แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เอ่ยเตือนในวันจันทร์ (9 ธ.ค.) ว่ากลุ่มก่อการร้ายรัฐอิสลาม (Islamic State) อาจฉวยจังหวะที่ซีเรียเกิดสุญญากาศทางการเมืองตามหลังการล่มสลายของระบอบ บาชาร์ อัล-อัสซาด ฟื้นฟูศักยภาพกลับมาเป็นภัยคุกคามอีกครั้ง ทว่าสหรัฐอเมริกาจะพยายามป้องกันไม่ให้สิ่งนั้นเกิดขึ้น
บลิงเคน ย้ำว่าชาวซีเรียจะต้องมีสิทธิเลือกอนาคตของตนเอง และถ้อยแถลงของแกนนำกบฏที่สัญญาว่าจะตั้งรัฐบาลที่หลอมรวมทุกฝ่ายก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ตัวชี้วัดอยู่ที่การกระทำ--- ไม่ใช่คำพูด
กบฏซีเรียได้บุกยึดกรุงดามัสกัสโดยปราศจากการต่อต้านเมื่อวันอาทิตย์ (8) หลังจากรุกคืบยึดเมืองสำคัญต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วจนทำให้ประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด ต้องหอบครอบครัวหลบหนีไปลี้ภัยที่รัสเซีย ปิดฉากสงครามกลางเมืองซีเรียที่ยืดเยื้อมานาน 13 ปี ไปพร้อมๆ กับระบอบอัสซาดที่ครองอำนาจมายาวนานถึง 6 ทศวรรษ
“จุดจบของระบอบอัสซาดถือเป็นความพ่ายแพ้สำหรับทุกฝ่ายที่สนับสนุนความป่าเถื่อนและความทุจริตประพฤติมิชอบ โดยเฉพาะอิหร่าน ฮิซบอลเลาะห์ และรัสเซีย ดังนั้น นี่จึงเป็นช่วงเวลาแห่งโอกาสที่สำคัญ แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงไม่น้อยด้วย” บลิงเคน ระบุในงานอีเวนต์ที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ
“ประวัติศาสตร์ก็ชี้ให้เห็นแล้วว่า คำมั่นสัญญาสามารถเปลี่ยนเป็นความขัดแย้งและความรุนแรงได้รวดเร็วแค่ไหน กลุ่มรัฐอิสลาม (ISIS) จะต้องพยายามใช้ช่วงเวลานี้ฟื้นฟูศักยภาพขึ้นมา และสร้างแหล่งซ่องสุมกบดานอย่างแน่นอน แต่ก็อย่างที่เราแสดงให้เห็นด้วยปฏิบัติการโจมตีแบบแม่นยำเมื่อช่วงสุดสัปดาห์... สหรัฐฯ จะไม่ยอมให้สิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้น”
แม้การจากไปของ อัสซาด จะทำให้เครือข่ายอิทธิพลของอิหร่านในตะวันออกกลางถูกสั่นคลอนอย่างหนัก แต่หลังจากนี้อิสราเอล สหรัฐฯ และบรรดาชาติอาหรับจะต้องเตรียมรับมือกับสภาวะไร้เสถียรภาพและแนวคิดสุดโต่งที่อาจกลับมาทวีความรุนแรงอีกครั้ง เนื่องจากการช่วงชิงอำนาจระหว่างกลุ่มขั้วต่างๆ ในซีเรีย
กลุ่มก่อการร้ายรัฐอิสลามเคยยึดพื้นที่ในซีเรียและอิรักเอาไว้ได้อย่างกว้างขวางจนกระทั่งมีการประกาศสถาปนารัฐคอลีฟะห์ (caliphate) ขึ้นในปี 2014 ก่อนจะถูกกลุ่มพันธมิตรสหรัฐฯ ขับไล่จนต้องพ่ายแพ้ไปในปี 2019
บลิงเคน ยืนยันว่า สหรัฐฯ ยังคงมุ่งมั่นปกป้องบุคลากรของตนเองจากภัยคุกคามทั้งหลาย
กองบัญชาการกลางแห่งสหรัฐอเมริกา (US Central Command) ได้เปิดปฏิบัติการโจมตีทางอากาศใส่ฐานที่มั่นของไอเอสหลายจุดในพื้นที่ตอนกลางของซีเรียเมื่อวันอาทิตย์ (8) โดยระบุว่า การโจมตีครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อป้องกันไม่ให้ไอเอสฉวยโอกาสเหิมเกริมในช่วงที่ซีเรียกำลังระส่ำระสาย
ที่มา : รอยเตอร์