ไต้หวันยกระดับเตือนภัยในวันจันทร์ (9 ธ.ค.) หลังจีนประกาศพื้นที่สงวนทางอากาศ รวมถึงประจำการเรือกองทัพเรือและยามชายฝั่ง ในสิ่งที่แหล่งข่าวด้านความมั่นคงเรียกว่าเป็นการซ้อมรบทางทหารครั้งแรก ที่ครอบคลุมทั่วน่านน้ำอันกว้างขวางในภูมิภาคแถบนี้
เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงระดับสูงของไต้หวัน บอกว่าจีนมีเรือของกองทัพเรือและเรือยามชายฝั่งเกือบ 90 ลำ อยู่ใกล้กับไต้หวัน หมู่เกาะต่างๆ ทางใต้ของญี่ปุ่น ในทะเลจีนตะวันออกและทะเลจีนใต้ ซึ่งราว 2 ใน 3 เป็นเรือของกองทัพเรือ
กระทรวงกลาโหมของปักกิ่งยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อรายงานข่าวนี้
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้มีขึ้นท่ามกลางความคาดหมายว่า จีน ที่กล่าวอ้างว่า ไต้หวัน ซึ่งปกครองตนเองตามระบอบประชาธิปไตย เป็นส่วนหนึ่งของดินแดน จะทำการซ้อมรบอีกรอบ ตอบโต้กรณีที่ประธานาธิบดีไล่ ชิงเต๋อ เดินทางเยือนแปซิฟิก ในนั้นรวมถึงหยุดพักในฮาวายและกวม ดินแดนของสหรัฐฯ รอยเตอร์รายงานอ้างอิงแหล่งข่าวด้านความมั่นคง
จีนกำหนดพื้นที่สงวนทางอากาศชั่วคราวจนถึงวันพุธ (11 ธ.ค.) ครอบคลุมมณฑลต่างๆ ทางตะวันออกอย่างเช่น ฟูเจี้ยนและเจ้อเจียง กระทรวงกลาโหมไต้หวันระบุในถ้อยแถลง
ปกติแล้วพื้นที่ลักษณะดังกล่าวเป็นการจัดสรรไว้สำหรับใช้งานอย่างเจาะจงในช่วงเวลาหนึ่งที่กำหนดไว้ แต่เครื่องบินอื่นๆ ก็อาจสามารถบินผ่านไปได้หากได้รับอนุญาต ภายใต้กฎเกณฑ์ระหว่างประเทศ
ประกาศแจ้งภารกิจทางอากาศที่ออกโดยจีน ได้ให้พิกัด 7 พื้นที่ ซึ่งใน 2 ในนั้นอยู่ในมณฑลฟูเจี้ยน ที่หันหน้าเข้าให้ไต้หวัน แต่มันอยู่ใกล้กับชายฝั่งของจีน ส่วนที่เหลืออยู่ตามแนวชายฝั่งของมณฑลเจ้อเจียง และนอกชายฝั่งเซี่ยงไฮ้ ในทะเลจีนตะวันออก
อย่างไรก็ตาม จีนไม่แถลงอย่างเจาะจงเกี่ยวกับการทดสอบอาวุธใดๆ หรือขอบเขตปฏิบัติการทางทหาร หลังจากก่อนหน้านี้ในเดือนสิงหาคม 2022 พวกเขารัวยิงขีปนาวุธเป็นชุดลงสู่น่านน้ำรอบๆ ไต้หวัน ระหว่างการซ้อมรบ เพื่อประท้วงกรณีที่นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ณ ขณะนั้นเดินทางเยือนกรุงไทเป
ในความเคลื่อนไหวล่าสุดนี้ กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ บอกว่าพวกเขากำลังจับตาอย่างใกล้ชิดต่อความเคลื่อนไหวทางทหารของจีนใกล้ไต้หวัน
"เรายังคงเรียกร้องสาธารณรัฐประชาชนจีน ให้ดำเนินการด้วยความอดทนอดกลั้นและหลีกเลี่ยงการกระทำต่างๆ ที่อาจบ่อนทำลายสนติภาพและเสถียรภาพทั่วช่องแคบไต้หวันและภูมิภาคในวงกว้าง การแวะพักตามปกติของประธานาธิบดีไล่ ไม่ควรถูกใช้เป็นข้ออ้างสำหรับแรงกดดันทางทหาร" โฆษกกระทรวงการต่างประเทศไต้หวันระบุ
เจ้าหน้าที่ไต้หวัน ซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนาม บอกว่าการประจำการเรือครั้งนี้ของจีนถือว่าเป็นความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่มากกว่าการซ้อมรบใหญ่รอบๆ ไต้หวัน 2 ครั้งก่อนหน้านี้ในปีนี้
"เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเล็งเป้าหมายแนวสายโซ่หมู่เกาะทั้งหมด" แหล่งข่าวระบุ อ้างถึงพื้นที่ที่ทอดยาวจากญี่ปุ่นไปจนถึงไต้หวัน ฟิลิปปินส์ และเกาะบอร์เนียว ปิดล้อมทะเลต่างๆ ที่อยู่รอบชายฝั่งของจีน "มันมีเจตนาโดยรวมเพื่อบรรลุเป้าหมายข่มขู่ทางทหาร ด้วยการจัดวางกำลังเพื่อควบคุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของสายโซ่หมู่เกาะ"
"พฤติกรรมยั่วยุแต่เพียงฝ่ายเดียวและไม่มีเหตุผล อาจก่อความเสียหายร้ายแรงแก่สันติภาพและเสถียรภาพในอินโด-แปซิฟิก และไม่เป็นที่ยินดีของประชาคมนานาชาติ" กระทรวงกลาโหมไต้หวันระบุ
ปักกิ่งเคยตราหน้า "ไล่" ว่าเป็นพวกแบ่งแยกดินแดน และปฏิเสธเสียงเรียกร้องของเขาซ้ำๆ ที่ขอให้มีการเจรจา ส่วนทางไทเปปฏิเสธคำกล่าวอ้างด้านอธิปไตยของปักกิ่งเช่นกัน บอกว่ามีเพียงประชาชนชาวไต้หวันเท่านั้นที่จะเป็นผู้ตัดสินอนาคตของตนเอง
การสำแดงสรรพกำลังของจีนรอบๆ ไต้หวันและในพื้นที่พิพาททะเลจีนใต้ ได้โหมกระพือความกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้ง
ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ บอกกับทหารเรืออเมริกาในญี่ปุ่น ว่าจีนเป็นเพียงประเทศที่มีเจตนาและมีแสนยานุภาพเพิ่มมากขึ้น ที่จะท้าทายระเบียบระหว่างประเทศที่มีกฎกติกาเป็นรากฐาน "ดังนั้น เราจึงต้องการเห็นภูมิภาคแถบนี้ พื้นที่นี้ ยังคงเปิดกว้างสำหรับเสรีภาพในการล่องเรือ และสามารถบินเหนือบนท้องฟ้าและน่านฟ้าสากลตามที่เราต้องการ"
(ที่มา : รอยเตอร์)