ไต้หวันเพิ่งได้รับรถถังเอบรามส์จากสหรัฐฯ 38 คัน หลังต้องรอนานกว่า 5 ปี ตามรายงานของหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล ในวันศุกร์ (20 ธ.ค.) ปัญหาห่วงโซ่อุปทานที่ทำให้อาวุธล้ำสมัยของอเมริกาไปถึงมือไทเปล่าช้าเสียเอง ไม่ใช่เกิดจากการส่งเสียงคัดค้านอย่างแข็งกร้าวของจีนแต่อย่างใด
จีนมองเกาะปกครองตนเองแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของดินแดน พวกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ บอกว่าพวกเขายึดถือนโยบายจีนเดียว รับรองไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของสาธารณรัฐประชาชนจีน แต่ขณะเดียวกัน วอชิงตันได้ประสานงานความร่วมมือด้านการทหารใกล้ชิดกับรัฐบาลไทเป ซึ่งทางปักกิ่งคัดค้านอย่างแข็งกร้าว
สินค้าค้างส่งที่ชำระเงินแล้ว สำหรับอาวุธของอเมริกาที่ไต้หวันรอการส่งมอบ เคยพุ่งแตะระดับสูงสุดเกิน 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงกลางปีที่ผ่านมา ตามรายงานของวอลล์สตรีท เจอร์นัล อ้างอิงข้อมูลจากเอริค โกเมซ นักวิเคราะห์กลาโหมจากสถาบันคาโต
แม้ไต้หวันชื่นชมการเดินทางมาถึงของรถถังเอบรามส์ M1A2 ล็อตแรกในสัปดาห์นี้ แต่มันเป็นเพียง 38 คัน จากทั้งหมด 108 คัน ที่สั่งซื้อในเดือนมิถุนายน 2019 ครั้งที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ณ ขณะนั้นดำรงตำแหน่งสมัยแรก เบื้องต้นรถถังล็อตดังกล่าวมีกำหนดส่งมอบในปี 2022 แต่กรอบเวลาดังกล่าวดูเหมือนจะล่าช้า 2 ปี สืบเนื่องจากปัญหาติดขัดต่างๆ อันมีต้นตอจากโรคระบาดใหญ่โควิด-19 และอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น ท่ามกลางความขัดแย้งต่างๆ ทั้งในยูเครนและตะวันออกกลาง
รถถังกลายเป็นอาวุธยุทโธปกรณ์ล่าสุดที่สหรัฐฯ ส่งมอบให้ไต้หวันล่าช้ากว่ากำหนด การส่งมอบเมื่อเร็วๆ นี้ ในนั้นรวมถึงระบบจรวด HIMARS เมื่อเดือนที่แล้ว ทำให้ยอดสินค้าค้างส่งลดลงเหลือ 19,170 ล้านดอลลาร์ จากการเปิดเผยของโกเมซ โดยที่รถถังเอบรามส์อีก 70 คันที่เหลือ และฝูงบินขับไล่ F-16V คาดหมายว่าจะมีการส่งมอบในปี 2026
ไต้หวันยังเตรียมได้รับมอบจรวดต่อต้านรถถัง TOW-2B ในปีนี้ แต่ข้อเท็จจริงคืออาวุธเหล่านี้ได้รับการอนุมัติขายตั้งแต่เกือบ 1 ทศวรรษก่อน ในสมัยประธานาธิบดีบารัค โอบามา ณ ขณะนั้น
ปักกิ่งคัดค้านอย่างต่อเนื่องต่อการที่สหรัฐฯ ขายอาวุธแก่ไต้หวัน โดยโฆษกกระทรวงการต่างประเทศเมื่อวันจันทร์ (16 ธ.ค.) เรียกร้องวอชิงตัน "ให้หยุดป้อนอาวุธแก่ไต้หวัน หยุดยุยงหรือสนับสนุนกองกำลังเอกราชไต้หวัน ที่กำลังพยายามบรรลุเป้าหมายต่างๆ ผ่านวิธีการด้านการทหาร"
กระทรวงการต่างประเทศของจีนเน้นย้ำว่าการให้การสนับสนุนไต้หวันของสหรัฐฯ ในปัจจุบัน สวนทางกับคำมั่นสัญญาของวอชิงตันก่อนหน้านี้ ภายใต้แถลงการณ์วันที่ 17 สิงหาคม 1982 ซึ่งอเมริการับปากว่าจะไม่เสาะหานโยบายระยะยาวในการขายอาวุธแก่ไทเป และแสดงถึงเจตนาว่าจะลดการขายอาวุธตามลำดับเมื่อเวลาผ่านไป
(ที่มา : อาร์ทีนิวส์)