ผู้นำพรรครัฐบาลเผย ยุน ซอกยอลให้คำมั่นลาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีก่อนกำหนด แลกกับการรอดพ้นญัตติถอดถอนในสภา อย่างไรก็ดี ผู้สังเกตการณ์เชื่อ ยุน แค่ได้ต่อเวลาชั่วคราว เพราะทั้งฝ่ายค้านและมวลชนต่างประกาศเดินหน้ากดดันจนถึงที่สุด โดยฝ่ายค้านซึ่งเรียกการตกลงกันภายในพรรครัฐบาลครั้งนี้ว่า เป็น “การก่อรัฐประหารอีกครั้ง” และ “ขัดรัฐธรรมนูญ” ประกาศยื่นญัตติถอดถอนอีกหนในวันเสาร์ (14 ธ.ค.) ในอีกด้านหนึ่ง เมื่อวันอาทิตย์ (8) อัยการบุกจับอดีตรัฐมนตรีกลาโหม ส่วนรัฐมนตรีมหาดไทยยื่นจดหมายลาออก เพื่อร่วมแสดงความรับผิดชอบการประกาศกฎอัยการศึกที่ถูกต่อต้านหนักจนต้องยกเลิกเมื่อต้นสัปดาห์ที่แล้ว
ถึงแม้เมื่อคืนวันเสาร์ (7) ประชาชนเป็นเรือนแสนออกมาชุมนุมท่ามกลางอากาศหนาวยะเยือก กดดันเรียกร้องให้ปลดประธานาธิบดียุนอยู่ที่ด้านนอกรัฐสภา แต่พรรคพลังประชาชน (พีพีพี) ของยุน ใช้วิธีให้พวกสมาชิกรัฐสภาของตนบอยคอตต์ไม่เข้าร่วมประชุมในวาระพิจารณาญัตติถอดถอนประธานาธิบดี จนฝ่ายค้านผ่านญัตตินี้ไม่สำเร็จ เนื่องจากญัตติเช่นนี้ต้องได้คะแนนเสียง 2 ใน 3 จากเสียงทั้งสภาที่มี 300 คน ทว่าพวกฝ่ายค้านเองมีเสียงไม่ถึง จำเป็นต้องได้เสียงจากฝ่ายรัฐบาลมาช่วยอย่างน้อย 8 เสียง
ในเวลาต่อมา ฮัน ดองฮุน ผู้นำพีพีพี และนายกรัฐมนตรีฮัน ด็อกซู ออกคำแถลงร่วมกันเมื่อวันอาทิตย์ ระบุว่า ทางพรรคได้รับคำมั่นว่า ยุนจะลาออกก่อนกำหนดเพื่อแลกเปลี่ยนกับการคัดค้านญัตติถอดถอน และจะทำให้กระบวนการลาออกเป็นไปอย่างสงบเรียบร้อย ลดความสับสนของประชาชน แก้ไขสถานการณ์ทางการเมืองและฟื้นฟูประชาธิปไตย โดยระหว่างนี้ยุนจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับกิจการของรัฐ ซึ่งรวมถึงกิจการต่างประเทศ
ทางด้านนายกรัฐมนตรีประกาศว่า จะเสริมสร้างระบบตอบสนองฉุกเฉินทางเศรษฐกิจเพื่อตรวจสอบและรับมือปัจจัยเสี่ยงในตลาดการเงินและตลาดปริวรรตเงินตราอย่างทันท่วงที รวมทั้งระบุว่า คณะรัฐมนตรีจะพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อรักษาความไว้วางใจกับชาติพันธมิตร ซึ่งหมายถึงอเมริกาและญี่ปุ่น
อย่างไรก็ดี ลี แจ-มยุง ผู้นำพรรคประชาธิปไตย (ดีพี) ที่เป็นฝ่ายค้านหลัก แถลงในวันอาทิตย์เช่นกันว่า พวกเขาจะพยายามยื่นญัตติถอดถอนประธานาธิบดีอีกครั้งในวันเสาร์ (14) นี้
ลี กับ ประธานรัฐสภา วู วอนชิก ซึ่งก็มาจากพรรคดีพีเช่นกัน ยังร่วมกันวิจารณ์ความเคลื่อนไหวของฝ่ายรัฐบาลว่าเป็นเรื่องขัดธรรมนูญ วูบอกว่า การที่นายกรัฐมนตรีและพรรครัฐบาลตกลงจะร่วมกันใช้อำนาจประธานาธิบดีเช่นนี้ โดยที่มิได้มีผู้ใดมอบหมายพวกเขา คือการละเมิดรัฐธรรมนูญอย่างชัดเจน ส่วน ลี ก็สำทับว่าอำนาจของประธานาธิบดีไม่ได้เป็นสมบัติส่วนตัวของประธานาธิบดียุน ซอกยอล การกระทำเช่นนี้จึงเหมือนกับการก่อรัฐประหารยึดอำนาจอีกครั้งเพื่อทำลายการปกครองด้วยรัฐธรรมนูญของประเทศ
