โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์ที่เผยแพร่ในวันพฤหัสบดี (12 ธ.ค.) ว่าไม่เห็นด้วย "ด้วยความรุ่มร้อนอย่างมาก" กับการที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่อเมริกาจัดหาให้โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย
อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ ยืนยันว่าเขาจะไม่ทอดทิ้งยูเครน และแรงสนับสนุนของสหรัฐฯ ที่มอบแก่เคียฟจะเป็นอำนาจต่อรองสำคัญในความพยายามปิดฉากสงครามนี้
รัฐบาลประธานธิบดีโจ ไบเดน ที่กำลังพ้นจากตำแหน่ง จัดหาขีปนาวุธพิสัยไกล ATACMS มอบแก่ยูเครน ซึ่งสามารถเจาะทะลวงเข้าไปภายในรัสเซีย กระตุ้นการแก้แค้นด้วยความเดือดดาลจากมอสโก ซึ่งตอบโต้ด้วยขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกรุ่นใหม่
"ผมไม่เห็นด้วย ด้วยความร้อนรุ่มอย่างมาก ต่อการส่งขีปนาวุธลึกเข้าไปในรัสเซียหลายร้อยกิโลเมตร ทำไมเราถึงทำแบบนั้น?" ทรัมป์ กล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์กับนิตยสารไทม์ ที่ยกให้เขาเป็น "บุคคลแห่งปี" ในวันพฤหัสบดี (12 ธ.ค.) "ผมคิดว่ามันเป็นการตัดสินใจที่โง่เขลา"
อ้างอิงจากข้อมูลที่เผยแพร่ต่อสาธารณะ ขีปนาวุธ ATACMS มีพิสัยทำการสูงสุด 300 กิโลเมตร
การสัมภาษณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นก่อนหน้าวันขอบคุณพระเจ้า และก่อนหน้าการประชุมครั้งสำคัญระหว่างทรัมป์ กับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ที่มีประธานาธิบดีฝรั่งเศสเป็นตัวกลาง รอบนอกพิธีเปิดอาสนวิหารนอเทรอดาม หลังจากปิดซ่อมแซมเพราะไฟไหม้ครั้งใหญ่เมื่อ 5 ปีที่แล้ว "เราเพิ่งทำให้สงครามนี้ลุกลาม และทำให้มันเลวร้ายลง" เขากล่าว
อย่างไรก็ตาม ในเรื่องการเดินหน้าสนับสนุนยูเครน ทรัมป์ซึ่งเคยแสดงจุดยืนไม่สู้เต็มใจนักและตั้งคำถาามเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการหนุนหลังเคียฟ บอกว่าเขาจะใช้การสนับสนุนของสหรัฐฯ เป็นอำนาจต่อรองสำคัญที่จะทำให้สงครามถึงจุดจบ "ผมต้องการบรรลุข้อตกลงหนึ่งๆ และหนทางเดียวที่คุณจะบรรลุข้อตกลงคือการไม่ทอดทิ้ง"
สื่อมวลชนหลายสำนักของรัสเซียกระโจนใส่ความเห็นของทรัมป์ในทันที รายงานว่าคำพูดของทรัมป์ ดูเหมือนเป็นการส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์แนวทางของยูเครน
ส่วน จอห์น เคอร์บี โฆษกทำเนียบขาวปฏิเสธแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคำพูดล่าสุดของว่าที่ประธานาธิบดีทรัมป์ "ทั้งหมดที่ผมทำได้คือเน้นย้ำนโยบายและกรอบดำเนินการของประธานธิบดีไบเดน และทำทุกอย่างที่เราสามารถทำได้ เพื่อที่ว่าหากการเจรจารูปแบบใดรูปแบบหนึ่งเกิดขึ้นจริงและมาถึงเมื่อไหร่ ประธานาธิบดีเซเลนสกี จะอยู่ในสถานะที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้" เขาบอกกับผู้สื่อข่าว
(ที่มา : เอเอฟพี)