากรในอัตราเพิ่มสูงขึ้น ตลอดจนการที่เมื่อต้นเดือนนี้เขาได้เข้าแทรกแซงในแผนการจัดสรรงบประมาณของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ด้วยการเรียกร้องให้ปฏิเสธแผนการที่พวกสมาชิกพรรคใหญ่ทั้งสองในรัฐสภาตกลงกันเอาไว้แล้ว ส่งผลให้ทางรีพับลิกันต้องขอกลับมาเจรจาต่อรองกันใหม่อีกครั้ง
ทรัมป์ยังกำลังจัดการพบปะหารือกับพวกผู้นำต่างประเทศและพวกเจ้าหน้าที่ของภาคธุรกิจ ณ มาร์-อะ-ลาโก สโมสรกอล์ฟส่วนตัวที่รัฐฟลอริดาของเขาอยู่เป็นประจำ รวมทั้งการพบปะหารือเมื่อสัปดาห์ที่แล้วกับ โจว โซ่วจือ ซีอีโอติ๊กต็อก
ทรัมป์นั้นได้ย้อนศรจุดยืนของเขาเกี่ยวกับแอปยอดนิยมตัวนี้ จากที่เคยพยายามแบนมันในสมัยแรกที่เขาครองทำเนียบขาวด้วยเหตุผลว่ามีข้อน่ากังวลเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งชาติ ทว่าในการรณรงค์หาเสียงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีปี 2024 เขาสมัครเข้าใช้ติ๊กต็อก และทีมของเขาก็ใช้แพลตฟอร์มนี้ในการติดต่อเชื่อมโยงกับพวกผู้ออกเสียงรุ่นอายุน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ออกเสียงที่เป็นชาย ด้วยการผลักดันคอนเทนต์ที่มักเป็นเรื่องโอ้อวดความเป็นลูกผู้ชายและมีจุดมุ่งหมายจะให้มันกลายเป็นเรื่องไวรัล
เขาเคยแถลงเอาไว้ก่อนหน้านี้ในปีนี้ว่า เขายังคงเชื่อว่าติ๊กต็อกมีปัญหาเรื่องความเสี่ยงด้านความมั่นคงแห่งชาติ แต่เขาก็คัดค้านไม่เห็นด้วยกับการแบนแอปตัวนี้แล้ว
การยื่นคำแถลงของฝ่ายต่างๆ ในวันศุกร์ (27) คราวนี้ มีขึ้นก่อนหน้ากำหนดนัดหมายการโต้แย้งกันด้วยปากเปล่าต่อศาลสูงสุดซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 10 มกราคม 2025 ในประเด็นที่ว่ากฎหมายฉบับนี้ซึ่งมุ่งหมายให้ติ๊กต็อก แยกตัวออกมาจากชัดเจนจากบริษัทแม่ คือ บริษัทไบต์แดนซ์ ในประเทศจีน หรือไม่ก็จะต้องถูกสั่งแบนนั้น เป็นการจำกัดเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ซึ่งล่วงละเมิดบทแก้ไขที่ 1 ของรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ หรือไม่ โดยที่กฎหมายนี้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้ลงนามประกาศใช้เป็นกฎหมายไปแล้วในเดือนเมษายนที่ผ่านมา หลังจากสามารถผ่านรัฐสภาออกมาได้โดยได้รับการสนับสนุนอย่างกว้างขวางจากพรรคใหญ่ทั้ง 2 พรรค จากนั้นติ๊กต็อก และ ไบต์แดนซ์ ได้ยี่นฟ้องศาลคัดค้านกฎหมายฉบับนี้
หลังจากศาลชั้นต้นของสหรัฐฯ ตัดสินว่ากฎหมายฉบับนี้ออกมาอย่างถูกต้องชอบธรรมแล้ว เมื่อต้นเดือนธันวาคมนี้ คณะผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ก็ตัดสินยืนตามศาลชั้นต้นอีก ทำให้ติ๊กต็อกยื่นอุทธรณ์คดีนี้ไปถึงขั้นศาลสูงสุด
คำแถลงสรุปจากฝ่ายทรัมป์ในวันศุกร์ บอกว่าเขาคัดค้านการแบนติ๊กต็อกในช่วงจังหวะนี้ และต้องการที่จะ “หาทางให้ (ตัวเขา) ยังคงมีความสามารถอยู่ในมือสำหรับการแก้ไขคลี่คลายประเด็นปัญหานี้โดยผ่านหนทางการเมืองในทันทีที่เขาเข้าดำรงตำแหน่ง”
(ที่มา : เอพี)