เอเจนซีส์/รอยเตอร์/MGRออนไลน์ - สื่อชื่อดังอเมริกาเผยเส้นทางหลบหนีของประธานาธิบดี บาชาร์ อัล อัสซาด และครอบครัวว่าเกิดขึ้นอย่างเฉียดฉิว ภายใต้การคุ้มกันของรัสเซียก่อนมุ่งหน้าสู่ฐานทัพลาตาเกียขึ้นเครื่องที่จอดรอบินหลบจอเรดาร์เข้ากรุงมอสโก ล่าสุด เทลอาวีฟออกมาปัดรถถังอิสราเอลไม่ได้อยู่ใกล้กรุงดามัสกัสระหว่าง 3 ชาติ อิสราเอล สหรัฐฯ และตุรกี ถือโอกาสโจมตีทางอากาศในซีเรียเพื่อปกป้องผลประโยชน์ตัวเอง ส่วนรัสเซีย-อิหร่านต่อสายคอนเน็กอำนาจใหม่กบฏซีเรีย HTS ของอาบู โมฮัมหมัด อัล-โจลานี (Abu Mohammed al-Jolani)
เดอะการ์เดียนของอังกฤษรายงานวันนี้ (10 ธ.ค.) ว่า เทลอาวีฟออกมาปฏิเสธรายงานที่อ้างว่า แนวรถถัง IDF นั้นเดินทางไปถึงเมืองคาตานา (Qatana) ตั้งอยู่ลึกจากพรมแดนเข้าไปในซีเรียราว 10 กม. ทางตะวันออกของเขตบัฟเฟอร์โซนที่กั้นซีเรียออกจากที่ราบสูงโกลัน และกำลังอยู่ระหว่างการมุ่งหน้าเข้ากรุงดามัสกัส
รอยเตอร์รายงานอ้างแหล่งข่าวความมั่นคงซีเรียว่า กองกำลังอิสราเอลเดินทางถึงคาตานา ส่วนสกายนิวส์ของอังกฤษรายงานว่า IDF ออกมาปฏิเสธรายงานนี้
อ้างอิงจากไทม์สออฟอิสราเอล IDF เผยแพร่ภาพวันจันทร์ (9 ธ.ค.) แสดงรถถังอิสราเอลกำลังเข้าสู่ซีเรีย โดยมีป้ายสีเขียวบอกทางเป็นภาษาอังกฤษ "กรุงดามัสกัส" อยูข้างทาง
ทั้งนี้ เมืองคาตานา (Qatana) ห่างออกไปทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองหลวงซีเรียราว 25 กม. ซึ่งในเวลานี้ กลุ่มกบฏซีเรีย HTS ของ อาบู โมฮัมหมัด อัล-โจลานี (Abu Mohammed al-Jolani) กำลังควบคุมในช่วงเวลาที่ทั้งรัสเซียและอิหร่านต่อสายสร้างความสัมพันธ์เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของตัวเองในซีเรีย
เดอะการ์เดียนรายงานว่า ระหว่างที่กบฏ ซีเรีย HTS พยายามควบคุมอำนาจในดามัสกัส และเปิดคุกปล่อยตัวนักโทษจำนวนมากที่โดนประธานาธิบดีซีเรีย บาชาร์ อัล-อัสซาด จับมาขังและทรมาน ที่รวมไปถึงต่างชาติ เป็นต้นว่า นักข่าวอเมริกันทีวอชิงตันกำลังหาตัวในเวลานี้ พบว่า 3 ชาติทั้งสหรัฐฯ อิสราเอล และตุรกี ต่างเปิดฉากโจมตีทางอากาศในพื้นที่ซีเรีย
สื่ออังกฤษรายงานว่า สหรัฐฯ โจมตีเป้าหมายที่ตั้งทางการทหารของกลุ่มก่อการร้าย IS ในทางตอนกลางของซีเรีย ส่วนตุรกีถือโอกาสโจมตีกองกำลังเคิร์ดที่อเมริกาหนุนหลัง
แอกซิออส (Axios) ของสหรัฐฯ รายงานในทางลึกว่า แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ที่ทำหน้าที่รายงานสรุปต่อนักข่าววันอาทิตย์ (8) ว่า รัฐบาลประธานาธิบดี โจ ไบเดน ล่าสุดมีเป้าหมายไปที่การตามหาอาวุธเคมีของอัสซาดหลังการล่มของผู้นำเผด็จการซีเรียที่กำลังลี้ภัยอยู่ในกรุงมอสโกพร้อมครอบครัว
