บิตคอยน์ พุ่งทะลุหลัก 100,000 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในวันนี้ (5 ธ.ค.) จากการที่พวกเทรดเดอร์เชียร์ โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งตัดสินใจเลือกเสนอชื่อแฟนคริปโตตัวยง ขึ้นเป็นผู้กำกับตรวจสอบหลักทรัพย์สหรัฐฯ ทำให้ยิ่งเพิ่มความรู้สึกมองโลกแง่ดีว่าประธานาธิบดีอเมริกันคนใหม่ผู้นี้จะผลักดันให้ปลดลดระเบียบควบคุมคริปโตเคอร์เรนซี
บิตคอยน์ ซึ่งเป็นคริปโตเคอร์เรนซีที่รู้จักกันดีที่สุด ราคาพุ่งทะลุหลักหมายสำคัญ 1 แสนดอลลาร์ได้สำเร็จในการซื้อขายที่ฝั่งตลาดเอเชียวันนี้ แล้วยังวิ่งต่อไปแตะจุดพีกที่ 103,800 ดอลลาร์ หลังจากไต่สูงขึ้นมาอย่างน่าตื่นใจนับแต่ชัยชนะในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมาของ ทรัมป์ ผู้เคยให้สัญญาเอาไว้ระหว่างการรณรงค์หาเสียงว่า จะทำให้สหรัฐฯ กลายเป็น “เมืองหลวงแห่งโลกของบิตคอยน์ และคริปโตเคอร์เรนซี”
ราคาของเงินดิจิทัลสกุลนี้ได้พุ่งพรวดขึ้นไปมากกว่า 50% แล้วนับจากที่เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ผู้นี้มีชัยกลายเป็นว่าที่ประธานาธิบดี และหากนับตั้งแต่เริ่มปี 2024 นี้เป็นต้นมา ก็ทะยานขึ้นไปได้ราว 140% ทีเดียว
อย่างไรก็ดี การไต่ขึ้นของบิตคอยน์ได้เกิดสะดุดอยู่เหมือนกันในช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยรออยู่แถวๆ ระดับต่ำกว่า 1 แสนดอลลาร์ ขณะที่พวกเทรดเดอร์เฝ้าคอยปัจจัยใหม่ที่จะกระตุ้นให้แรงซื้อเข้ามาอีกระลอก
ปรากฏว่าสิ่งที่พวกเขารอคอยย่างเท้าเข้ามาถึง ด้วยรายงานข่าวที่ว่า ทรัมป์ตัดสินใจเสนอชื่อ พอล แอตคินส์ ผู้สนับสนุนคริปโตคนสำคัญ ให้เข้ารับตำแหน่งประธานของคณะกรรมการหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) คนต่อไป เมื่อตัวเขาขึ้นครองทำเนียบขาวในต้นปีหน้า
แอตคินส์ เคยเป็นกรรมการคนหนึ่งของ SEC ในช่วงระหว่างปี 2002 ถึง 2008 ต่อมาเมื่อปี 2009 เขาเป็นผู้ก่อตั้ง แพโทแมค กลอบอล พาร์ตเนอร์ส บริษัทที่ปรึกษาด้านความเสี่ยง ซึ่งลูกค้าเป็นพวกบริษัทในอุตสาหกรรมการธนาคาร เทรดดิ้งหลักทรัพย์ และคริปโตเคอร์เรนซี
ในคำประกาศเสนอชื่อซึ่งออกโดยทีมงานรับโอนอำนาจของทรัมป์ ชี้ว่า แอตคินส์เคยเป็นประธานร่วมของหอการค้าดิจิทัล (Digital Chamber of Commerce) ที่คอยส่งเสริมสนับสนุนการใช้สินทรัพย์ดิจิทัลมาตั้งแต่ปี 2017
“พอลเป็นผู้นำที่ผ่านการพิสูจน์มาแล้วในเรื่องการใช้ระเบียบควบคุมแบบคำนึงถึงสามัญสำนึก” ตัวทรัมป์เองกล่าวในคำแถลงฉบับหนึ่ง ซึ่งเน้นย้ำด้วยว่า แอตคินส์มีความมุ่งมั่นผูกพันที่จะให้ตลาดทุน “แข็งแกร่ง มีนวัตกรรม”
“เขายังเป็นผู้ที่ตระหนักรับทราบว่า สินทรัพย์ดิจิทัลและนวัตกรรมอื่นๆ มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดสำหรับ “การทำให้อเมริกายิ่งใหญ่ขึ้นยิ่งกว่าที่เคยเป็นมาในอดีต” คำแถลงของทรัมป์ กล่าวต่อ
(ที่มา: เอเอฟพี)