เอเจนซีส์/เอพี/MGRออนไลน์ - ภรรยาอดีตผู้นำดามัสกัส อัสมา อัล-อัสซาด ลือยื่นหนังสือหย่าขาดจากสามี อดีตประธานาธิบดีซีเรีย บาชาร์ อัล-อัสซาด อ้างเหตุผลทนไม่ได้กับสภาพชีวิตในกรุงมอสโก เล็งหอบลูกหนีกลับไปแดนผู้ดี หลังอดีตผู้นำเผด็จการซีเรียออกแถลงการณ์แรกหลังโดนโค่น อ้างเตรียมแผนสู้แต่จำใจหนี ได้ปูตินพาเข้าฐานลาตาเกียก่อนโดนโดรนโจมตีเพิ่งบินออกไปรัสเซียได้ตอนค่ำวันอาทิตย์ (8 ธ.ค.) วันเดียวที่ดามัสกัสล่ม ฮือฮาขนทองคำหนัก 270 กิโลกรัม เงินสด 2 พันล้านดอลลาร์ขึ้นเครื่อง RUS หนีเข้ารัสเซีย
เยรูซาเลมโพสต์ของอิสราเอลรายงานวันอาทิตย์ (22 ธ.ค.) ว่า อัสมา อัล-อัสซาด (Asma al-Assad) เกิดในอังกฤษมีรายงานว่าได้ยื่นหนังสือหย่าขาดจากสามีอดีตผู้นำซีเรีย อดีตประธานาธิบบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด
ทั้งนี้ พบว่าเธอย้ายมาซีเรียเมื่อปี 2000 และได้สมรสกับอัสซาดในปีเดียวกัน ในขณะที่มีอายุได้เพียงแค่ 25 ปี
สื่อยิวรายงานโดยอ้างจากการรายงานจากสื่อตุรกีและสื่ออาหรับที่เผยแพร่ไปทั่วในวันอาทิตย์ (22) ว่า เหตุผลของภริยาผู้นำต้องการขอหย่าขาดเนื่องมาจากอ้างว่า ทนสภาพชีวิตต้องอาศัยในกรุงมอสโกไม่ไหวต้องการย้ายกลับไปกรุงลอนดอน และคาดว่าอาจจะนำลูกๆ ย้ายกลับไปด้วย
ทั้งนี้ อัสมาได้ยื่นเรื่องต่อศาลรัสเซียและร้องขอการอนุญาตพิเศษเพื่อขอเดินทางออกจากกรุงมอสโก ซึ่งปัจจุบันเจ้าหน้าที่รัสเซียกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณา
อัสมา อัล-อัสซาดถือ 2 สัญชาติทั้งอังกฤษและซีเรีย โดยเธอเกิดและเติบโตในกรุงลอนดอนจากพ่อแม่ชาวซีเรีย อ้างอิงจากบีบีซีของอังกฤษ
ขณะที่รัสเซียอนุญาตให้อดีตประธานาธิบดีซีเรีย บาชาร์ อัล-อัสซาด สามารถได้สิทธิลี้ภัยในกรุงมอสโก แต่ทว่าเขามีรายงานโดนจำกัดอย่างสูง เขาไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางออกจากกรุงมอสโก หรือเกี่ยวข้องกับความเคลื่อนไหวทางการเมืองใดๆ
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่รัสเซียได้สั่งแช่แข็งทรัพย์สินและเงินของเขา โดยพบว่าทรัพย์สินของอดีตผู้นำเผด็จการซีเรียมีมหาศาลรวม ทองคำหนัก 270 กิโลกรัม ทรัพย์สินรวม 2 พันล้านดอลลาร์ และมีอพาร์ตเมนต์อีก 18 แห่งในกรุงมอสโก
ซึ่่งสื่ออินเดีย NDTV รายงานว่า มีรายงานอ้างว่า ทรัพย์สินมูลค่า 2 พันล้านดอลลลาร์นี้อยู่ในรูปเงินสด
ขณะที่สื่อปากีสถาน ฮัมนิวส์ (Hum News) รายงานว่า บีบีซีได้เคยรายงานเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. ที่ผ่านมาว่า ดร.เนสริน อัลรีไฟ (Nesrin Alrefaai) ศาสตราจารย์อาคันตุกะประจำวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์และรัฐศาสตร์แห่งลอนดอน LSE ได้ให้สัมภาษณ์ว่า พ่อของอัสมา ดร.ฟาวาซ อัล-อัคฮ์ราส (Dr Fawaz al-Akhras) ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญโรคหัวใจ มีรายงานว่า อาศัยอยู่ที่รัสเซียนับตั้งแต่โดนสหรัฐฯ คว่ำบาตร และมารดาของอัสมานั้นเป็นอดีตเจ้าหน้าทีการทูตเกษียณอายุ
