หลายชาติในยุโรประงับการพิจารณาคำร้องขอลี้ภัยของชาวซีเรียแบบไม่มีกำหนด หลังกลุ่มกบฏได้เข้ายึดเมืองหลวงเมื่อวันอาทิตย์ (8 ธ.ค.) และทำให้ประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรียต้องหนีไปพึ่งใบบุญรัสเซีย อันเป็นการปิดฉากสงครามกลางเมืองที่ยืดเยื้อมานาน 13 ปี
การตัดสินใจของรัฐบาลยุโรปซึ่งส่งผลต่อคำร้องของชาวซีเรียหลายหมื่นคนสะท้อนให้เห็นถึงบริบททางการเมืองที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็วในซีเรีย รวมถึงความเฟื่องฟูของพรรคการเมืองฝ่ายขวาในยุโรปซึ่งชูนโยบายจำกัดการรับผู้อพยพ
เยอรมนีเปิดพรมแดนรับผู้ลี้ภัยจำนวนมากช่วงที่สงครามกลางเมืองซีเรียร้อนระอุหนักในปี 2015 และเวลานี้ก็มีชาวซีเรียที่เข้าไปอาศัยอยู่ในเมืองเบียร์เกือบ 1 ล้านคน ซึ่งถือว่าเป็นชุมชนใหญ่ที่สุดในยุโรป
กระทรวงมหาดไทยเยอรมนีประกาศเมื่อวันจันทร์ (8) ว่าจะระงับกระบวนการพิจารณาคำร้องขอลี้ภัยของชาวซีเรียจนกว่าสถานการณ์ทางการเมืองจะมีความชัดเจน ในขณะที่อังกฤษก็พักการอนุมัติรับผู้ลี้ภัยซีเรียไว้ชั่วคราวเช่นกัน
ภายใต้โครงการของรัฐบาลอังกฤษ มีผู้ลี้ภัยชาวซีเรียได้รับโอกาสให้เข้าไปตั้งถิ่นฐานในเมืองผู้ดีแล้วทั้งสิ้น 20,319 คนระหว่างช่วงเดือน มี.ค. ปี 2014 จนถึงเดือน ก.พ. ปี 2021
ประเทศอื่นๆ เช่น นอร์เวย์ อิตาลี ออสเตรเลีย เนเธอร์แลนด์ และล่าสุดคือสวิตเซอร์แลนด์ ก็ได้ระงับการพิจารณาคำขอลี้ภัยของชาวซีเรียแล้ว ขณะที่ฝรั่งเศสเตรียมจะประกาศใช้มาตรการเดียวกันเร็วๆ นี้
ที่มา : รอยเตอร์