พฤติกรรมของรัสเซียในการลอบก่อวินาศกรรมเล่นงานเป้าหมายต่างๆ ในโลกตะวันตก ท้ายที่สุดแล้วอาจกระตุ้นให้นาโตพิจารณาใช้มาตรา 5 การป้องกันตนเองร่วมของพันธมิตรทหารแห่งนี้ จากคำกล่าวของหัวหน้าหน่วยข่างกรองต่างประเทศของเยอรมนีเมื่อวันพุธ (27 พ.ย.)
ระหว่างกล่าว ณ กิจกรรมหนึ่งของสถาบันวิจัย DGAP ในกรุงเบอร์ลิน เมื่อวันพุธ (27 พ.ย.) บรูโน คาห์ล หัวหน้าหน่วยข่าวกรองต่างประเทศ (Bundesnachrichtendienst หรือ BND) ของเยอรมนี คาดหมายว่ามอสโกจะยกระดับสงครามลูกผสมหนักหน่วงขึ้น
"การใช้มาตรการผสมผสานอย่างครอบคลุมของรัสเซีย เพิ่มความเสี่ยงที่ท้ายที่สุดแล้ว นาโตจะพิจารณาใช้ช้มาตรา 5 การป้องกันตนเองร่วมของพันธมิตรทหาร" เขาเน้นย้ำ "ในขณะเดียวกัน การที่รัสเซียกำลังยกระดับศักยภาพด้านการทหารเพิ่มมากขึ้น มันหมายความว่าการเผชิญหน้ากับนาโต เริ่มกลายมาเป็นทางเลือกหนึ่งที่เป็นไปได้สำหรับยูเครน"
มาตรา 5 ระบุไว้ว่าถ้าสมาชิกนาโตหนึ่งๆ ถูกโจมตี สมาชิกอื่นๆ ของพันธมิตรทหารแห่งนี้มีหน้าที่ที่ต้องเข้าช่วยเหลือตอบโต้
นาโตและบรรดาหน่วยข่าวกรองของตะวันตก เคยเตือนว่ารัสเซียอยู่เบื้องหลังกิจกรรมที่เป็นปรปักษ์เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทั่วพื้นที่ยูโร-แอตแลนติก ไล่ตั้งแต่การโจมตีทางไซเบอร์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไปจนถึงการวางเพลิงที่เกี่ยวข้องกับมอสโก อย่างไรก็ตามทั้งหมดทั้งมวลนี้รัสเซียปฏิเสธ
คาห์ล บอกว่ากองทัพรัสเซีย อาจมีศักยภาพโจมตีนาโตภายในสิ้นทศวรรษนี้ พร้อมระบุการทำสงครามของมอสโกในยูเครน หมายความว่ารัสเซียมีทหารที่ผ่านสมรภูมิรบภายใต้บังคับบัญชา ซึ่งปัจจัยนี้เองเพิ่มความเสี่ยงมากยิ่งขึ้น นอกเหนือจากกองกำลังทั่วไปของรัสเซีย ขณะเดียวกันมอสโกยังมีความเชี่ยวชาญด้านสงครามโดรนสมัยใหม่อีกด้วย
หัวหน้าหน่วยข่าวกรองต่างประเทศของเยอรมนี อ้างอิงความเชี่ยวชาญของตนเอง ประเมินว่า พวกเจ้าหน้าที่ระดับสูงในกระทรวงกลาโหมรัสเซีย อาจไม่เชื่อว่ามาตรา 5 ของนาโต ในนั้นรวมถึงมาตรการป้องกันของสหรัฐฯ ที่มอบแก่ยุโรป จะถูกบังคับใช้จริง ในกรณีที่เกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน
"เราไม่พบสิ่งบ่งชี้ใดๆ ที่บ่งบอกว่ารัสเซียมีเจตนาเข้าสู่สงคราม แต่ถ้ารัฐบาลในมอสโกรู้สึกว่าตนเองเป็นฝ่ายเหนือกว่า เมื่อนั้นความเสี่ยงของการเผชิญหน้าทางทหารก็จะเพิ่มมากขึ้นในช่วงหลายปีข้างหน้า" คาห์ลระบุ
"หากรัสเซียโจมตีหนึ่งหรือหลายชาติสมาชิกนาโต พวกเขาจะไม่ทำเพื่อยึดครองดินแดนอันกว้างขวาง แต่เพื่อเป็นการทดสอบเส้นตายที่ขีดไว้โดยตะวันตก โดยมีเป้าหมายเพื่อกำราบความเป็นหนึ่งเดียวกันของตะวันตกและนาโต ในฐานะพันธมิตรป้องกันตนเอง" เขากล่าว
"ในมุมมองของรัสเซีย เป้าหมายนี้จะบรรลุ ถ้าหากว่ามาตรหากมาตรา 5 ยังไม่มีผลบังคับใช้ใดๆ ในกรณีที่เกิดการโจมตีจากรัสเซีย" เขากล่าว "เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายนี้ คุณไม่จำเป็นต้องส่งรถถังทหารมายังทิศตะวันตก พวกเขาแค่ส่งกำลังพลกลุ่มเล็กๆ เข้าไปยังแถบบอลติก อ้างว่าเพื่อปกป้องการคุกคามชนกลุ่มน้อยรัสเซีย หรือจัดระเบียบชายแดนแถบหมู่เกาะสวาลบาร์ด"
(ที่มา : รอยเตอร์)