ระบบป้องกันภัยทางอากาศของรัสเซียน่าจะเป็นตัวการทำให้เครื่องบินโดยสารของอาเซอร์ไบจานตกโหม่งโลกเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา โฆษกความมั่นคงทำเนียบขาวระบุในวันศุกร์ (27 ธ.ค.) ภายหลังจากรัฐมนตรีผู้หนึ่งของอาเซอร์จานก็เสนอแนะโดยอ้างการวิเคราะห์ของพวกผู้เชี่ยวชาญ และคำบอกเล่าของผู้รอดชีวิตว่าเครื่องบินลำดังกล่าวคงจะถูกเล่นงานด้วยอาวุธ
เครื่องบินโดยสารไอพ่นลำนี้ตกลงใกล้ๆ เมืองออคเตา ของคาซัคสถานเมื่อวันพุธ (25) ทำให้ผู้อยู่บนเครื่องบินเสียชีวิต 38 คนจากทั้งหมด 67 คน โดยผู้รอดชีวิต 29 คนต่างก็ได้รับบาดเจ็บกันทุกคน ทั้งนี้ภายหลังจากได้พยายามร่อนลงจอดที่จุดหมายปลายทางคือเมืองกรอซนีย์ ในแคว้นเชชเนีย ของรัสเซีย แต่ไม่ประสบความสำเร็จ จากนั้นจึงหันเหเส้นทางโดยบินข้ามทะเลแคสเปียนก่อนประสบชะตากรรม
การประเมินในวันศุกร์ (27) ของราชัน นาบิเยฟ รัฐมนตรีการพัฒนาทางดิจิทัลและคมนาคมอาเซอร์ไบจาน และจอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว เป็นการสะท้อนความเห็นของพวกผู้เชี่ยวชาญด้านการบินภายนอกซึ่งกล่าวโทษว่าสาเหตุที่ทำให้เครื่องบินตก ก็เนื่องจากระบบป้องกันภัยทางอากาศที่รัสเซียยิงออกมาเพื่อรับมือกับการโจมตีด้วยฝูงโดรนของฝ่ายยูเครน เวลานี้คำพูดเหล่านี้เพิ่มแรงกดดันต่อมอสโกมากขึ้นเรื่อยๆ
เคอร์บีกล่าวว่า สหรัฐฯ มองเห็น “พวกสิ่งบ่งชี้ในเบื้องต้น” ที่ว่ารัสเซียอาจเป็นผู้รับผิดชอบทำให้เครื่องบินของสายการบินอาเซอร์ไบจานแอร์ไลน์ส ตกโหม่งโลกในคาซัคสถานเมื่อวันพุธ เขาไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมมากกว่านี้ โดยกล่าวว่าการสอบสวนยังอยู่ระหว่างดำเนินการกันอยู่ แต่บอกกับพวกผู้สื่อข่าวว่าสหรัฐฯ ได้เสนอให้ความช่วยเหลือการสอบสวนในกรณีนี้
เมื่อถูกพวกผู้สื่อข่าวซักไซ้ว่า สหรัฐฯ มีข่าวกรองที่ช่วยนำไปสู่ข้อสรุปดังที่ว่า หรือเพียงแต่กำลังพึ่งพาการคาดเดาแบบมีพื้นฐานความรู้รองรับจากพวกผู้เชี่ยวชาญโดยอิงอาศัยการประเมินสภาพการตกที่มองเห็น เคอร์บีก็ใช้วิธีตอบคำถามอย่างสั้นๆ ว่า “ครับ” ก่อนบอกว่าเขาจะขอทิ้งเรื่องนี้เอาไว้แค่นี้ โดยไม่ให้รายละเอียดเพิ่มเติมอีก
สำหรับทางสายการบินและรัฐมนตรีการพัฒนาดิจิทัลและคมนาคมอาเซอร์ไบจานแถลงก่อนหน้านั้นวันเดียวกัน อ้างอิงผลการสอบสวนเบื้องต้นที่ออกมาซึ่งชี้ว่า เครื่องบินได้รับความเสียหายด้วย “การแทรกแซงจากภายนอก” ทางกายภาพ
“โดยอิงอยู่กับความเห็นของพวกผู้เชี่ยวชาญ และจากปากคำของพวกผู้เห็นเหตุการณ์ สามารถที่จะสรุปได้ว่ามันมีการแทรกแซงจากภายนอก” รัฐมนตรีนาบิเยฟ บอกกับพวกผู้สื่อข่าว พร้อมกับกล่าวต่อไปว่า จำเป็นต้องค้นให้พบว่า “การแทรกแซงจากภายนอก” ทางกายภาพนี้มาจากอาวุธชนิดใด โดยเขาอ้างอิงรายงานคำบอกเล่าของพวกผู้รอดชีวิตที่ระบุว่า “มีการระเบิด 3 ครั้ง” ขณะเครื่องบินกำลังบินเหนือกรอซนีย์
