ยูเครนไม่มีหนทางต่างๆ ที่จะพลิกสถานการณ์กลับมาได้เปรียบรัสเซีย และจะพ่ายแพ้สงครามหากว่าสถานการณ์ยังคงเป็นไปเช่นนี้ จากความเห็นของดมิทรี คูเลบา อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศของยูเครน ระหว่างให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทม์ส พร้อมระบุประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ หวาดกลัวสงครามนิวเคลียร์มากจนเกินไป จนไม่กล้ามอบอาวุธนิวเคลียร์แก่เคียฟ ที่มีความจำเป็นสำหรับชัยชนะ
"ทุกวันนี้เรามีหนทางหรือเครื่องไม้เครื่องมือสำหรับพลิกสถานการณ์และเปลี่ยนวิถีของสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นหรือไม่? คำตอบคือไม่ เราไม่มี" คูเลบา บอกกับไฟแนนเชียลไทม์ส หนังสือพิมพ์อังกฤษ ที่เผยแพร่เมื่อวันศุกร์ (29 พ.ย.) พร้อมระบุว่า "ถ้ามันยังคงเป็นไปเช่นนี้ เราจะพ่ายแพ้สงคราม"
ความเห็นของคูเลบา มีขึ้นหลังจากสหรัฐฯ และฝรั่งเศสอนุญาตให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลที่พวกเขาจัดหาให้ โจมตีดินแดนลึกของรัสเซียที่ได้รับการรับรองจากนานาชาติ แม้มันเป็นการโหมกระพือสถานการณ์ให้ลุกลามบานปลายอย่างมาก แต่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย บอกว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าว "ไม่อาจส่งผลกระทบต่อเส้นทางของปฏิบัติการสู้รบและมอสโกจะบรรลุเป้าหมายทางทหารทั้งหมดทั้งมวล"
คูเลบา พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศของยูเครนเมื่อเดือนกันยายน ท่ามกลางความเคลื่อนไหวล้างบางเจ้าหน้าที่ระดับสูงครั้งใหญ่โดยประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี โดยก่อนหน้าการลาออก เขาเน้นย้ำว่าชัยชนะในสนามรบยังคงมีความเป็นไปได้สำหรับยูเครน ตราบใดที่บรรดาผู้สนับสนุนตะวันตกยังคงมอบอาวุธอาวุธหนักในปริมาณที่เพียงพอ
"เราชาวยูเครน โชคดีที่ โจ ไบเดน เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปี 2022 เพราะว่าถ้าเป็นคนอื่น สิ่งต่างๆ อาจเลวร้ายกว่านี้มากสำหรับเรา" เขาบอกกับไฟแนนเชียลไทม์ส อย่างไรก็ตาม คูเลบา ระบุว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก้าวเดินอย่างช้าๆ ในการส่งมอบระบบอาวุธบางอย่าง เช่นเดียวกับตรรกะสงครามเย็นของเขา ทำให้ ไบเดน ขี้กลัวเกินไปที่จะโหมกระพือสงครามนิวเคลียร์กับรัสเซีย
ภายใต้ ไบเดน ทางสหรัฐฯ ได้จัดสรรงบประมาณช่วยเหลือยูเครนไปแล้ว 131,360 ล้านดอลลาร์ อ้างอิงจากข้อมูลที่เพนตากอนเปิดเผยต่อสาธารณะเมื่อช่วงต้นเดือน แต่จากข้อมูลของสถาบันคีลเพื่อการศึกษาเศรษฐกิจโลก (Kiel Institute for the World Economy) ซึ่งติดตามความช่วยเหลือด้านการทหาร เศรษฐกิจและมนุษยธรรม ที่มอบให้แก่เคียฟ พบว่าในจำนวนนี้มีการส่งมอบจริงๆ แค่ไม่ถึง 90,000 ล้านดอลลาร์
ในขณะที่เหลือเวลาอีกไม่กี่ 2 เดือน ก่อนที่ว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะเข้ารับตำแหน่ง มีรายงานว่า ไบเดน ได้ร้องขอให้สภาคองเกรสเห็นชอบการใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับยูเครน เพิ่มเติมอีก 24,000 ล้านดอลลาร์
แม้ได้รับอนุมัติเงินช่วยเหลือก้อนใหญ่หลายหมื่นล้านดอลลาร์ แต่ยูเครนกำลังเผชิญปัญหาขาดแคลนกำลังพลเป็นอย่างมาก เคียฟสูญเสียกำลังทหารไปแล้วเกือบครึ่งล้านคนนับตั้งแต่ปี 2022 รายงานของหนังสือพิมพ์อีโคโนมิสต์ในสัปดาห์นี้ คำกล่าวอ้างที่ใกล้เคียงกับตัวเลขอย่างเป็นทางการของกระทรวงกลาโหมรัสเซีย
ท่ามกลางปัญหาขาดแคลนกำลังพล สำนักข่าวเอพีรายงานเมื่อวันพุธ (27 พ.ย.) เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ แนะนำให้ยูเครนพิจารณาปรับลดอายุการเกณฑ์ทหารจาก 25 ปี ลงมาอยู่ที่ 18 ปี ซึ่งถือเป็นการเพิ่มแรงกดดันให้รัฐบาลเคียฟต้องระดมชายฉกรรจ์เข้าสู่สนามรบให้มากขึ้นอีก
(ที่มา : ไฟแนนเชียลไทม์ส/อาร์ทีนิวส์)