xs
xsm
sm
md
lg

แล้วทำอะไรได้! ปธน.เกาหลีใต้รอดญัตติถอดถอน แม้ถูกประชาชนขับไล่กรณีประกาศอัยการศึก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ประธานาธิบดี ยุน ซ็อกยอล รอดพ้นจากลงมติถอดถอนในรัฐสภาในวันเสาร์ (7 ธ.ค.) จากกรณีที่เขาพยายามบังคับใช้กฎอัยการศึกช่วงสั้นๆ เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ แต่ผู้นำพรรคของเขาเอง ยังเชื่อว่าท้ายที่สุดแล้วประธานาธิบดีรายนี้จะลาออกจากตำแหน่งเอง

พรรคพลังประชาชน (พีพีพี) ของยุน บอยคอตต์การลงมติถอดถอน ที่ผลักดันโดยพรรคประชาธิปไตย พรรคฝ่ายค้านหลัก แต่ญัตติถูกคว่ำหลังจากมีสมาชิกรัฐสภาเข้าร่วมไม่มากพอ

อย่างไรก็ตาม หลังจากการโหวต ฮาน ดองฮูน ผู้นำพรรคพีพีพี บอกว่าพรรคตัดสินใจแล้วว่า ยูน จะลาออกจากตำแหน่ง "การประกาศกฎอัยการศึกเป็นการละเมิดกฎหมายอย่างชัดเจนและร้ายแรง" ฮาน บอกกับผู้สื่อข่าว

กระนั้นก็ตาม ฮาน เคยมีประวัติกระทบกระทั่งกับยุน และไม่เป็นที่ชัดเจนว่าเขาได้พูดคุยกับสมาชิกพรรคพีพีพีทั้งหมดแล้วหรือไม่ ขณะเดียวกัน ยุน ก็ยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับคำพูดของ ฮาน

ประธานาธิบดียุน สร้างความตกตะลึงไปทั่วประเทศเมื่อช่วงเย็นวันอังคาร (3 ธ.ค.) ด้วยการประกาศกฎอัยการศึก มอบอำนาจฉุกเฉินอย่างกว้างขวางแก่ทหาร ในการขุดรากถอนโคนสิ่งที่เขาเรียกว่าเป็น "กองกำลังต่อต้านรัฐ" และกำราบการทำตัวเป็นอุปสรรคขัดขวางของฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง

อย่างไรก็ตาม เขาถอนกฎอัยการศึกในอีก 6 ชั่วโมงต่อมา หลังรัฐสภาที่ขัดขืนการปิดล้อมของทหารและตำรวจ ลงมติอย่างเป็นเอกฉันท์คัดค้านประกาศดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม การประกากฎอัยการศึกของยุน ได้ฉุดเกาหลีใต้ ชาติเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดอันดับ 4 ของเอเชีย และพันธมิตรทางทหารสำคัญของสหรัฐฯ เข้าสู่วิกฤตทางการเมืองใหญ่หลวงที่สุดในรอบหลายทศวรรษ คุกคามทำลายชื่อเสียงของประเทศ ในเรื่องราวแห่งความสำเร็จในด้านประชาธิปไตย

ก่อนหน้านี้ในวันเสาร์ (7 ธ.ค.) ยุน ปราศรัยถึงประชาชนทั่วไปประเทศ ผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งรัฐ ขอโทษต่อความเคลื่อนไหวดังกล่าว และบอกว่าเขาจะเผชิญหน้าไม่ว่าผลสนองจะตามมาเช่นไร อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้เสนอตัวขอลาออกแต่อย่างใด

ยุน บอกว่าเขาวางชะตากรรมไว้ในมือของพรรคพีพีพี ซึ่ง ฮาน กล่าวในเวลาต่อมาว่ามันเท่ากับเป็นการสัญญาว่าผู้นำรายนี้จะลาออกจากตำแหน่งก่อนกำหนด

"พรรคพลังประชาชนจะหาทางให้ประธานาธิบดีพ้นจากตำแหน่งด้วยความเป็นระบบระเบียบ เพื่อลดความสับสนของประชาชนให้เหลือน้อยที่สุด" ฮานกล่าว พร้อมบอกว่าจนกว่าเขาจะลาออกจากตำแหน่ง ผู้นำรายนี้จะถูกกันจากการทำหน้าที่ และนายกรัฐมนตรีจะปรึกษาหารือกับทางพรรคในการบริการจัดการกิจการต่างๆ ของรัฐ

