นักวิเคราะห์และเหล่าบล็อกเกอร์สงครามเผย กองทัพรัสเซียกำลังรุกคืบยึดดินแดนยูเครนในอัตราเร็วที่สุดนับตั้งแต่สงครามปะทุขึ้นเมื่อต้นปี 2022 โดยในเวลาแค่เพียง 1 เดือนสามารถยึดพื้นที่ได้เพิ่มคิดเป็นประมาณครึ่งหนึ่งของเขตเกรเทอร์ลอนดอน (Greater London)
สงครามรัสเซีย-ยูเครนก้าวมาถึงจุดที่เจ้าหน้าที่รัสเซียและตะวันตกระบุตรงกันว่าเป็น “ช่วงอันตรายที่สุด” โดยกองทัพหมีขาวนั้นสามารถยึดดินแดนเพิ่มได้เร็วเป็นประวัติการณ์ ขณะที่สหรัฐฯ ก็เปิดไฟเขียวให้ยูเครนนำอาวุธพิสัยไกลของอเมริกาไปใช้ยิงโจมตีเป้าหมายในรัสเซียได้เป็นครั้งแรก
“รัสเซียทุบสถิติยึดพื้นที่ในยูเครนได้มากที่สุด ทั้งรายสัปดาห์และรายวัน” สำนักข่าว Agentstvo ซึ่งเป็นสื่ออิสระในรัสเซียรายงาน พร้อมเผยว่าในรอบ 7 วันที่ผ่านมามอสโกยึดดินแดนได้เพิ่มเกือบ 235 ตารางกิโลเมตร ซึ่งถือว่ามากที่สุดในรอบสัปดาห์สำหรับปี 2024
ขณะเดียวกัน กองทัพรัสเซียก็สามารถยึดดินแดนเพิ่มได้ประมาณ 600 ตารางกิโลเมตรตลอดช่วงเดือน พ.ย. ตามข้อมูลจาก DeepState ซึ่งเป็นกลุ่มที่ศึกษาวิเคราะห์คลิปเหตุการณ์ในสนามรบและจัดทำแผนที่แนวรบ รวมถึงมีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับกองทัพยูเครน
รัสเซียเริ่มรุกคืบยึดพื้นที่ทางตะวันออกของยูเครนเร็วขึ้นเมื่อช่วงเดือน ก.ค. ขณะที่ยูเครนก็ทำเซอร์ไพรส์ด้วยการส่งทหารบุกข้ามพรมแดนไปยึดพื้นที่แคว้นคูสก์ (Kursk) ของรัสเซียเอาไว้บางส่วนตั้งแต่เดือน ส.ค. ซึ่งหลังจากนั้นมาทหารรัสเซียก็เริ่มบุกตะลุยยึดดินแดนยูเครนเร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
นักวิเคราะห์ชี้ว่า กองทัพรัสเซียกำลังมุ่งหน้าเข้าสู่เมืองคูราคอฟ (Kurakhove) ซึ่งเป็นทางผ่านไปสู่โปครอฟสก์ (Pokrovsk) ศูนย์กลางด้านโลจิสติกในภูมิภาคโดเนตสก์ โดยฉวยจังหวะที่แนวต้านของฝ่ายยูเครนเริ่มอ่อนแอลง
“กองกำลังรัสเซียกำลังรุกคืบเร็วที่สุด ยิ่งกว่าที่เคยทำได้ตลอดช่วงปี 2023” นักวิเคราะห์จากสถาบันเพื่อการศึกษาสงคราม (Institute for the Study of War) ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ระบุในรายงาน
ด้านคณะเสนาธิการทหารยูเครนก็เผยรายงานอัปเดตเมื่อวันจันทร์ (25) ว่า ในช่วงค่ำวันเดียวกันเกิดการปะทะ 45 จุดซึ่งมีความรุนแรงต่างกันในบริเวณเมืองคูราคอฟ
สถาบันเพื่อการศึกษาสงครามและเหล่าบล็อกเกอร์โปรกองทัพรัสเซียให้ข้อมูลว่าเวลานี้ทหารรัสเซียเข้าถึงเมืองคูราคอฟเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในขณะที่ DeepState โพสต์เทเลแกรมเมื่อวันจันทร์ (25) ว่า กองกำลังรัสเซียอยู่ “ใกล้” กับเมืองคูราคอฟ
รัสเซียประกาศชัดเจนว่าจะต้องบรรลุเป้าหมายทุกอย่างที่ตั้งไว้ในยูเครนให้ได้ ไม่ว่าชาติตะวันตกจะพูดหรือทำอะไรก็ตาม ขณะที่ประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ก็พูดย้ำหลายครั้งว่า สันติภาพไม่อาจเกิดขึ้นได้จนกว่าทหารรัสเซียจะถูกขับไล่ออกไปพ้นแผ่นดินยูเครน และดินแดนทุกส่วนที่ถูกมอสโกยึดไป รวมถึงคาบสมุทรไครเมีย จะต้องกลับคืนมาเป็นของยูเครน
ที่มา: รอยเตอร์