ชายชาวอาร์เจนตินาคนหนึ่งติดคุกฟรีไป 21 วัน หลังตำรวจเข้าใจว่าแป้งทาตัว 18 กระป๋องที่เขาพกติดตัวมาเป็น “โคเคน” และใช้เวลานานถึง 3 สัปดาห์ในการตรวจพิสูจน์
เมื่อต้นเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา แมกซิมิเลียโน อากอสตา ได้ขึ้นรถบัสจากเมืองเมนโดซาไปยังกรุงบัวโนสไอเรส แต่ระหว่างรถจอดพักที่เมืองลาปาซเพื่อให้ตำรวจเข้าตรวจสอบตามปกติ ปรากฏว่าตำรวจไปเจอแป้งทาตัว 18 กระป๋องอยู่ในกระเป๋าสัมภาระของอากอสตา และถามเขาว่า “มันคืออะไร”
แม้ อากอสตา จะอธิบายว่ามันคือ “แป้งทาตัว” ที่เขาซื้อมาใช้เอง แต่ตำรวจไม่เชื่อ และสั่งควบคุมตัวฐานต้องสงสัยว่าขนยาเสพติด
ผลตรวจเบื้องต้นภายหลังการจับกุมอ้างว่าสารที่อยู่ในกระป๋องแป้งทั้ง 18 กระป๋องเป็นโคเคนจริงๆ และ อากอสตา ถูกส่งตัวไปเข้าห้องขังโดยที่ตำรวจไม่แจ้งให้ครอบครัวเขาทราบด้วยซ้ำ
“เขาพยายามโทร.หาเขาทุกที่ ถามผู้โดยสารที่มาด้วยกันบนรถแล้วแต่ก็ไม่มีใครรู้เรื่อง เวลาผ่านไป 2 วันโดยที่เราไม่รู้เลยว่า แมกซี อยู่ที่ไหน” แม่ของชายหนุ่มให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน
เรื่องราวกลับโอละพ่อเมื่อผลตรวจรอบสองซึ่งใช้เวลาถึง 21 วันเต็มพบว่า ผงสีขาวทั้งหมดเป็นแค่ “แป้งทาตัว” จริงๆ ดังนั้นตำรวจจึงปล่อยตัวหนุ่มเคราะห์ร้าย และแทนที่จะขอโทษขอโพย กลับเอาเขาไปปล่อยทิ้งไว้บนถนนในชนบทจนต้องโบกรถกลับบ้านเอง
โฆษกตำรวจแถลงต่อสื่อมวลชนว่า การจับกุม กอสตา ถือเป็นความผิดพลาดโดยสุจริต และไม่ได้มีข้อบกพร่องใดๆ ในกระบวนการสอบสวน เนื่องจากแป้งทาตัวมักจะถูกสับสนกับโคเคนอยู่แล้วเป็นปกติ และหน่วยงานความมั่นคงก็ยืนยันว่าผลตรวจพิสูจน์อาจจะออกเป็น “บวกลวง” (false positive) ได้ ดังนั้นจนกว่าจะพิสูจน์ทราบชัด เจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องคุมขัง อากอสตา เอาไว้ก่อนในฐานะผู้ต้องสงสัย
ที่มา : odditycentral