สหรัฐฯ ดำเนินการส่งมอบรถถังประจัญบานล้ำสมัยเอบรามส์ (Abrams) จำนวน 38 คันถึงมือไต้หวันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตามคำยืนยันจากกระทรวงกลาโหมไต้หวันเมื่อวันจันทร์ (16 ธ.ค.) ซึ่งถือว่าเป็นรถถังรุ่นใหม่ชุดแรกของไต้หวันในรอบ 30 ปี
สหรัฐฯ เป็นทั้งชาติพันธมิตรสำคัญที่สุดและซัปพลายเออร์อาวุธรายใหญ่ที่สุดของไต้หวัน ซึ่งข้อเท็จจริงนี้สร้างความขุ่นเคืองให้ "จีน" ที่ถือว่าเกาะไต้หวันเป็นดินแดนในอธิปไตยของตน
รถถัง M1A2 ชุดแรกจากทั้งหมด 108 คันที่ไต้หวันสั่งซื้อเมื่อปี 2019 เดินทางมาถึงในช่วงค่ำวันอาทิตย์ (15) และถูกลำเลียงต่อไปยังฐานฝึกของกองทัพที่เมืองซินจู (Hsinchu) ทางตอนใต้ของกรุงไทเป ตามข้อมูลจากกระทรวงกลาโหม
ด้านสำนักข่าว Central News Agency ซึ่งเป็นสื่อกึ่งทางการของไต้หวันรายงานว่า รถถัง M1A2 เหล่านี้ถือเป็นรถถังรุ่นใหม่ชุดแรกของไต้หวันในรอบ 30 ปี
กองกำลังรถถังของไต้หวันประกอบด้วยรถถังรุ่น CM 11 Brave Tiger ที่ไต้หวันผลิตเอง และรถถัง M60A3 ของสหรัฐฯ รวมกันประมาณ 1,000 คัน ซึ่งปัจจุบันต้องถือว่าเป็นเทคโนโลยีที่ล้าสมัยมากแล้ว
สำหรับรถถังเอบรามส์นั้นนอกจากจะเป็นรถถังหลักของกองทัพสหรัฐฯ แล้ว ยังเป็นหนึ่งในระบบอาวุธที่หนักเป็นอันดับต้นๆ ของโลกด้วย
กระทรวงการต่างประเทศจีนออกมาเรียกร้องในวันจันทร์ (16) ให้สหรัฐฯ "หยุดติดอาวุธให้ไต้หวัน และหยุดสนับสนุนกองกำลังเรียกร้องเอกราชไต้หวัน"
"ทางการไต้หวันพยายามที่จะแยกตัวเป็นเอกราชด้วยกำลังและความช่วยเหลือจากต่างชาติ แต่มันจะไม่มีวันสำเร็จ" หลิน เจี้ยน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ระบุ
"จีนจะปกป้องอธิปไตยของชาติ ความมั่นคง และบูรณภาพแห่งดินแดนของเราอย่างแข็งขัน"
แม้จะมีอุตสาหกรรมอาวุธเป็นของตนเองและมีการอัปเกรดเครื่องไม้เครื่องมืออย่างต่อเนื่อง แต่ไต้หวันก็ยังต้องพึ่งพาอาวุธที่ซื้อจากสหรัฐฯ มาช่วยเสริมความมั่นคงของชาติ
รัฐบาลไต้หวันได้แสดงความจำนงขอสั่งซื้อรถถัง M1A2 จากสหรัฐฯ ในปี 2019 โดยทุ่มงบประมาณกว่า 1,200 ล้านดอลลาร์เพื่อการนี้ ซึ่งคาดว่ารถถังที่เหลือจะถูกส่งมอบให้ไทเปภายในปี 2025 และ 2026 ตามข้อมูลที่แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่บอกกับเอเอฟพี
แม้สหรัฐฯ จะมีพันธกรณีตามกฎหมายที่จะต้องสนับสนุนไต้หวันให้สามารถป้องกันตนเองได้ แต่ผลกระทบของโควิด-19 ต่อห่วงโซ่อุปทาน รวมถึงการที่สหรัฐฯ จำเป็นต้องผันอาวุธล็อตใหญ่ไปช่วยเหลือยูเครนและอิสราเอล ก็ทำให้การจัดส่งอาวุธแก่ไต้หวันล่าช้าออกไป
เวลานี้อาวุธสหรัฐฯ ที่รอส่งมอบแก่ไต้หวันมีมูลค่าสูงเกินกว่า 21,000 ล้านดอลลาร์เข้าไปแล้ว ตามข้อมูลจากสถาบันคลังสมอง Cato Institute ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.
ที่มา : เอเอฟพี