พรรคฝ่ายค้านเกาหลีใต้ ซึ่งครองเสียงข้างมากในรัฐสภา รวมตัวกันในวันพุธ (4 ธ.ค.) ยื่นญัตติถอดถอนประธานาธิบดียุน ซอก ยอล ออกจากตำแหน่ง จากกรณีที่เขาประกาศกฎอัยการศึกเมื่อกลางดึกวันอังคาร (3) ส่งผลให้โสมขาวเผชิญวิกฤตการเมืองครั้งสำคัญ แต่แล้วก็ต้องยอมยกเลิกหลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง เนื่องจากเผชิญการต่อต้านคัดค้านจากฝ่ายนิติบัญญัติ และประชาชนทั่วไป ล่าสุดรัฐมนตรีกลาโหมยอมยื่นใบลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบ ขณะที่ตัวยุนเองยังเก็บตัวเงียบ ด้านกลุ่มแนวร่วมสหภาพแรงงานใหญ่ที่สุดของประเทศประกาศชุมนุมประท้วงจนกว่าประธานาธิบดีจะยอมลาออก
การประกาศใช้กฎอัยการศึกแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยของยุน ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 4 ทศวรรษ นำไปสู่การเผชิญหน้าระหว่างพวกสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติที่ไม่เห็นด้วยกับความเคลื่อนไหวครั้งนี้ กับกองทัพที่ส่งทหารกว่า 280 นาย และเฮลิคอปเตอร์ 24 ลำบินว่อนเหนืออาคารรัฐสภาเพื่อล็อกดาวน์สถานที่แห่งนี้ นอกจากนั้น ยังมีรายงานว่า ผู้ประท้วงจำนวนนับหมื่นซึ่งออกมาชุมนุมกันที่ด้านนอกรัฐสภา มีบางส่วนได้ปะทะกับตำรวจที่นั่นอีกด้วย ทั้งนี้ กฎอัยการศึกจะทำให้รัฐบาลและฝ่ายทหารมีอำนาจในการสั่งห้ามกิจกรรมทางการเมืองและปิดกั้นการรายงานข่าวของสื่อมวลชน
สมาชิกจำนวนมากของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ซึ่งเป็นฝ่ายนิติบัญญัติระดับชาติที่มีสภาเดียวของเกาหลีใต้ พยายามดึงดันผลักไสกับพวกทหารที่ติดอาวุธปืนจู่โจมอัตโนมัติ จนที่สุดแล้วสามารถหาทางเข้าสู่สภาได้สำเร็จ เป็นจำนวน 190 คนจากทั้งสภา 300 คน ในนี้รวมถึง ส.ส.กลุ่มหนึ่งของพรรคพลังประชาชนของยุนเองด้วย พวกเขาได้จัดแจงเปิดการประชุมสภา และออกเสียงอย่างเป็นเอกฉันท์ 190 ต่อ 0 คัดค้านการประกาศกฎอัยการศึกของประธานาธิบดี ส่งผลให้ยุนไม่มีทางเลือก นอกจากออกมาแถลงทางทีวีเป็นครั้งที่สองเมื่อเวลาประมาณ 4.30 น. วันพุธ (4 ธ.ค.) หรือราว 6 ชั่วโมงหลังการประกาศกฎอัยการศึกในตอนแรก ยอมยกเลิกประกาศเดิม และสั่งให้ทหารกลับกรมกอง
ทั้งนี้ ภายใต้รัฐธรรมนูญเกาหลีใต้ การใช้กฎอัยการศึกจะต้องสิ้นสุดลงเมื่อรัฐสภาโหวตให้ยกเลิกด้วยเสียงข้างมาก
ต่อมาในวันพุธ บรรดาผู้ช่วยอาวุโสของยุน รวมถึงรัฐมนตรีกลาโหม คิม ยอง ฮยุน ต่างยื่นใบลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบการประกาศกฎอัยการศึก ขณะที่ยุนยังเก็บตัวเงียบ
อย่างไรก็ดี พรรคประชาธิปไตย (ดีพี) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านใหญ่ ได้เคลื่อนไหวเรียกร้องให้ยุนลาออกหรือเผชิญกระบวนการถูกพิจารณาถอดถอนจากสภา ในเวลาต่อมาของวันพุธ พรรคฝ่ายค้านรวม 6 พรรค ก็ได้ยื่นญัตติถอดถอนยุนต่อสภาอย่างเป็นทางการแล้ว โดยคาดกันว่าอาจมีการลงมติอย่างเร็วที่สุดในวันศุกร์ (6 ธ.ค.)
