ประธานาธิบดี ยุน ซ็อกยอล แห่งเกาหลีใต้ ออกมาตราหน้าศัตรูทางการเมืองว่าเป็นกองกำลังต่อต้านรัฐ (anti-state forces) อีกครั้งในวันนี้ (12 ธ.ค.) พร้อมอ้างว่าเกาหลีเหนือ “แฮก” ศึกเลือกตั้งในแดนโสมขาว และยังคงอ้างเหมือนเดิมว่าจำเป็นต้องใช้กฎอัยการศึกเพื่อปกป้องประชาธิปไตย ขณะที่หัวหน้าพรรคพลังประชาชน (PPP) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลชี้ว่า ยุน ไม่มีทีท่าว่าจะยอมลาออก และคงต้องถูก “ถอดถอน” สถานเดียว
ยุน จะต้องเผชิญกับการลงมติถอดถอดครั้งที่ 2 ในวันเสาร์นี้ (14) เพียง 1 สัปดาห์หลังจากการโหวตถอดถอดครั้งแรกไม่สำเร็จ เนื่องจากถูก ส.ส.พรรครัฐบาลบอยคอต
“ผมจะขอสู้ให้ถึงที่สุด” ผู้นำเกาหลีใต้ระบุในถ้อยแถลงผ่านสื่อโทรทัศน์
ยุน กำลังถูกสอบสวนความผิดทางอาญาฐานก่อกบฏ (insurrection) จากการประกาศใช้กฎอัยการศึกเมื่อวันที่ 3 ธ.ค. ซึ่งเป็นชนวนนำไปสู่วิกฤตการเมืองครั้งใหญ่ที่สุดของเกาหลีใต้ในรอบกว่า 40 ปี
สมาชิกรัฐสภาได้ฝ่าแนวกั้นของตำรวจเข้าไปในห้องประชุมสภา จนกระทั่งสามารถลงมติด้วยคะแนน 190 จากทั้งหมด 300 เสียงบังคับให้ ยุน ต้องยกเลิกกฎอัยการศึก หลังประกาศใช้ได้เพียง 6 ชั่วโมง
อย่างไรก็ตาม ผู้นำเกาหลีใต้ยังคงพยายามอ้างว่าสิ่งที่ตนทำลงไปนั้นถูกต้องชอบธรรม โดยกล่าววันนี้ (12) ว่า “แก๊งอาชญากร” ที่ทำให้กิจการของรัฐเป็นอัมพาตและขัดขวางหลักนิติธรรมจะต้องถูกขัดขวางทุกวิถีทางไม่ให้สามารถยึดอำนาจของรัฐบาลได้
ยุน ยังอ้างต่อไปอีกว่า คณะกรรมการการเลือกตั้งแห่งชาติถูกเกาหลีเหนือ “แฮก” เมื่อปีที่แล้ว แต่ทางหน่วยงานปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือในกระบวนการสอบสวนและตรวจสอบเพื่อยืนยันถึงความซื่อสัตย์เป็นธรรม ซึ่งการปฏิเสธไม่ให้ความร่วมมือนี้ “เพียงพอ” ที่จะก่อให้เกิดคำถามเรื่องความโปร่งใสของศึกเลือกตั้งในเดือน เม.ย. และทำให้ตนตัดสินใจใช้กฎอัยการศึก
พรรค PPP ของ ยุน พ่ายแพ้ศึกเลือกตั้งในเดือน เม.ย. แบบถล่มทลาย และเปิดทางให้พรรคประชาธิปไตย (Democratic Party) ฝ่ายค้านเข้าครองที่นั่งส่วนใหญ่ในระบบสภาเดียวของเกาหลีใต้ แต่กระนั้นฝ่ายค้านก็ยังมีเสียงในสภาไม่ถึง 2 ใน 3 และจำเป็นต้องพึ่ง ส.ส.ฟากรัฐบาลอย่างน้อย 8 เสียงเพื่อที่จะถอดถอน ยุน ออกจากตำแหน่ง
ที่มา : รอยเตอร์