สหรัฐฯ ในวันอังคาร (17 ธ.ค.) ระบุไม่เกี่ยวข้องในเหตุลอบสังหารเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงรายหนึ่งของรัสเซีย ในปฏิบัติการที่ยูเครนกล่าวอ้างความรับผิดชอบ แต่ประณามความโหดร้ายป่าเถื่อนของนายพลรายนี้
"ผมสามารถบอกกับพวกคุณได้ว่า สหรัฐฯ ไม่ทราบเรื่องล่วงหน้าและไม่เกี่ยวข้อง" แมตธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ พูดถึงเหตุลอบสังหารอิกอร์ คิริลลอฟ หัวหน้าหน่วยอาวุธเคมีของกองทัพรัสเซีย
แต่ มิลเลอร์ ชี้ถึงคำประเมินของสหรัฐฯ ก่อนหน้านี้ ที่ว่า คิริลลอฟ เจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงที่สุดของรัสเซียที่ถูกลอบสังหารนับตั้งแต่มอสโกรุกรานยูเครน เป็นคนออกคำสั่งให้ใช้สารควบคุมจลาจลในสมรภูมิรบ ซึ่งละเมิดสนธิสัญญาควบคุมอาวุธเคมี "เขาเป็นนายพลที่เกี่ยวข้องกับความโหดร้ายป่าเถื่อนต่างๆ เขาเกี่ยวข้องในการใช้อาวุธเคมีกับกองทัพยูเครน"
มาเรีย ชาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย กล่าวหาพันธมิตรตะวันตกของยูเครน เป็นผู้สมคบคิดในเหตุลอบสังหารอย่างเลือดเย็นในกรุงมองโก ขณะที่สำนักข่าวอาร์ไอเอของทางการรัสเซียรายงานว่า ดมิทรี เมดเวเดฟ อดีตประธานาธิบดีที่ปัจจุบันเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านความมั่นคงของรัสเซีย ประกาศว่า จะชำระแค้นเอากับผู้นำกองทัพและรัฐบาลยูเครนเร็วๆ นี้
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ รายหนึ่ง ซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนาม บอกว่าอเมริกา "ไม่ทราบปฏิบัติการนี้ล่วงหน้า และเราไม่สนับสนุนหรือให้สิทธิความเคลื่อนไหวลักษณะนี้"
เหตุลอบสังหารเกิดขึ้นในพื้นที่ชุมชนแห่งหนึ่งในกรุงมอสโก หนึ่งวันหลังจากประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน อวดอ้างความสำเร็จของทหารรัสเซียในยูเครน หลังจากปฏิบัติการรุกรานประเทศเพื่อนบ้านแห่งนี้ ที่ฝักใฝ่ตะวันตก ลากยาวมาใกล้ครบ 3 ปีแล้ว
คิริลลอฟ วัย 54 ปี เป็นหัวหน้าฝ่ายอาวุธเคมี ชีวภาพและรังสีวิทยาของกองทัพรัสเซีย และเมื่อเร็วๆ นี้ถูกสหราชอาณาจักรคว่ำบาตร ต่อคำกล่าวหาใช้อาวุธเคมีในยูเครน
แหล่งข่าวในหน่วยงานด้านความมั่นคงยูเครน (SBU) บอกกับเอเอฟพี ว่าพวกเขาอยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดลอบสังหาร ในสิ่งที่เรียกว่าเป็น "ปฏิบัติการพิเศษ" พร้อมเรียก คาริลลอฟ ว่าเป็น "อาชญากรสงคราม"
คณะกรรมการสืบสวนของรัสเซีย ระบุว่า "วัตถุระเบิดที่ซุกซ่อนในรถสกูตเตอร์คันหนึ่งที่จอดใกล้ทางเข้าของอาคารที่พักอาศัย ถูกจุดชนวนขึ้นในตอนเช้าวันที่ 17 ธันวาคม บนถนนรยาซานสกี ในมอสโก"
แรงระเบิดทำให้บานกระจกหน้าต่างของอาคารแตกกระจัดกระจาย และประตูหน้าได้รับความเสียหายรุนแรง ตามรายงานข่าวของผู้สื่อข่าวเอเอฟพีที่อยู่ ณ จุดเกิดเหตุ
เจ้าหน้าที่รัสเซียระบุว่า พวกเขากำลังดำเนินการสืบสวนเหตุโจมตีก่อการร้าย แต่แหล่งข่าวของ SBU ตอบโต้ว่า "คาริลลอฟ เป็นอาชญากรและเป็นเป้าหมายโดยชอบธรรม เนื่องจากเขาเป็นคนออกคำสั่งให้ใช้อาวุธเคมีต้องห้ามกับกองทัพยูเครน มันคือจุดสิ้นสุดการรอคอยของชาวยูเครนที่ถูกฆ่าอย่างไร้เกียรติ การลงโทษอาชญากรรมสงครามเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้" แหล่งข่าวระบุ
(ที่มา : เอเอฟพี)