ด้านสายการบินอาเซอร์ไบจานแอร์ไลน์สแถลงว่า ได้สั่งระงับเที่ยวบินต่างๆ ที่บินไปยังท่าอากาศยานรัสเซีย 10 แห่งแล้ว และกล่าวด้วยว่าผลการสอบสวนเบื้องต้นบ่งชี้ว่าการตกของเที่ยวบิน J2-8243 ที่บินระหว่างบากู-กรอซนีย์ นี้ “เนื่องจากการแทรกแซงจากภายนอกทั้งทางกายภาพและทางเทคนิค”
ในส่วนของผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนของรัสเซีย ดมิตริ ยาดรอฟ กล่าวในวันศุกร์ (27) เช่นกันว่า ในเวลาที่เครื่องบินเคราะห์ร้ายพยายามที่จะลงจอด เมืองกรอซนีย์กำลังถูกโดรนหลายลำของยูเครนโจมตี
“สถานการณ์ในวันดังกล่าวและในชั่วโมงเหล่านี้ในพื้นที่ท่าอากาศยานกรอซนีย์ มีความสลับซับซ้อนมาก” ยาดรอฟ บอก “การโจมตีโดยใช้พวกโดรนของฝ่ายยูเครนในช่วงเวลาดังกล่าว กำลังเป็นการโจมตีแบบผู้ก่อการร้ายใส่พวกโครงสร้างพื้นฐานทางพลเรือนในกรอซนีย์ และวลาดิคาฟคาซ” ทั้งนี้ วลาดิคาฟคาซ ที่ยาดรอฟพูดถึง เป็นเมืองใหญ่อีกแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆ กรอซนีย์
เขากล่าวว่า นักบินชาวอาเซอร์ไบจานได้ “พยายาม 2 ครั้งเพื่อนำเครื่องลงจอดในกรอซนีย์ทว่าไม่ประสบความสำเร็จ” ใน “ท่ามกลางหมอกหนา” จากนั้น “นักบินได้รับข้อเสนอให้ไปลงที่ท่าอากาศยานแห่งอื่นๆ เขาตัดสินใจที่จะไปยังท่าอากาศยานออคเตา”
“การระเบิด”
ทางด้านทำเนียบเครมลินนั้นยังคงปฏิเสธไม่ขอออกความเห็นเกี่ยวกับเที่ยวบินโหม่งโลกนี้ โดย ดมิตริ เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน บอกกับพวกผู้สื่อข่าวในวันศุกร์ว่า “หากยังไม่มีข้อสรุปจากการสอบสวน เราก็ไม่เห็นว่าเรามีสิทธิที่จะออกความเห็นใดๆ และเราก็จะไม่ทำอย่างนั้นด้วย”
พวกผู้เชี่ยวชาญด้านการบินและด้านการทหารบางราย ชี้ไปที่ร่องรอยความเสียหายจากพวกเศษวัตถุระเบิดซึ่งปรากฏอยู่บนซากเครื่องบินตก โดยมองว่ามันเป็นหลักฐานแสดงว่าเครื่องบินถูกระบบป้องกันภัยทางอากาศเล่นงาน
เว็บไซต์ “คาลิเบอร์” ที่มีแนวทางโปรรัฐบาลอาเซอร์ไบจาน และสื่ออื่นๆ หลายแห่งต่างรายงานโดยอ้างอิงพวกเจ้าหน้าที่อาเซอร์ไบจานที่ไม่ระบุนามซึ่งกล่าวว่า พวกเขาเชื่อว่าขีปนาวุธรัสเซียลูกหนึ่งที่ยิงออกจากระบบป้องกันภัยทางอากาศ “แพนต์เซอร์-เอส1” เป็นสาเหตุทำให้เครื่องบินตกในที่สุด
ด้านประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ออกมาเรียกร้องให้ดำเนินการสอบสวนเรื่องนี้อย่างถี่ถ้วน พร้อมกันนั้นก็กล่าวโทษว่าจากหลักฐานซึ่งปรากฏที่จุดเครื่องบินตกชี้ชัดว่ารัสเซียคือผู้รับผิดชอบเหตุโศกนาฏกรรมนี้
(ที่มา : เอพี, เอเอฟพี)