ดีพีแถลงว่า การประกาศกฎอัยการศึกของยุนละเมิดรัฐธรรมนูญอย่างชัดเจน เนื่องจากไม่เป็นไปตามเงื่อนไขข้อกำหนดสำหรับในการประกาศใช้อำนาจนี้ จึงถือเป็นการก่อกบฏซึ่งเป็นเหตุผลสมควรที่จะดำเนินการถอดถอน
ภายใต้รัฐธรรมนูญเกาหลีใต้ ประธานาธิบดีสามารถประกาศกฎอัยการศึกระหว่าง “สงคราม เกิดสถานการณ์คล้ายสงคราม หรือเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินอื่นๆ ภายในประเทศที่เทียบเท่าสงคราม” จึงจำเป็นต้องใช้กำลังทหารในการจำกัดเสรีภาพของสื่อ การชุมนุม และสิทธิอื่นๆ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย ทั้งนี้ ผู้สังเกตการณ์จำนวนมากต่างไม่เห็นว่า สถานการณ์ปัจจุบันในเกาหลีใต้เข้าข่ายที่จะใช้กฎอัยการศึกแล้ว
เวลานี้ ดีพีและพรรคฝ่ายค้านอื่นๆ ครองที่นั่งในรัฐสภา 192 ที่นั่ง จึงต้องการเสียงสนับสนุนอีกเพียง 8 เสียงจากพรรคของยุนที่มีที่นั่ง 108 ที่นั่ง เพื่อผ่านญัตติถอดถอน หลังจากนั้นแล้วตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 9 คนจะเป็นผู้พิจารณาและลงคะแนนโหวตเพื่อรับรองมติของรัฐสภา โดยต้องได้คะแนนเห็นชอบจากตุลาการอย่างน้อย 6 คน
ทั้งนี้ หากยุนลาออกหรือถูกถอดถอน นายกรัฐมนตรีฮัน ด็อก ซู จะรับหน้าที่แทนจนกว่าจะมีการเลือกตั้งใหม่ภายใน 60 วัน
ข้ออ้างประกาศกฎอัยการศึก
ในการกล่าวปราศรัยรอบแรกเมื่อกลางดึกคืนวันอังคาร (3) ยุนอ้างว่าต้องใช้กฎอัยการศึกเพื่อปกป้องประเทศจากภัยคุกคามของเกาหลีเหนือ รวมทั้งขัดขวางการดำเนินการเพื่อปล้นเสรีภาพและความสุขของประชาชนของกลุ่มต่อต้านรัฐบาล โดยเขาระบุว่า รัฐสภากำลังกลายเป็นที่หลบภัยของพวกอาชญากร ที่ซ่องสุมของเผด็จการรัฐสภาที่ต้องการให้ระบบบริหารและตุลาการเป็นอัมพาต และล้มล้างระบอบประชาธิปไตยเสรีนิยมของประเทศ
ยุนยังตราหน้าว่า ดีพีเป็นกลุ่มต่อต้านที่ต้องการโค่นล้มรัฐบาล
ช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ยุนและพรรคพลังประชาชนของเขา งัดข้ออย่างหนักกับพรรคฝ่ายค้านในประเด็นงบประมาณสำหรับปีหน้า โดยสัปดาห์ที่แล้วสมาชิกรัฐสภาอนุมัติผ่านแผนงบประมาณที่ได้ตัดแผนการใช้จ่ายของยุน
ยุน ซึ่งผันตัวเองจากการเป็นอัยการสูงสุดเกาหลีใต้ เข้าสู่วงการการเมือง ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีอย่างเฉียดฉิวที่สุดในประวัติศาสตร์เกาหลีใต้เมื่อปี 2022 ด้วยการเกาะกระแสความไม่พอใจของประชาชนที่มีต่อคณะบริหารของพรรคดีพี ทั้งในด้านนโยบายเศรษฐกิจ และเรื่องอื้อฉาว และตลอดจนความพยายามในการดำเนินการเพื่อให้เกิดความเสมอภาคทางเพศสภาพ
อย่างไรก็ดี หลังเป็นประธานาธิบดีมาได้ 2 ปี คะแนนนิยมของยุนก็หล่นฮวบฮาบลงเรื่อยๆ โดยผลสำรวจของแกลลัพเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้ร่วงลงเหลือแค่ 19% แล้ว เนื่องจากประชาชนโกรธขึ้งกับภาวะเศรษฐกิจ รวมถึงข่าวฉาวของคิม คอน ฮี ภรรยาของยุน ขณะที่พรรคพลังประชาชนของเขาก็แพ้ขาดลอยในการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทำให้สูญเสียอำนาจการควบคุมสภาให้พรรคฝ่ายค้าน
แรงงานประท้วงต่อ
