อะหมัด อัล-ชารา หัวหน้ากลุ่มกบฏซึ่งเป็นแกนนำโค่นล้มระบอบอัสซาดในซีเรีย ประกาศในวันจันทร์ (16 ธ.ค.) ว่าหลังจากนี้กองกำลังกบฏทุกฝ่ายจะต้องถูกยุบ (disbanded) และเหล่านักรบจะถูกดึงเข้าร่วมการฝึกเพื่อเป็นทหารในสังกัดกระทรวงกลาโหม ขณะที่อดีตประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด ออกมาประณามคณะผู้นำใหม่ของซีเรียว่าเป็นพวก “ผู้ก่อการร้าย”
อัสซาด หลบหนีออกจากซีเรียเมื่อวันที่ 8 ธ.ค. ระหว่างที่กองกำลังกบฏซึ่งนำโดยกลุ่ม ฮายัต ตาห์รีร์ อัล-ชาม (HTS) บุกยึดกรุงดามัสกัสได้สำเร็จ ปิดฉากการปกครองโดยระบอบเผด็จการอัสซาดที่ยาวนานมา 6 ทศวรรษ รวมถึงสงครามกลางเมืองในซีเรียที่ยืดเยื้อมา 13 ปี
อัล-ชารา ซึ่งเป็นที่รู้จักในอีกชื่อหนึ่งว่า “อบู โมฮัมหมัด อัล-จูลานี” พยายามสร้างความเชื่อมั่นแก่ชนกลุ่มน้อยในซีเรีย และรัฐบาลต่างชาติว่า คณะผู้นำช่วงเปลี่ยนผ่านพร้อมที่จะปกป้องดูแลคนซีเรียทุกกลุ่ม รวมไปถึงสถาบันต่างๆ ของรัฐ
ระหว่างพบปะหารือกับสมาชิกชนกลุ่มน้อยชาวดรูซ (Druze) เมื่อวันจันทร์ (16) เขายืนยันว่า กบฏทุกกลุ่มในซีเรีย “จะถูกยุบ เพื่อดึงเหล่านักรบเข้าร่วมการฝึกเป็นทหารภายใต้สังกัดกระทรวงกลาโหม”
“ทุกคนจะต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน” อัล-ชารา ระบุ ตามข้อความที่ถูกโพสต์ลงบัญชีเทเลแกรมของกลุ่ม HTS
ผู้นำกบฏรายนี้ยังเน้นย้ำถึงความจำเป็นที่จะต้องสร้างประเทศซีเรียที่มีเอกภาพอยู่บนความหลากหลายทางเชื้อชาติและความเชื่อ
“ซีเรียจะต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน... จะต้องมีการทำสัญญาประชาคมระหว่างรัฐกับทุกๆ ศาสนา เพื่อรับรองว่าสังคมนี้จะมีความเป็นธรรม”
ก่อนหน้านั้นไม่นาน อัสซาด ได้มีถ้อยแถลงผ่านสื่อสังคมออนไลน์เป็นครั้งแรกหลังหนีออกจากซีเรียไปยังรัสเซีย โดยอ้างว่าตนถูกอพยพออกนอกประเทศผ่านทางฐานทัพแห่งหนึ่งตามการร้องขอของมอสโก
“การที่ผมไปจากซีเรียไม่ใช่สิ่งที่ถูกวางแผนมาก่อน และไม่ได้เกิดขึ้นในชั่วโมงท้ายๆ ของการต่อสู้อย่างที่บางคนอ้าง” อัสซาด แถลงผ่านเทเลแกรม
“มอสโกเป็นฝ่ายร้องขอให้หน่วยบัญชาการของฐานทัพอำนวยความสะดวกในการอพยพ (ผม) ไปยังรัสเซียทันที”
“เมื่อรัฐตกอยู่ในมือของกลุ่มก่อการร้าย และความสามารถในการอุทิศตัวอย่างมีความหมายหมดไป ไม่ว่าตำแหน่งใดๆ ก็หมดความสำคัญ”
อย่างไรก็ดี อดีตเจ้าหน้าที่ 5 คนให้ข้อมูลกับเอเอฟพีว่า อัสซาด หนีออกจากซีเรีย “เพียงไม่กี่ชั่วโมง” ก่อนที่กบฏจะสามารถยึดกรุงดามัสกัสได้สำเร็จ
การล่มสลายของระบอบอัสซาดภายในเวลาแค่ 2 สัปดาห์ถือเป็นปรากฏการณ์ช็อกโลกที่จุดการเฉลิมฉลองทั่วซีเรียและในภูมิภาคอื่นๆ หลังจากที่ อัสซาด ใช้กำลังกวาดกล้างกลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยในปี 2011 จนนำมาสู่สงครามกลางเมืองที่มีคนบาดเจ็บล้มตายมากที่สุดครั้งหนึ่งในช่วงศตวรรษนี้
อย่างไรก็ตาม อัสซาด ได้ทิ้งบาดแผลอันเจ็บปวดไว้กับคนในชาติที่ต้องเผชิญกับการทรมาน การอุ้มหาย และการประหารชีวิตแบบเหมารวมตลอดระยะเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา รวมไปถึงการบริหารจัดการเศรษฐกิจผิดพลาดที่ทำให้ชาวซีเรีย 70% จำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือ
โทมัส เฟล็ตเชอร์ รองเลขาธิการสหประชาชาติฝ่ายกิจการด้านมนุษยธรรมและผู้ประสานงานบรรเทาทุกข์ฉุกเฉิน เรียกร้องวานนี้ (16) ให้นานาชาติ “ส่งมอบการสนับสนุนช่วยเหลืออย่างล้นหลาม” ให้แก่ซีเรีย
เศรษฐกิจซีเรียยังคงถูกบีบคั้นจากมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ และตะวันตก และเวลานี้ชาติมหาอำนาจก็กำลังชั่งใจว่าจะมีปฏิสัมพันธ์กับกลุ่ม HTS ที่โค่น อัสซาด อย่างไร
HTS มีรากเหง้ามาจากกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์ และปัจจุบันยังถูกรัฐบาลหลายประเทศขึ้นบัญชีเป็นองค์กรก่อการร้าย
ที่มา : เอเอฟพี