ราคาน้ำมันขยับลงในวันจันทร์ (16 ธ.ค.) จากตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคที่อ่อนแอในจีน ชาติผู้นำเข้าเชื้อเพลิงรายใหญ่ ส่วนวอลล์สตรีทปิดผสมผสานและทองคำปรับลด นักลงทุนวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจต่างๆ ก่อนหน้าการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมกราคม ลดลง 58 เซนต์ ปิดที่ 70.71 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 58 เซนต์ ปิดที่ 73.81 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ยอดค้าปลีกของจีนชะลอตัวมากกว่าที่คาดหมายไว้ ก่อแรงกดดันให้จีนต้องยกระดับกระตุ้นเศรษฐกิจที่เปราะบาง ท่ามกลางแนวโน้มที่อาจต้องเผชิญกับมาตรการรีดภาษีของสหรัฐฯ ภายใต้รัฐบาลสมัย 2 ของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
แนวโน้มอุปสงค์ที่อ่อนแอในจีน เป็นปัจจัยสนับสนุนการตัดสินใจของโอเปกพลัส ในการเลื่อนแผนเพิ่มกำลังผลิตออกไปจนถึงเดือนเมษายน
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดผสมผสานในวันจันทร์ (16 ธ.ค.) นักลงทุนประเมินข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุด ในระหว่างที่รอคำแถลงทางนโยบายครั้งสุดท้ายของปีของเฟด เกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยในช่วงปลายสัปดาห์
ดาวโจนส์ ลดลง 110.58 จุด (0.25 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 43,717.48 เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 22.99 จุด (0.38 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 6,074.08 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 247.17 จุด (1.24 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 20,173.89 จุด
เอสแอนด์พี โกลบอลเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 56.6 ในเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 33 เดือน จากระดับ 54.9 ในเดือนพฤศจิกายน
ดัชนี PMI ยังคงอยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้การขยายตัวของภาคธุรกิจสหรัฐฯ โดยได้รับแรงหนุนจากการขยายตัวของภาคบริการ ขณะที่ภาคการผลิตยังคงอยู่ในภาวะหดตัว
ตลาดคาดหมายอย่างเต็มเปี่ยมว่าที่ประชุม 2 วันของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด ที่จะปิดฉากในวันพุธ (18 ธ.ค.) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกรอบ โดยข้อมูล FedWatch Tool ของ CME พบพวกนักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาสถึง 99.1% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25%
ส่วนราคาทองคำในวันจันทร์ (16 ธ.ค.) ขยับลง นักลงทุนเฝ้ารอผลการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินเฟด ท่ามกลางความคาดหมายว่าจะมีการปรับลดดอกเบี้ยอีกรอบ โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 6.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 2,669.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา : รอยเตอร์)