xs
xsm
sm
md
lg

งานเข้ารัวๆ! “ทรัมป์” จัดหนักขู่ขึ้นภาษี 100% กับทุกประเทศในกลุ่ม BRICS ถ้าเดินหน้าตั้งเงินสกุลใหม่หวังล้ม “US ดอลลาร์”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ - ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ยืนยันตั้งเป้าจะเดินหน้าขึ้นภาษี 100% กับกลุ่มประเทศ BRICS ที่มีรัสเซีย-จีนเป็นผู้นำ หากยังเดินหน้าตั้งเงินสกุลใหม่ขึ้นมาแข่ง เป็นการใช้มาตรการภาษีเพื่อปกป้องระบบดอลลาร์สหรัฐที่เป็นสกุลเงินหลักในการซื้อขายทั่วโลก ด้านกระทรวงต่างประเทศโร่โต้ข่าวลืออ้าง “ไทย” ได้ไฟเขียวเป็น BRICS พาร์ตเนอร์เป็นทางการมาตั้งแต่ตุลาคม

CNN ของสหรัฐฯ รายงานวันเสาร์ (30 พ.ย.) ว่า ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ทวีตบนแพลตฟอร์ม Truth Social บ่ายวันเสาร์ (30 พ.ย.) ว่า

“ความคิดของบรรดาประเทศกลุ่ม BRICS ที่พยายามถอยห่างจากดอลลาร์สหรัฐในขณะที่พวกเรายืนเคียงข้างและเฝ้าระวังจะต้องยุติลง”

และเสริมต่อว่า “พวกเราต้องการข้อผูกพันกับกลุ่มประเทศเหล่านี้จะต้องไม่สร้างสกุลเงิน BRICS ใหม่ขึ้นมา และประเทศเหล่านี้จะไม่สนับสนุนเงินสกุลอื่นเพื่อมาแทนที่เงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งแกร่ง หรือไม่เช่นนั้นแล้ว ชาติเหล่านี้จะต้องเผชิญกับการขึ้นภาษี 100%”

ทรัมป์ยังขู่ต่อว่า ประเทศสมาชิก BRICS อาจต้องคาดหวังว่าจะไม่สามารถส่งสินค้าเข้าไปขายในตลาดสหรัฐฯ ซึ่งถือมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก

BRICS ที่แต่เดิมมีเพียง 5 ชาติภายใต้ชื่อกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่มาตั้งแต่ปี 2011 แต่ทว่าเมื่อต้นปีนี้ อิหร่าน ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และเอธิโอเปียได้เข้าเป็นสมาชิกเป็นทางการ ถือเป็นการขยายครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี

และมีอีก 34 ประเทศได้ยื่นใบสมัครและแสดงความสนใจในการเข้าร่วมกลุ่ม BRICS รัฐมนตรีต่างประเทศแอฟริกาใต้ นาเลดี แพนดอร์ (Naledi Pandor) กล่าวเมื่อกุมภาพันธ์ โดยมี "ไทย" เข้าเป็นหนึ่งในนั้น

CNN ชี้ว่า ประธานาธิบดีบราซิล ลูอีซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ในปี 2023 ได้เสนอให้มีการสร้างเงินสกุลกลางขึ้นในทวีปอเมริกาใต้ซึ่งเปรียบเสมือนหลังบ้านของสหรัฐฯ ด้วยเหตุผลเพื่อลดการพึ่งพาการใช้สกุลเงินดอลลาร์

การใช้สกุลเงิน BRICS และระบบเครือข่ายธนาคารนอกระบบที่เงินดอลลาร์สหรัฐที่มีอิทธิพลจะสามารถทำให้ประเทศเช่น รัสเซีย จีน และอิหร่าน สามารถหลบเลี่ยงการคว่ำบาตรจากโลกตะวันตก แต่อย่างไรก็ตามโอกาสสกุลเงินเกิดใหม่นี้ยังคงมีอยู่ต่ำเนื่องมาจากความแตกต่างทางเศรษฐกิจและการเมืองเชิงภูมิศาสตร์ สื่อสหรัฐฯ กล่าว

การขยายตัวของกลุ่ม BRICS ยังถือเป็นโอกาสทองของจีนในการต้องการสร้างความใกล้ชิดกับบรรดาผู้เล่นหลักเพื่อท้าทายความเป็นผู้นำโลกของสหรัฐฯ

และการมีประเทศเข้าร่วมจะเป็นประโยชน์กับรัสเซีย ที่ในเวลานี้ถูกคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจและทางการทูตจากโลกตะวันตกหลังส่งกำลังทหารรุกรานยูเครน และในปีนี้รัสเซียได้นั่งเป็นประธานแบบหมุนเวียนของกลุ่ม BRICS