เจ้าหน้าที่อเมริกันกล่าวว่า สหรัฐฯ เชื่อมั่นสูงต่อ ‘สถานะของคลังแสงอาวุธเคมีซีเรีย’ โดยผู้เชี่ยวชาญข่าวกรองสหรัฐฯ เชื่อว่า มันยังคงอยู่ภายใต้การควบคุม
เดอะการ์เดียนรายงานล่าสุดว่า อิสราเอลเปิดฉากโจมตีกรุงดามัสกัสชั่วข้ามคืนที่ผ่านมา โดยมีเป้าหมายไปที่อาวุธยุทโธปกรณ์ล้ำสมัยของซีเรียที่อาจถูกกบฏซีเรียที่โค่นอัสซาดยึดไว้
ขณะที่เบื้องลึกของเส้นทางหลบหนีของอัสซาดและครอบครัวนั้น CNN รายงานวานนี้ (9) แหล่งข่าวใกล้ชิดกับกลุ่มกบฏซีเรียให้ข้อมูลว่า
อัสซาดเดินทางออกจากกรุงดามัสกัสภายใต้การอารักขาของพวกรัสเซีย ส่วนแหล่งข่าวอีกคนเปิดเผยว่า เขาเดินทางไปที่ลาตาเกีย (Latakia) ทางตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรียที่รัสเซียมีฐานทัพอากาศตั้งอยู่
ทั้งนี้ ข้อมูลติดตามเส้นทางการบินแสดงให้เห็นว่า เครื่องบินเดินทางออกจากสนามบินกรุงดามัสกัสก่อนเวลา 02.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นวันอาทิตย์ (8) ตามเส้นทางของชายฝั่งก่อนยูเทิร์นอย่างกะทันหันเหนือท้องฟ้าเมืองฮอมส์ (Homs) และหายไปจากแผนที่ CNN ยืนยันว่า ไม่สามารถยืนยันได้ว่าอัสซาดอยู่บนเครื่อง
และเป็นที่ประหลาดใจไปทั่วเมื่อสถานทูตซีเรียประจำกรุงมอสโกได้ชักธงกบฏซีเรียขึ้นเหนือสถานทูตในวันจันทร์ (9) อ้างอิงจากดิอิฟนิงสแตนดาร์ดของอังกฤษ เกิดขึ้นไม่กี่ชั่วโมงหลังมีรายงานปรากฏไปทั่วว่าผู้นำเผด็จการซีเรียและครอบครัวได้รับอนุญาตจากประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูตินให้ลี้ภัยในรัสเซียได้
ขณะที่เครมลินในวันจันทร์ (9) ยอมรับว่า เป็นความท้าทายโดยรอบด้านของฐานที่ตั้งทางการทหารรัสเซียในซีเรียเวลานี้ CNN เปิดเผย
“ทุกสิ่งที่เป็นไปได้ที่จะทำในเวลานี้คือการติดต่อผู้ที่สามารถให้การป้องกัน”
ทั้งนี้ สื่อทางการรัสเซียรายงานอ้างในคืนวันอาทิตย์ (8) โดยอ้างอิงแหล่งข่าวภายในเครมลินว่า แกนนำกบฏซีเรียได้ให้หลักประกันทางความมั่นคงของฐานทัพรัสเซีย และสถาบันทางการทูตรัสเซียในซีเรีย
ขณะที่รอยเตอร์รายงานวานนี้ (9) ว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเตหะรานเปิดเผยว่า อิหร่านได้เปิดการสื่อสารโดยตรงต่อกบฏที่เป็นกลุ่มอำนาจใหม่ในซีเรียหลังอดีตประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด ซึ่งเป็นพันธมิตรของเตหะรานถูกโค่นล้มอย่างไม่ทันตั้งตัว เป็นความพยายามเพื่อป้องกันการเป็นปรปักษ์ระหว่าง 2 ชาติ
โดยแหล่งข่าวแสดงความเห็นว่า "ความวิตกหลักสำหรับอิหร่านมีว่า ผู้จะมารับช่วงต่อจากอัสซาดนั้นจะผลักซีเรียให้ห่างไกลจากวงโคจรของเตหะราน"