ศาลสูงมาเลเซียพิพากษายกฟ้องนาง รอสมะห์ มันซูร์ (Roamah Mansor) ภริยาของอดีตนายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัค ในความผิดฐานฟอกเงินและหลบเลี่ยงภาษี โดยระบุว่าพยานหลักฐานไม่เพียงพอที่จะตั้งข้อกล่าวหา
ทั้ง นาจิบ และรอสมะห์ ต่างตกเป็นจำเลยในคดีทุจริตประพฤติมิชอบหลายคดี หลังจากที่ นาจิบ พ่ายแพ้ศึกเลือกตั้งทั่วไปเมื่อปี 2018 จากกระแสความไม่พอใจของคนมาเลเซียต่อคดียักยอกเงินกองทุน วัน มาเลเซีย ดีเวลลอปเมนต์ เบอร์ฮัด (1MDB) ที่พบว่ามีทรัพย์สินหลายพันล้านดอลลาร์ถูกยักย้ายถ่ายโอนไปเข้ากระเป๋าอดีตนายกฯ และคนใกล้ชิด ขณะที่ตัว นาจิบ และรอสมะห์ เองยืนกรานว่าไม่ได้กระทำความผิดใดๆ
อย่างไรก็ตาม รอสมะห์ ยังไม่พ้นความเสี่ยงคุกตะรางเสียทีเดียว และเวลานี้อยู่ระหว่างประกันตัวเพื่อยื่นอุทธรณ์โทษจำคุก 10 ปีในคดีเรียกรับเงินสินบนเพื่อช่วยให้บริษัทแห่งหนึ่งชนะประมูลโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ให้แก่โรงเรียนในชนบทมูลค่า 279 ล้านดอลลาร์ ภายใต้รัฐบาลนาจิบ ซึ่งศาลได้ตัดสินลงโทษไปเมื่อปี 2022
อดีตสตรีหมายเลขหนึ่งผู้นี้ถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการใช้ชีวิตหรูหราฟุ้งเฟ้อ และเก็บสะสมกระเป๋าแบรนด์เนมหรูเอาไว้มากมาย โดยระหว่างที่ตำรวจเข้าตรวจค้นที่พักอาศัยของ นาจิบ เพื่อหาหลักฐานในคดี 1MDB ก็พบกระเป๋าหรูมากกว่า 500 ใบ ไม่รวมเครื่องประดับเพชรพลอยต่างๆ อีกราว 12,000 ชิ้น
ศาลสูงมาเลเซียได้ตัดสินยกฟ้อง รอสมะห์ ในข้อหาฟอกเงิน 12 กระทง และข้อหาหลบเลี่ยงภาษีอีก 5 กระทง โดยมีคำวินิจฉัยว่าข้อกล่าวหาเหล่านี้ขาดทั้งความน่าจะเป็น (probity) ความเหมาะสม (propriety) และความถูกต้องชอบธรรมโดยกฎหมาย (legality)
รอสมะห์ แถลงว่า รู้สึกดีใจที่คดีนี้ถึงที่สุด และขอบคุณทีมทนายความที่ช่วยเหลือจนตนเองพ้นผิด
“ดิฉันยังต้องขอบคุณผู้พิพากษาที่ตัดสินอย่างถูกต้อง นี่คือสิ่งที่ดิฉันเรียกว่าความยุติธรรม และเป็นความยุติธรรมที่ทุกๆ คนสมควรได้รับ”
ก่อนหน้านี้ไม่นาน ศาลมาเลเซียก็เพิ่งตัดสินยกฟ้อง นาจิบ ในคดีคอร์รัปชัน 1MDB เนื่องจากกระบวนการล่าช้า และอัยการไม่สามารถเปิดเผยเอกสารสำคัญๆ ได้
นาจิบ ถูกดำเนินคดีในหลายข้อหาที่เกี่ยวข้องกับกรณีของ 1MDB ซึ่งทางการมาเลเซียและสหรัฐฯ ระบุว่ามีเงินทุนราว 4,500 ล้านดอลลาร์ถูกยักยอกออกไปผ่านเครือข่ายฉ้อโกงอันซับซ้อนที่อยู่ในหลายประเทศ ระหว่างปี 2009-2014
นาจิบ ซึ่งก่อตั้งกองทุน 1MDB ระหว่างที่ตนเองดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ถูกศาลพิพากษาว่ามีความผิดฐานทุจริตและฟอกเงิน และต้องโทษจำคุก 12 ปีในปี 2022 ก่อนที่คณะกรรมการอภัยโทษที่นำโดยอดีตสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งมาเลเซียจะประกาศลดโทษเหลือเพียง “ครึ่งหนึ่ง”
อดีตนายกฯ ผู้อื้อฉาวรายนี้ได้แถลง “ขออภัย” ต่อชาวมาเลเซียที่จัดการกองทุน 1MDB ผิดพลาด แต่ยังคงยืนกรานไม่มีส่วนรู้เห็นกับขบวนการยักยอกเงิน และตอนนี้ก็พยายามเรียกร้องขอรับโทษที่เหลือด้วยการกักบริเวณในบ้านพัก (house arrest) แทนการอยู่เรือนจำ
ที่มา : รอยเตอร์