ซึ่งในการประชุม BRICS ครั้งที่ 16 จัดขึ้นที่เมืองคาซาน (Kazan) อ้างอิงจากวิกีพีเดียพบว่ามี “คิวบา” ที่ถูกสหรัฐฯ คว่ำบาตรทางการค้าเข้าร่วมอยู่ในการประชุม

CNN รายงานว่า ในการประชุมครั้งนี้ ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน และประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง ต้องการที่จะส่งสารว่า 'โลกตะวันตก' กำลังถูกโดดเดี่ยวในโลก ในขณะที่ส่วนใหญ่ของประเทศทั่วโลกให้การสนับสนุนรัสเซีย-จีนเพื่อท้าทายความเป็นผู้นำของสหรัฐฯ

ขณะที่กระทรวงต่างประเทศของไทยออกมาโต้ข่าวลือว่า ไทยได้รับสมาชิกภาพของการเข้าร่วมกลุ่ม BRICS มาตั้งแต่ตุลาคม

อ้างอิงจากสื่อไทยภาคภาษาอังกฤษรายงานเมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมาว่า โฆษกกระทรวงต่างประเทศ นิกรเดช พลางกูร ได้ยืนยันวันก่อนหน้าว่า ทางกระทรวงได้เห็นรายงานเมื่อไม่นานมานี้ที่อ้างว่า ไทยได้รับการอนุมัติโดยกลุ่ม BRICS เมื่อวันที่ 24 ต.ค. ในฐานะ 'พันธมิตรทางการ' (Official Partner) เกิดขึ้นหลังไทยส่งตัวแทน รัฐมนตรีต่างประเทศ มาริษ เสงี่ยมพงษ์ เข้าร่วมการประชุม BRICS Plus ที่รัสเซีย

แต่อย่างไรก็ตาม กระทรวงยังต้องทำการยืนยันข่าว เพราะเป็นรายงานที่ถูกเผยแพร่บนเพจข่าว BRICS บนแพลตฟอร์ม X และอีกหลายช่องทาง

โฆษกกระทรวงต่างประเทศให้สัมภาษณ์ต่อว่า รัฐบาลไทยยังคงชั่งน้ำหนักในผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของการเข้าร่วม BRICS ก่อนที่เรื่องนี้จะถูกส่งเข้าสภาผู้แทนราษฎรต่อไป

ขณะที่ตามรายงานของข่าว BRICS News@BRICSinfo บนแพลตฟอร์ม X รายงานเมื่อวันที่ 24 ต.ค.ว่า BRICS ได้เพิ่มอีก 13 ประเทศใหม่ในฐานะประเทศพันธมิตรกลุ่ม BRICS ได้แก่ อัลจีเรีย เบลารุส โบลิเวีย คิวบา อินโดนีเซีย คาซัคสถาน มาเลเซีย ไนจีเรีย ไทย ตุรกี ยูกันดา อุซเบกิสถาน และเวียดนาม

ซึ่งการเป็นชาติพันธมิตร BRICS เป็นสถานะที่รอเวลาในการได้รับการอนุมัติให้เป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการของกลุ่มต่อไป

ซึ่งในรายงานได้ระบุว่า อยู่ในฐานะชาติพันธมิตร (partner) และยังไม่ใช่ฐานะสมาชิกภาพแบบเต็มตัว (full member) และข่าวนี้ได้รับความสนใจมีถึง 4.6 ล้านวิว นอกเหนือจากนี้ CNA ของสิงคโปร์ได้รายงานเมื่อตุลาคมว่า ไทย มาเลเซีย เวียดนาม และอินโดนีเซียได้รับการอนุมัติเป็น BRICS พาร์ตเนอร์

อ้างอิงจากโปรไฟล์ของ BRICS News@BRICSinfo พบว่าเป็นการรายงานความเคลื่อนไหวกลุ่ม BRICS แบบเรียลไทม์

โฆษกกระทรวงต่างประเทศกล่าวว่า “อ้างอิงจากกระบวนการตามปกติ ทางเราต้องได้รับการแจ้งอย่างเป็นทางการจากประธาน BRICS คือ รัสเซีย”

และเสริมต่อว่า “ทางเราตั้งความหวังว่าพวกเราจะได้เป็นชาติพันธมิตร BRICS แต่ผมไม่สามารถยืนยันได้ว่ามันเป็นจริงจนกว่ากระทรวงจะได้เอกสารยืนยันอย่างเป็นทางการจากประธานเสียก่อน” อ้างอิงจากรายงานสื่อไทยภาคภาษาอังกฤษ




กำลังโหลดความคิดเห็น