กลุ่มฮิซบอลเลาะห์รัวจรวดและอาวุธปล่อยจำนวน 250 ลูก ถล่มอิสราเอลเมื่อวันอาทิตย์ (24 พ.ย.) เพื่อล้างแค้นที่รัฐยิวโจมตีนองเลือดกลางกรุงเบรุต 1 วันก่อนหน้านั้น ขณะที่นักการทูตระดับสูงของอียูชี้รัฐบาลอิสราเอลไม่สนใจบรรลุข้อตกลงหยุดยิง แต่พยายามตั้งเงื่อนไขใหม่ๆ เพื่อขัดขวางการเจรจา ด้านผู้นำสูงสุดของอิหร่านสำทับ ศาลอาญาระหว่างประเทศ (ไอซีซี) ไม่ควรแค่ออกหมายจับบรรดาผู้นำอิสราเอล แต่สมควรลงโทษประหาร
กองทัพอิสราเอลแถลงว่า มีจรวดและอาวุธปล่อยรวมราวๆ 250 ลูกถูกยิงมาจากเลบานอนเข้าใส่ดินแดนรัฐยิวเมื่อวันอาทิตย์ ซึ่งกองทัพสามารถสกัดได้บางส่วน ขณะที่บริการกู้ภัย มาเจน เดวิด อะดอม ของอิสราเอลเผยว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 7 คน และตำรวจเผยว่า อาคารที่พักอาศัยหลังหนึ่งในเมืองไฮฟา ถูกจรวดโจมตีและมีความเสี่ยงที่จะถล่มลงมา
รายงานระบุว่า หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง เสียงไซเรนดังขึ้นอีกครั้งที่ตอนกลางและตอนเหนือของกาซา
ขณะเดียวกัน สมาคมเสี้ยววงเดือนแดงปาเลสไตน์รายงานว่า มีผู้บาดเจ็บ 13 คนจากการยิงขีปนาวุธสกัดจรวดที่ตกใส่บ้านหลายหลังในเมืองทัลคาเรม ในเขตเวสต์แบงก์ โดยยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่า ความเสียหายหรือการบาดเจ็บเกิดจากจรวดที่โจมตีหรือขีปนาวุธสกัดกั้น
ด้านฮิซบอลเลาะห์ ซึ่งเป็นกองกำลังอาวุธและกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองในเลบานอน ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน แถลงว่าได้โจมตีทางอากาศด้วยโดรนชุดใหญ่ใส่ฐานทัพเรือแอชด็อด ทางใต้ของอิสราเอลเป็นครั้งแรก รวมทั้งยิงขีปนาวุธขั้นสูงและส่งโดรนโจมตีจำนวนมากถล่มเป้าหมายทางทหารในนครเทลอาวีฟ รวมทั้งยิงขีปนาวุธโจมตีลิล็อต ซึ่งเป็นฐานบัญชาการข่าวกรองของกองทัพอิสราเอลชานเมืองเทลอาวีฟ
การโจมตีเมื่อวันอาทิตย์ซึ่งถือเป็นหนึ่งในการปฏิบัติการด้วยจรวดระลอกใหญ่ที่สุดของฮิซบอลเลาะห์ในรอบหลายเดือนที่ผ่านมานี้ มีเป้าหมายเพื่อตอบโต้การถล่มโจมตีทางอากาศโดยปราศจากการเตือนของอิสราเอลในบริเวณกลางกรุงเบรุตเมื่อวันเสาร์ (23) ที่มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 29 คน และบาดเจ็บ 67 คน
นอกจากนั้น อิสราเอลยังโจมตีศูนย์บัญชาการและหน่วยข่าวกรองของฮิซบอลเลาะห์ในย่านดานิเยห์ ชานกรุงเบรุตทางด้านใต้ ซึ่งเป็นที่มั่นของนักรบกลุ่มนี้
ขณะเดียวกัน เลบานอนเผยว่า อิสราเอลโจมตีศูนย์บัญชาการของกองทัพเลบานอนที่อยู่ระหว่างเมืองไทร์กับนากูรา ส่งผลให้ทหารเสียชีวิต 1 นาย และบาดเจ็บ 18 นาย ซึ่งทางฝ่ายกองทัพอิสราเอลได้แสดงความเสียใจและยืนยันว่า เป้าหมายการโจมตีอยู่ในบริเวณที่มีการสู้รบกับฮิซบอลเลาะห์ และต้องการโจมตีนักรบกลุ่มนี้เท่านั้น
นับจากทำสงครามกับฮิซบอลเลาะห์เมื่อปลายเดือนกันยายน อิสราเอลสังหารทหารเลบานอนไปแล้วกว่า 40 นาย แม้ส่วนใหญ่กองทัพเลบานอนไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการสู้รบก็ตาม
นาจิบ มิคาติ รักษาการนายกรัฐมนตรีเลบานอน ประณามการโจมตีล่าสุดของอิสราเอลว่า เป็นการส่งข้อความเปื้อนเลือดเพื่อปฏิเสธความพยายามในการยุติสงครามตลอดจนการผลักดันให้มีการหยุดยิงที่มีอเมริกาเป็นแกนนำ
ด้าน โจเซฟ บอร์เรลล์ ประธานด้านนโยบายการต่างประเทศของสหภาพยุโรป กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ ภายหลังพบกับมิคาติ และ นาบีห์ เบอร์รี ประธานสภาผู้แทนราษฎรเลบานอนที่เป็นพันธมิตรกับฮิซบอลเลาะห์ว่า อียูพร้อมจัดสรรเงิน 208 ล้านดอลลาร์เพื่อช่วยเหลือกองทัพเลบานอน ก่อนสำทับว่า รัฐบาลอิสราเอลไม่แสดงความสนใจในการบรรลุข้อตกลงหยุดยิง แต่ดูเหมือนพยายามตั้งเงื่อนไขใหม่ๆ ซึ่งรวมถึงการไม่ยอมรับฝรั่งเศสร่วมเป็นสมาชิกคณะกรรมการนานาชาติเพื่อตรวจสอบการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง
ร่างข้อตกลงที่นานาชาติกำลังผลักดันให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องยอมรับ กำหนดให้ฮิซบอลเลาะห์และอิสราเอลถอนกำลังออกจากตอนใต้ของเลบานอนตามมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ฉบับที่ได้เคยทำให้สงครามระหว่างอิสราเอลกับฮิซบอลเลาะห์สิ้นสุดลงในปี 2006 จากนั้นก็ให้กองทัพเลบานอนและกองกำลังรักษาสันติภาพของยูเอ็นเข้ารับหน้าที่ลาดตระเวนบริเวณดังกล่าว
ในวันจันทร์ (25) อยาตอลเลาะห์ อาลี คอเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน แถลงว่า แทนที่จะเพียงแค่ออกหมายจับ ศาลอาญาระหว่างประเทศ (ไอซีซี) ควรสั่งประหารบรรดาผู้นำอิสราเอลมากกว่า
การแสดงความคิดเห็นดังกล่าวเป็นการพาดพิงการตัดสินใจของไอซีซีเมื่อวันพฤหัสฯ (21) ในการออกหมายจับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู และโยอาฟ กัลแลนต์ อดีตรัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล รวมถึงอิบราฮิม อัล-มาสรี ผู้นำฮามาสที่อิสราเอลอ้างว่า ถูกสังหารระหว่างการโจมตีทางอากาศเมื่อเดือนกรกฎาคม จากการกระทำผิดร้ายแรงหลายอย่างที่เกี่ยวข้องกับสงครามกาซา
(ที่มา : เอพี/เอเอฟพี/รอยเตอร์)