สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐฯ (FAA) ออกคำสั่งห้ามวานนี้ (19 ธ.ค.) ไม่ให้มีการบินโดรนเหนือสถานที่ 22 แห่งในรัฐนิวเจอร์ซีย์เป็นการชั่วคราว และเตรียมจะออกข้อจำกัดลักษณะเดียวกันในสถานที่บางแห่งของรัฐนิวยอร์ก
FAA ระบุว่า คำสั่งห้ามบินโดรนเป็นเวลา 30 วันเหนือบางสถานที่ในรัฐนิวเจอร์ซีย์มีขึ้นเพื่อเป็นการเฝ้าระวังตามคำขอจากหน่วยงานด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ หลังจากที่ FAA ก็ได้เคยสั่งห้ามการบินโดรนเหนือสถานที่ 2 แห่งของรัฐนิวเจอร์ซีย์มาแล้วในเดือน พ.ย.
FAA แถลงเมื่อวันพุธ (18) ว่า ชาวอเมริกันจำนวนมากได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับการพบเห็นโดรนไม่ทราบที่มาที่ไปในหลายสถานที่ของรัฐนิวเจอร์ซีย์ และรัฐข้างเคียง และเริ่มมีคนในพื้นที่ยิงแสงเลเซอร์ใส่เครื่องบินที่ผ่านไปมา ซึ่งถือเป็นการกระที่ผิดกฎหมาย และอาจเป็นอันตรายด้วย
หน่วยงานของสหรัฐฯ ออกมาชี้แจงหลายครั้งแล้วว่า โดรนที่พบเห็นกันนั้นไม่เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ และส่วนใหญ่เป็นเพียงอากาศยาน ดวงดาว หรือไม่ก็กิจกรรมของพวกที่บินโดรนเป็นงานอดิเรก
สำหรับสถานที่ซึ่งถูกประกาศห้ามบินโดรนชั่วคราวในรัฐนิวเจอร์ซีย์ประกอบด้วยสถานีสับเปลี่ยนของโรงไฟฟ้า สถานีไฟฟ้าย่อย โรงผลิตไฟฟ้า ศูนย์ควบคุมสาธารณูปโภค และสถานที่อื่นๆ ในเขตเอลิซาเบธ เอดิสัน เซาท์บรันสวิก แคมเดน เมทูเชน และบริดจ์วอเตอร์
FAA ยังเตรียมที่จะสั่งห้ามบินโดรนเหนือโครงสร้างพื้นฐานสำคัญๆ ในรัฐนิวยอร์กด้วย ตามข้อมูลจากผู้ว่าการรัฐเมื่อค่ำวันพฤหัสบดี (19)
เคธี โฮชุล ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก ระบุว่า เธอได้พูดคุยกับ อเลฮานโดร มาเยอร์กัส รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐฯ ซึ่งเขาได้ยืนยันกับเธอว่า FAA มีแผนที่จะจำกัดการบินเหนือโครงสร้างพื้นฐานสำคัญบางแห่งในรัฐนิวยอร์กจริง
“การตัดสินใจนี้มีขึ้นเพื่อกันไว้ก่อนเท่านั้น ยังไม่ได้มีภัยคุกคามอะไรต่อสถานที่เหล่านี้” เธออธิบาย
ทั้งนี้ คาดว่า FAA จะประกาศรายชื่อสถานที่ที่ห้ามบินโดรนในรัฐนิวยอร์กภายในวันศุกร์ (20) และเมื่อวานนี้ (19) ทางหน่วยงานยังได้ประกาศห้ามบินโดรนเหนือสนามกอล์ฟของว่าที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ที่เบดมินสเตอร์ รัฐนิวเจอร์ซีย์ ไปจนถึงวันที่ 31 ม.ค.
กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐฯ ยืนยันว่าข้อจำกัดเหล่านี้ “ไม่กระทบกับอากาศยานที่มีคนขับ เช่น เครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์ และแม้ว่า DHS และหน่วยงานภาครัฐอื่นๆ จะยังไม่พบหลักฐานของภัยคุกคาม แต่เป้าหมายของคำสั่งห้ามบินชั่วคราวก็เพื่อไม่ให้มีการส่งโดรนเข้าไปในพื้นที่เหล่านี้ ตามที่หน่วยงานโครงสร้างพื้นฐานสำคัญต่างๆ ได้ร้องขอมา”
FAA แถลงเมื่อวันพุธ (18) ว่า ได้รับแจ้งเหตุยิงแสงเลเซอร์ใส่เครื่องบินเพิ่มขึ้นถึง 269% รวม 59 กรณีเฉพาะในช่วงครึ่งแรกของเดือน ธ.ค. จากสถิติเพียง 8 กรณีเมื่อช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ (FBI) ประจำรัฐนิวเจอร์ซีย์ออกมาเตือนประชาชนในวันพุธ (18) ว่าอย่าได้ยิงหรือปล่อยแสงเลเซอร์ใส่โดรนที่พบเห็นบนฟ้า “เพราะอาจก่อให้เกิดอันตราย หรือนำมาซึ่งการเสียชีวิตหากว่าสิ่งนั้นเป็นอากาศยานที่มีคนขับ”
ที่มา : รอยเตอร์