รัฐสภาเกาหลีใต้ลงมติให้ถอดถอน ยุน ซ็อกยอล ออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีจากกรณีการประกาศใช้กฎอัยการศึก (martial law) ด้วยคะแนนเสียง 204 จากทั้งหมด 300 เสียง ในการโหวตถอดถอนซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 เมื่อเวลา 14.00 น. ตามเวลาในไทยวันนี้ (14 ธ.ค.) ซึ่งจะส่งผลให้ประธานาธิบดีต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ และรอศาลรัฐธรรมนูญพิพากษาชี้ขาด
ญัตติถอดถอนประธานาธิบดีครั้งนี้มี ส.ส.ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลร่วมกันโหวตเห็นชอบ 204 เสียง คัดค้าน 85 เสียง งดออกเสียง 3 เสียง และมีคะแนนโหวตที่เป็นโมฆะ (nullified) อีก 8 เสียง
ผลจากมติถอดถอนในครั้งนี้จะทำให้ ยุน ซ็อกยอล ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญเกาหลีใต้พิจารณาว่าจะตัดสินรับรองมติถอดถอนของรัฐสภาหรือไม่ และนายกรัฐมนตรี ฮัน ดักซู จะก้าวขึ้นมาทำหน้าที่เป็นประธานาธิบดีรักษาการ
ทั้งนี้ ศาลรัฐธรรมนูญเกาหลีใต้มีกรอบเวลา 180 วันในการพิจารณาข้อเท็จจริง เพื่อตัดสินอนาคตทางการเมืองของ ยุน ซึ่งหากศาลตัดสินรับรองการถอดถอน ยุน ซ็อกยอล ก็จะกลายเป็นผู้นำคนที่ 2 ในประวัติศาสตร์เกาหลีใต้ที่ถูกรัฐสภาถอดถอนได้สำเร็จ ตามหลังอดีตประธานาธิบดีหญิง พัค กึน-ฮเย ซึ่งเคยถูกรัฐสภาโหวตถอดถอนเช่นกันเมื่อปี 2016
อย่างไรก็ดี ศาลรัฐธรรมนูญเกาหลีใต้เคยมีประวัติคัดค้านญัตติถอดถอนผู้นำมาแล้วในปี 2004 โดยตอนนั้นประธานาธิบดี โรห์ มู-ฮยุน ก็ถูกสภาโหวตถอดถอนในข้อหาละเมิดกฎหมายเลือกตั้งและขาดความสามารถในการปฏิบัติหน้าที่ผู้นำ ทว่าต่อมาศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำสั่งคืนตำแหน่งให้แก่เขา
ปัจจุบันศาลรัฐธรรมนูญเกาหลีใต้มีองค์คณะผู้พิพากษาทั้งหมด 6 คน ซึ่งก็หมายความว่าคำตัดสินจะต้องออกมาอย่างเป็นเอกฉันท์
ส.ส.พรรคพลังประชาชน (PPP) ที่เป็นฝั่งรัฐบาลประกาศไม่บอยคอตการโหวตเหมือนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และมี ส.ส.อย่างน้อย 7 คนที่ประกาศตัวล่วงหน้าว่าจะช่วยโหวตสนับสนุนญัตติถอดถอนของฝ่ายค้าน อย่างไรก็ตาม ฝ่ายค้านซึ่งครองเสียงข้างมากในสภา 192 จากทั้งหมด 300 เสียงจำเป็นจะต้องได้เสียงสนับสนุนจาก ส.ส.ฟากรัฐบาลอย่างน้อย 8 คน เพื่อให้ญัตติถอดถอน ยุน ได้รับความเห็นชอบจากสภาถึงเกณฑ์ขั้นต่ำ 2 ใน 3
ยุน ซ็อกยอล ยอมยกเลิกกฎอัยการศึกหลังประกาศใช้เมื่อค่ำวันอังคารที่ 3 ธ.ค. ได้เพียง 6 ชั่วโมง เนื่องจากสมาชิกรัฐสภาได้ฝ่าแนวกั้นของทหารและตำรวจเข้าไปลงมติคัดค้านคำสั่งดังกล่าว แต่กระนั้นก็ไม่สามารถยับยั้งวิกฤตรัฐธรรมนูญที่เกิดขึ้นจากการตัดสินใจใช้กฎอัยการศึกในเกาหลีใต้เป็นครั้งแรกในรอบ 44 ปี และทำให้ตัวเขาเองเผชิญแรงกดดันอย่างหนักให้ต้อง “ลาออก” ฐานละเมิดกฎหมาย
ขณะเดียวกัน ประชาชนชาวเกาหลีใต้ได้ออกมาชุมนุมที่ด้านนอกอาคารรัฐสภาเพื่อสนับสนุนหรือคัดค้านญัตติถอดถอนประธานาธิบดี โดยตำรวจกรุงโซลนายหนึ่งประเมินตัวเลขผู้ชุมนุมในวันนี้ว่าไม่น่าจะต่ำกว่า 200,000 คน ตามรายงานของเอเอฟพี
ที่จัตุรัสกวางฮวามุน (Gwanghwamun Square) ในอีกด้านหนึ่งของกรุงโซล ตำรวจคาดการณ์ว่ามีประชาชนราว 30,000 คนออกมาแสดงพลังสนับสนุนผู้นำเกาหลีใต้ โดยมีการร้องเพลงปลุกใจ และโบกสะบัดธงชาติเกาหลีใต้ควบคู่กับธงชาติสหรัฐฯ
ก่อนหน้านี้ ยุน ซ็อกยอล ประกาศเมื่อวันพฤหัสบดี (12) ว่าจะ “สู้ไม่ถอย” และยังย้ำข้ออ้างที่ไร้หลักฐานยืนยันว่าฝ่ายค้านทำตัว “ต่อต้านรัฐ” และร่วมมือกับระบอบคอมมิวนิสต์เกาหลีเหนือ
พรรคประชาธิปไตย (Democratic Party) ซึ่งเป็นแกนนำฝ่ายค้านเกาหลีใต้แถลงวันนี้ (14) ว่า การโหวตถอดถอนประธานาธิบดีเป็นหนทางเดียวที่จะ “ปกป้องรัฐธรรมนูญ หลักนิติธรรม ระบอบประชาธิปไตย และอนาคตของเกาหลีใต้เอาไว้”
“เราไม่สามารถอดทนกับความบ้าคลั่งของ ยุน ได้อีกต่อไป” ฮวาง จุงอา โฆษกหญิงของพรรค ระบุ
ที่มา: รอยเตอร์, เอเอฟพี