ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ในวันอาทิตย์ (22ธ.ค.) ประกาศทำลายล้างยูเครนเพิ่มเติม แก้แค้นกรณีที่เคียฟส่งโดรนโจมตีเมืองคาซาน ทางภาคกลางของประเทศ หนึ่งวันก่อนหน้านี้
รัสเซียกล่าวหายูเครนโจมตีด้วยโดรนเล่นงานกลุ่มอาคารอพาร์ตเมนต์หรูในเมืองคาซาน ซึ่งอยู่ห่างจากแนวทางถึง 1,000 กิโลเมตร ขณะที่วิดีโอที่เผยแพร่บนเครือข่ายสื่อสังคมออนไลน์ของรัสเซีย เป็นภาพโดรนหลายลำกำลังพุ่งชนอาคารกระจกสูงระฟ้าก่อลูกบอลไฟลุกท่วม แม้ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีดังกล่าว
"ไม่ว่าอะไรก็ตามที่พวกเขาพยายามทำลายมากแค่ไหน พวกเขาจะต้องเจอกับการทำลายล้างมากกว่าที่พวกเขาลงมือหลายเท่า และพวกเขาจะต้องเสียใจในสิ่งที่พวกเขาพยายามทำในประเทศของเรา" ปูตินกล่าวระหว่างการประชุมระดับรัฐบาลที่มีการถ่ายทอดทางสถานีโทรทัศน์เมื่อวันอาทิตย์ (22 ธ.ค.)
นอกจากนี้ ปูตินยังได้พูดคุยกับพวกผู้นำของสาธารณรัฐตาตาร์สถาน ดินแดนที่เมืองคาซานตั้งอยู่ ในพิธีเปิดถนนสายหนึ่ง ผ่านวิดีโอลิงก์
การโจมตีเมืองคาซาน เป็นการยกระดับโจมตีทางอากาศระลอกล่าสุดในความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนที่ลากยาวมานานเกือบ 3 ปี อย่างไรก็ตาม เคียฟไม่แสดงความคิดเห็นต่อการโจมตีครั้งนี้
ก่อนหน้านี้ ปูติน เคยขู่โจมตีเป้าหมายใจกลางกรุงเคียฟ ด้วยขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิก ตอบโต้การโจมตีใดๆ ของยูเครนใส่ดินแดนของรัสเซีย ขณะที่ทางกระทรวงกลาโหมมอสโกเรียกร้องให้รัสเซียโจมตีที่ตั้งทางพลังงานของยูเครนในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา แก้แค้นกรณีที่เคียฟใช้อาวุธพิสัยไกลที่ได้รับมอบจากตะวันตก โจมตีฐานทัพอากาศและคลังเก็บอาวุธของรัสเซีย
คำขู่ล่าสุดมีขึ้นในขณะที่รัสเซียกล่าวอ้างรุกคืบครั้งใหม่ในสมรภูมิทางตะวันออกของยูเครน โดยทางกระทรวงกลาโหมแดนหมีขาวระบุผ่านเทเลแกรม ว่าทหารของพวกเขาสามารถ "ปลดปล่อย" หมู่บ้านโลโซวา ในแคว้นคาร์คิฟ ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และแคว้นคราสโนเย ที่ในยูเครนเรียกว่าซอนต์ซิฟกา
แคว้นคราสโนเย อยู่ใกล้กับศูนย์กลางทรัพยากรอย่างเมืองคูราโคเว ที่ถูกรัสเซียปิดล้อมแทบสมบูรณ์ และจะเป็นรางวัลสำคัญของมอสโกในความพยายามยึดทั่วทั้งแคว้นโดเนตสก์
รัสเซียรุกคืบได้รวดเร็วมากขึ้นทางตะวันออกของยูเครนในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา หาทางควบคุมดินแดนให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ก่อน โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯก้าวเข้าสู่อำนาจในเดือนมกราคม
ว่าที่ประธานาธิบดีรายนี้ประกาศว่าจะนำพาความขัดแย้งที่ลากยาวมาเกือบ 3 ปี ไปถึงจุดจบอย่างรวดเร็ว โดยยังเคยไม่เสนอเงื่อนไขอย่างเป็นรูปธรรมใดๆ สำหรับข้อตกลงหยุดหยิงหรือข้อตกลงสันติภาพ
กองทัพรัสเซียกล่าวอ้างว่าสามารถยึดถิ่นฐานในยูเครนได้มากกว่า 190 แห่งในปีนี้ ในขณะที่เคียฟต้องดิ้นรนอย่างหนักในการรักษาแนวของตนเอง ท่ามกลางภาวะขาดแคลนกำลังพลและกระสุน
(ที่มา : เอเอฟพี)