หัวเว่ยเปิดตัว Mate 70 เวอร์ชันใหม่ ในวันอังคาร (26 พ.ย.) ถือเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ติดตั้งระบบปฏิบัติการที่พัฒนาในจีนทั้งหมด เผยยอดพรีออเดอร์ทะลุ 3 ล้านเครื่อง ความเคลื่อนไหวนี้ยังเป็นบททดสอบสำคัญว่า บิ๊กเทคแดนมังกรรายนี้จะสามารถท้าทายฐานะครอบงำตลาดสมาร์ทโฟนของพวกบริษัทตะวันตกได้หรือไม่
Mate 70 รุ่นใหม่ที่หัวเว่ยเผยโฉมคราวนี้ รันบนระบบปฏิบัติการ HarmonyOS Next ของบริษัทเอง ซึ่งจะเป็นการท้าทายโดยตรงต่อระบบปฏิบัติการ iOS ของแอปเปิล และแอนดรอยด์ของกูเกิล ที่ติดตั้งอยู่ในสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ทั่วโลกในปัจจุบัน
การเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดนี้ยังถือเป็นการกลับมาครั้งสำคัญของหัวเว่ยหลังถูกเด็ดปีกด้วยมาตรการแซงก์ชันของอเมริกามานานหลายปี แต่ระยะหลังมานี้สามารถฟื้นยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ริชาร์ด หยู ประธานกลุ่มธุรกิจคอนซูเมอร์ของหัวเว่ย แถลงในงานเปิดตัว Mate 70 เมื่อบ่ายวันอังคารที่สำนักงานใหญ่บริษัทในเมืองเซินเจิ้นว่า สมาร์ทโฟนรุ่นนี้เป็นรุ่นที่ทรงประสิทธิภาพที่สุดเท่าที่บริษัทเคยพัฒนามา
ข้อมูลจากแพลตฟอร์มออนไลน์ของหัวเว่ยระบุว่า Mate 70 มียอดพรีออเดอร์กว่า 3 ล้านเครื่อง แม้อาจไม่ได้หมายถึงยอดขายจริงก็ตาม
แกรี่ อึ้ง นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของเนติซิส ยกย่องว่า HarmonyOS Next เป็นระบบปฏิบัติการรุ่นแรกที่พัฒนาขึ้นมาในจีนทั้งหมด และถือเป็นหลักหมายสำคัญของจีนในการยุติการพึ่งพิงเทคโนโลยีตะวันตก
ทั้งนี้ หัวเว่ยเคยเป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่สุดของจีน ก่อนถูกลูกหลงจากสงครามการค้าวอชิงตัน-ปักกิ่ง สำหรับไตรมาสที่ผ่านมา จากข้อมูลของบริษัทวิจัยด้านเทคโนโลยี คานาลิส หัวเว่ยมียอดขายสมาร์ทโฟนกว่า 10.8 ล้านเครื่อง หรือแค่ 16% ในตลาดจีน
เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา หัวเว่ยเปิดตัว Mate XT ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนแบบจอพับ 3 ตอนรุ่นแรกของโลกในราคา 2,800 ดอลลาร์ หรือแพงกว่าไอโฟนรุ่นล่าสุดกว่า 3 เท่า
แต่สำหรับ Mate 70 รุ่นล่าสุดสนนราคาเริ่มต้นเพียง 758 ดอลลาร์ และผู้ที่ซื้อสมาร์ทโฟนรุ่นนี้สามารถเลือกยกเลิกการติดตั้ง HarmonyOS Next ได้
หยูยืนยันว่า มีอัพเดตแอปพลิเคชันใหม่ๆ มากมายทุกวัน และคาดว่า ภายใน 2-3 เดือน ผู้ใช้จะรับรู้ได้ว่า ระบบนิเวศของ HarmonyOS Next พัฒนาเต็มที่และสมบูรณ์แบบมากขึ้น
โทบี้ จู นักวิเคราะห์อาวุโสของ คานาลิส ชี้ว่า นอกจากเป็นแรงบันดาลใจให้อุตสาหกรรมเทคโนโลยีโดยรวมแล้ว หัวเว่ยยังเป็นผู้ปลุกกระแสการพึ่งพาตนเองที่ทำให้บริษัทสามารถก้าวล้ำนำหน้าอย่างทุกวันนี้ เขายังบอกว่า ความสำเร็จของสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ ของหัวเว่ยจะเป็นตัวบ่งชี้สำคัญว่า กระแสการพึ่งพาตนเองดังกล่าวได้ผลหรือไม่ ก่อนทิ้งท้ายว่า ทุกคนต่างตั้งความหวังสูงลิบกับผลิตภัณฑ์หัวเว่ย
อย่างไรก็ดี ริช บิชอป ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอแอปอินไชน่า ผู้เผยแพร่ซอฟตแวร์ต่างประเทศในจีน ตั้งข้อสังเกตว่า ยังไม่ชัดเจนว่า บรรดานักพัฒนาแอปต่างชาติจะยินดีทุ่มเงินก้อนใหญ่เพื่อสร้างแอปเวอร์ชันใหม่ทั้งหมดสำหรับสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดของหัวเว่ยหรือไม่ โดยบริษัทตัวแทน 1 ใน 3 ในจีนระบุว่า การพัฒนาแอปเพื่อให้สามารถใช้ได้กับ HarmonyOS Next มีต้นทุนถึง 275,000 ดอลลาร์
พอล ทริโอโล หุ้นส่วนของบริษัทที่ปรึกษา อัลไบรต์ สโตนบริดจ์ กรุ๊ป ระบุว่า หัวเว่ยจำเป็นต้องปรับปรุงซอฟต์แวร์อย่างต่อเนื่อง ให้การสนับสนุนนักพัฒนาอย่างดียิ่งขึ้น และโน้มน้าวชุมชนนักพัฒนาว่า บริษัทมุ่งมั่นพัฒนาระบบนิเวศฮาร์โมนีในระยะยาว
(ที่มา: เอเอฟพี)