ด้านนักวิชาการอย่าง คิม แฮวอน ศาสตราจารย์ทางกฎหมายรัฐธรรมนูญที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยปูซาน ก็ให้ความเห็นว่า การกระทำเช่นนี้ของฝ่ายรัฐบาล คือ “การรัฐประหารแบบนุ่มนวลที่ขัดรัฐธรรมนูญ”
สำหรับ วลาดิมีร์ ติโคนอฟ ศาสตราจารย์ที่ศึกษาเกี่ยวกับเกาหลีใต้ของมหาวิทยาลัยออสโล ชี้ว่า แม้ยุนรอดพ้นจากญัตติถอดถอนในวันเสาร์ (7) ได้สำเร็จ แต่เกาหลีใต้จะอยู่ในสถานการณ์ที่ประธานาธิบดีไม่สามารถบริหารประเทศได้อีกต่อไป และมวลชนนับหมื่นนับแสนลงถนนทุกสัปดาห์จนกว่ายุนจะพ้นตำแหน่ง
พัค ชุล-ฮยุน คอลัมนิสต์ท้องถิ่น ขานรับว่า นับจากสัปดาห์นี้การประท้วงจะดึงดูดผู้ชุมนุมจำนวนมากขึ้นซึ่งรวมถึงคนหนุ่มสาว และพีพีพีจะแตกจากความขัดแย้งภายในพรรค
ในอีกด้านหนึ่ง ฝ่ายตำรวจเกาหลีใต้ระบุว่ายังคงเดินหน้าสอบสวนทั้งตัวประธานาธิบดีและเจ้าหน้าที่ระดับสูงอีกหลายคนในข้อกล่าวหาก่อกบฏ จากการประกาศกฎอัยการศึกโดยไม่มีเหตุผลอันควรเมื่อคืนวันอังคาร (3) ก่อนยอมยกเลิกในอีก 6 ชั่วโมงต่อมา
เช้าวันอาทิตย์ ทีมสอบสวนพิเศษของสำนักงานอัยการเกาหลีใต้ยังเข้าจับกุมและยึดโทรศัพท์มือถือของคิม ยอง ฮยุน ที่ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมตั้งแต่วันพุธ (4) เพื่อแสดงความรับผิดชอบการประกาศกฎอัยการศึก โดยเจ้าหน้าที่หลายคนระบุว่า คิมเป็นผู้แนะนำให้ยุนออกประกาศดังกล่าวและเรียกทหารไปปิดล้อมสภาเมื่อคืนวันอังคาร
สำนักข่าวยอนฮัปรายงานว่า การจับกุม คิม มีขึ้นหลังจากเจ้าตัวไปให้ปากคำโดยสมัครใจกับสำนักงานอัยการโซลเมื่อเวลา 1.30 น. วันเดียวกัน
นอกจากนั้น ตำรวจยังบุกค้นสำนักงานของอดีตรัฐมนตรีกลาโหมเมื่อวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสอบสวนจากข้อร้องเรียนว่า ยุนและรัฐมนตรีระดับสูงก่อกบฏ
หลังจากนั้นไม่นาน หนังสือพิมพ์จุงอัง อิลโบ รายงานว่า ลี ซังมิน ประกาศลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีมหาดไทย เพื่อรับผิดชอบที่ไม่สามารถรับใช้ประชาชนและประธานาธิบดีได้ และยุนอนุมัติการลาออกแล้ว
ทั้งนี้ พวกพรรคฝ่ายค้านได้ยื่นร้องเรียนกับสำนักงานอัยการ ให้พิจารณาความผิดของยุน คิม และพัค อัน ซู ผู้บัญชาการกองทัพเกาหลีใต้ที่ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ใช้อำนาจตามกฎอัยการศึก โดยกล่าวหาว่า บุคคลเหล่านี้ก่อกบฏ ซึ่งหากถูกตัดสินว่าผิดจริง จะมีโทษถึงประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิต
สมาชิกสภาจากพรรคฝ่ายค้านกล่าวหาว่า เมื่อประกาศกฎอัยการศึกแล้ว ยุนได้ส่งทหารขัดขวางสมาชิกสภาไม่ให้รวบรวมเสียงเพื่อลงมติล้มเลิกกฎอัยการศึกได้ ทว่าไม่ประสบความสำเร็จ
นอกจากนั้น ผู้บัญชาการกองทหารหน่วยพิเศษยังเปิดเผยว่า ได้รับคำสั่งให้ “ลาก” สมาชิกสภาออกจากรัฐสภา โดยในรายชื่อบุคคลที่ต้องจับกุมรวมถึ งลี แจ มยอง ผู้นำฝ่ายค้าน, วู วอน ชิก ประธานรัฐสภาแห่งชาติ และฮัน หัวหน้าพรรคพีพีพี
(ที่มา : เอเอฟพี/รอยเตอร์)