แม้เกิดความวุ่นวายทางการเมืองตลอดคืนวันอังคาร ทว่า ในวันรุ่งขึ้น บรรยากาศในกรุงโซลกลับสู่ภาวะปกติอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะมีการประท้วงเกิดขึ้นอีก หลังจากแนวร่วมสหภาพแรงงานใหญ่ที่สุดของเกาหลีใต้คือ สมาพันธ์สหภาพแรงงานเกาหลีมีแผนจัดชุมนุมในโซลและประกาศปักหลักประท้วงต่อเนื่องจนกว่ายุนจะยอมลาออก
ด้านสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงโซลออกประกาศเตือนพลเมืองของตนให้หลีกเลี่ยงสถานที่ชุมนุม ขณะที่บริษัทขนาดใหญ่ที่รวมถึงเนเวอร์ และแอลจี อิเล็กทรอนิกส์ แนะนำให้พนักงานทำงานจากที่บ้าน
วอชิงตันเผยว่า ไม่ได้รับแจ้งล่วงหน้าจากยุนเรื่องการประกาศกฎอัยการศึก และยินดีที่ผู้นำเกาหลีใต้เลิกล้มการตัดสินใจดังกล่าว
แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เผยว่า อเมริกายังคงคาดหวังว่า เกาหลีใต้จะแก้ไขความขัดแย้งทางการเมืองด้วยสันติวิธีตามหลักนิติธรรม
ทั้งนี้ อเมริกามีทหารราว 28,500 นายประจำการในเกาหลีใต้
แผนการหารือทางทหารและการซ้อมรบร่วมระหว่างอเมริกากับเกาหลีใต้ ได้ถูกเลื่อนออกไปท่ามกลางผลกระทบทางการทูตจากดรามาการเมืองของเกาหลีใต้เมื่อคืนวันอังคาร
ด้านจีนที่เป็นพันธมิตรสำคัญของเกาหลีเหนือ เรียกร้องให้พลเมืองของตนในเกาหลีใต้อยู่ในความสงบและใช้ความระมัดระวัง และหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศ แถลงว่า สถานการณ์ทางการเมืองในเกาหลีใต้เป็นกิจการภายในของเกาหลีใต้
นายกรัฐมนตรีสวีเดนเลื่อนการเดินทางเยือนเกาหลีใต้ เช่นเดียวกับสมาชิกรัฐสภาญี่ปุ่นที่ยกเลิกการเดินทางไปโซลที่เดิมกำหนดไว้กลางเดือนนี้
มาร์ก รึตเตอ เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) แถลงว่า นาโตยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์ในเกาหลีใต้ ก่อนสำทับว่า ความสัมพันธ์กับโซลยังมั่นคงเช่นเดิม
จี วุก ชิน ศาสตราจารย์สังคมวิทยาจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ชี้ว่า การประกาศกฎอัยการศึกเป็นการเคลื่อนไหวสุดเซอร์ไพรส์ครั้งสุดท้ายเพื่อพยายามยึดกุมอำนาจทางการเมืองของยุน แต่กลับกลายเป็นการทำลายอาชีพทางการเมืองของเขาเองจากการถูกพรรคฝ่ายค้านยื่นญัตติถอดถอน
แดนนี รัสเซล รองประธานสถาบันนโยบายสังคมเอเชีย ซึ่งเป็นกลุ่มคลังสมองในอเมริกา กล่าวถึงการประกาศกฎอัยการศึกในเกาหลีใต้ครั้งแรกนับจากปี 1980 ว่า เกาหลีใต้หลบพ้นจากกระสุน แต่ยุนพลาดยิงใส่เท้าตัวเอง
ตลาดปั่นป่วน
จากความปั่นป่วนทางการเมืองในคืนวันอังคาร ตลาดการเงินเกาหลีใต้เมื่อวันพุธอยู่ในอาการผันผวนหนัก โดยดัชนีหุ้นเคเอส11 ปิดตลาดตกลงราว 1.3% และเงินวอนอ่อนค่าลงใกล้สถิติต่ำสุดในรอบ 2 ปีก่อนกระเตื้องขึ้น ซึ่งดีลเลอร์ระบุว่า เนื่องจากทางการเกาหลีใต้เข้าแทรกแซง
ก่อนหน้านั้น เมื่อคืนวันอังคาร ชอย ซัง ม็อก รัฐมนตรีคลัง และรี ชาง ยอง ผู้ว่าการธนาคารกลาง ได้จัดประชุมฉุกเฉิน และกระทรวงคลังออกคำแถลงให้สัญญาว่า จะอัดฉีดสภาพคล่องไม่จำกัดเข้าสู่ตลาดหุ้น ตลาดพันธบัตร ตลาดเงินระยะสั้นจนกว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติ
(ที่มา : รอยเตอร์/เอเอฟพี/เอพี)