พรรคดีพี พรรคฝ่ายค้าน หัวเราะเยาะแนวคิดดังกล่าวว่าเป็นเรื่องไร้สาระและไม่ชอบด้วยกฎหมาย "ทั้งประชาชนและกฎหมาย ไม่มีใครให้อำนาจ ฮาน เขี่ย ยุน พ้นจากเก้าอี้" พรรคดีพีพีระบุในถ้อยแถลง พร้อมบอกว่าการถอดถอนเป็นเพียงหนทางเดียว

การลงมติครั้งนี้มีขึ้นในขณะที่พวกผู้ประท้วงหลายหมื่นคนชูเทียนและหลอดไฟ ไหลบ่าลงท้อถนนบริเวณด้านนอกอาคารรัฐสภาในคืนวันศุกร์ (6 ธ.ค.) และวันเสาร์ (7 ธ.ค.) เรียกร้องให้ถอดถอน ยุน พ้นจากตำแหน่ง

อ้างอิงผลสำรวจความคิดห็นที่จัดทำโดยสำนักโพล Real Meter ที่เผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดี (5 ธ.ค.) พบว่าผู้ตอบแบบสอบถาม 73.6% อยากให้ถอดถอน ยุน ส่วนที่คัดค้านมีอยู่ 24%

ชอย ยองโฮ ผู้ประท้วงรายหนึ่งวัย 60 ปี แสดงความเดือดดาลต่อแนวโน้มที่การยื่นถอนถอนจะไม่ประสบความสำเร็จ แต่ประกาศจะเดินหน้าเข้าร่วมต่อการประท้วงใดๆ ในอนาคต "เราจะส่งเสียงจนกว่าพวกเขาจะได้ยิน" เขากล่าว

การปราศรัยต่อสถานีโทรทัศน์ในวันเสาร์ (7 ธ.ค.) ถือเป็นการปรากฏตัวต่อสาธารณะเป็นครั้งแรกของยุน นับตั้งแต่เขายกเลิกประกาศอัยการศึก "ผมปล่อยให้ทางพรรคของผมใช้มาตรการต่างๆ เพื่อรักษาเสถียรภาพแก่สถานการณ์ทางการเมืองในอนาคต ในนั้นรวมถึงประเด็นวาระการดำรงตำแหน่งของผม" เขากล่าว พร้อมให้สัญญาจะไม่มีความพยายามบังคับใช้กฎอัยการศึกเป็นครั้งที่ 2

ในเวลาต่อมา ฮาน บอกว่าประธานาธิบดีไม่อยู่ในสถานะที่จะปฏิบัติหน้าที่อีกต่อไป และเวลานี้การลาออกของเขาเป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ หลังจากเมื่อวันศุกร์ (6 ธ.ค.) ฮาน เคยพูดอย่างโกรธเกรี้ยว่า ยุน เป็นอันตรายต่อประเทศ และจำเป็นต้องถูกถอดพ้นจากอำนาจ ความเคลื่อนไหวที่เพิ่มแรงกดดันให้ ยุน ลาออกจากตำแหน่ง

อย่างไรก็ตาม ในท้ายที่สุดแล้ว สมาชิกพรรคพีพีพีเกือบทั้งหมดบอยคอตต์การลงมติ และหนึ่งในสมาชิกที่เข้าร่วมการโหวตเผยว่าตนเองลงมติคัดค้านการถอดถอน แม้เชื่อว่า ยุน ไม่เหมาะสมต่อการดำรงตำแหน่งอีกต่อไป

ถ้า ยุน ออกจากตำแหน่งก่อนครบวาระ 5 ปี ในเดือนพฤษภาคม 2027 รัฐธรรมนูญเกาหลีใต้กำหนดไว้ว่าจะต้องจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีภายใน 60 วัน นับตั้งแต่ที่เขาพ้นจากเก้าอี้

เคยมีการประกาศกฎอัยการศึกมาแล้วหลายสิบครั้ง นับตั้งแต่มีการสถาปนาเกาหลีใต้ในฐานะสาธารณรัฐ ในปี 1948 โดยหนสุดท้ายเกิดขึ้นในปี 1980

ในการประกาศอัยการศึกเมื่อวันอังคาร (3 ธ.ค.) ยุน ให้อำนาจฉุกเฉินอย่างกว้างขวางแก่กองทัพ ในการจัดการกับภัยคุกคามอย่างไม่เจาะจงจาก "กองกำลังคอมมิวนิสต์เกาหลีเหนือ" และ "เพื่อกำจัดกองกำลังต่อต้านรัฐที่ฝักใฝ่เกาหลีเหนือ"

(ที่มา : รอยเตอร์)


กำลังโหลดความคิดเห็น