ในการหลบหนีเข้ากรุงมอสโกที่มีประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน มีรายงานว่าเป็นคนไฟเขียวอนุญาตปฏิบัติการช่วยอัสซาดหนีด้วยตัวเองนั้นพบว่า ฮัมนิวส์รายงานโดยชี้ว่า อดีตผู้นำดามัสกัส บาชาร์ อัล-อัสซาด ด้วยความเร่งรีบได้นำทองคำหนักร่วม 270 กิโลกรัม และเงินอีก 2 พันล้านดอลลาร์ติดตัวไปด้วย แต่ทว่าทรัพย์สินของอัสซาดเหล่านี้ในเวลาต่อมาโดนทางการเครมลินสั่งยึดไว้ชั่วคราว
ทั้งนี้ น้องชายอัสซาด มาเฮอร์ อัล-อัสซาด (Maher al-Assad) ไม่ได้รับอนุญาตให้ลี้ภัยในรัสเซีย แต่เขาได้ยื่นเรื่องขอต่อมอสโกที่ปัจจุบันอีกเช่นกันกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณา อ้างอิงจากสื่อซาอุฯ และตุรกี และพบว่ามาเฮอร์ และครอบครัวถูกสั่งกักบริเวณภายในบ้านในรัสเซีย
รัฐบาลพรรคบาธ (Bath party) หรือพรรคอาหรับสังคมนิยมบาธแห่งซีเรียนั้นครองอำนาจมานานเป็นเวลา 61 ปี ก่อนอัสซาดจะถูกโค่นล้มลงโดยกบฏซีเรีย HTS ซึ่งเยรูซาเลมโพสต์รายงานว่า สหรัฐฯ ได้ตัดสินใจยกเลิกค่าหัว 10 ล้านดอลลาร์ของหัวหน้า อาบู โมฮัมหมัด อัล-จูลานี (Abu Mohammad al-Julani) เยรูซาเลมโพสต์รายงาน
ซึ่งสกายนิวส์ของอังกฤษรายงานวันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมาว่า อัสซาดได้เปิดปากต่อสาธารณะเป็นครั้งแรกหลังจากโดนโค่นล้ม
โดยในการโพสต์ผ่านโซเชียลมีเดียบนบัญชีทางการของประธานาธิบดีซีเรียทางช่องทางเทเลแกรมยอมรับว่า รัสเซียช่วยเขาหลบหนีออกจากกรุงดามัสกัส
โดยในแถลงการณ์ อัสซาดยังอ้างว่า เขามีแผนสู้รบกับกลุ่มกบฏก่อน 'รัสเซีย' จะพาเขาและครอบครัวหนีไปยังฐานทัพอากาศลาตาเกียของรัสเซีย
แถลงการณ์ระบุว่า อดีตผู้นำซีเรียหลบหนีออกนอกกรุงดามัสกัสไปยังกรุงมอสโกในวันอาทิตย์ที่ 8 ธ.ค. อ้างอิงจากเอพีรายงานว่า กรุงดามัสกัสแตกเมื่อเช้าของวันนั้น (8) และหลังจากตะวันรุ่งพ้นขอบฟ้าไปแล้ว ประชาชนซีเรียต่างพากันไปสวดภาวนาขอพรในมัสยิดและเฉลิมฉลองที่จัตุรัสกรุงดามัสกัสพร้อมตะโกนว่า “พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่” ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ความมั่นคงซีเรียทั้งตำรวจและทหารต่างละทิ้งหนีจากที่ตั้งด่านตรวจต่างๆ
อย่างไรก็ตาม ในคำแถลงทางการของอัสซาดนั้น เจ้าตัวอ้างว่า เขาออกเดินทางจากกรุงดามัสกัสเพื่อไปยังรัสเซียในวันที่ 8 ธ.ค. หรือ 1 วันหลังซีเรียล่ม พร้อมเสริมว่า
“ในไม่มีช่วงเวลาใดในช่วงเหตุการณ์เหล่านี้ที่ข้าพเจ้าพิจารณาต่อการออกจากตำแหน่งหรือหาที่ลี้ภัย”
“มีแต่การกระทำที่ยังคงต่อสู้ต่อต้านต่อการฆ่าและสังหารจากฝีมือของพวกก่อการร้าย”
และอดีตประธานาธิบดีซีเรียอ้างว่า ตัวเองยังคงอยู่ในกรุงดามัสกัสเพื่อทำหน้าที่ของตัวเองต่อไปจนกระทั่งกองกำลังกลุ่มกบฏซีเรียได้เข้ามาถึงในกรุง และเมื่อนั้นในการประสานกับกองกำลังรัสเซียทำให้เขาต้องโดนบังคับเคลื่อนย้ายไปหลบที่ฐานทัพอากาศรัสเซียใน จ.ลาตาเกียของซีเรีย
อัสซาดกล่าวในการโพสต์ต่อว่า แต่ด้วยเหตุผลเป็นที่ประจักษ์ว่ากองกำลังซีเรียของเขาแพ้อย่างย่อยยับต่อการรุกคืบของกลุ่มกบฏ และแม้กระทั่งฐานทัพอากาศลาตาเกียของรัสเซียที่อัสซาดและครอบครัวหลบอยู่ยังโดนโจมตีจากฝูงโดรน
“แม้ไม่มีช่องทางที่เป็นรูปธรรมของการออกไปจากฐาน มอสโกได้ร้องขอให้กองบัญชาการฐานจัดการอพยพฉุกเฉินไปยังรัสเซียในค่ำวันอาทิตย์ที่ 8 ธ.ค.” อดีตผู้นำซีเรียออกแถลงการณ์ผ่านช่องทางเทเลแกรม