เอเจนซีส์ - เลขาธิการนาโตคนใหม่ มาร์ค รึตเตอ (Mark Rutte) วันศุกร์ (22 พ.ย.) บินเข้าสหรัฐฯ หารือว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ถึงคฤหาสน์ Mar-a-lago รัฐฟลอริดา เป็นการหารือประเด็นความมั่นคงโลก และเป็นการพบกันครั้งแรกหลังชนะเลือกตั้ง ท่ามกลางความวิตกในฝั่งยุโรปต่อการเข้ารับตำแหน่งสมัย 2
โพลิติโกรายงานวันอาทิตย์ (24 พ.ย.) ว่า ในแถลงการณ์ของนาโต (North Atlantic Treaty Organisation) ที่เผยแพร่ออกมาในวันเสาร์ (23) มีใจความว่า ผู้นำทั้งสองพบกันที่ปาล์มบีช และหารือในประเด็นต่างๆ ของความมั่นคงโลกที่นาโตกำลังเผชิญหน้า”
เป็นการประชุมที่ดูเหมือนเป็นครั้งแรกที่รุตเตอซึ่งเพิ่งรับตำแหน่งเมื่อตุลาคมปีที่แล้วจะมีโอกาสพบทรัมป์เป็นครั้งแรกหลังชนะการเลือกตั้งเมื่อต้นเดือนนี้
เกิดขึ้นท่ามกลางความวิตกในกลุ่มชาติยุโรปทั้งหลายต่อผลกระทบของทรัมป์ต่อนาโต จากการที่ว่าที่ผู้นำสหรัฐฯ คนใหม่ก่อนหน้าในช่วงหาเสียงเคยตั้งคำถามถึงคุณค่าของนาโตและข่มขู่จะไม่ยอมปกป้องประเทศสมาชิกใดไม่จ่ายเพียงพอต่อองค์การนาโต
ทั้งนี้ รึตเตอในการเดินทางครั้งนี้ยังได้พบ ส.ส. ไมค์ วอลซ์ (Mike Waltz) ว่าที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ คนใหม่
วอลซ์ทวีตบนแพลตฟอร์ม X ว่า “ความแข็งแกร่งของนาโตนั้นนำกลับมาต่อการป้องปรามและสันติภาพที่กำหนดให้สมาชิกทุกชาติทำในส่วนเท่าเทียมของชาติเหล่านั้นพร้อมกับความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ!”
หนังสือพิมพ์บรัสเซลส์ไทม์สรายงานวันศุกร์ (22) ว่า เครื่องบินรัฐบาลดัตช์ที่นาโตใช้เดินทางลงจอดใกล้คฤหาสถ์ Mar-a-Lago ของทรัมป์
ซึ่งวงในยืนยันกับสถานีโทรทัศน์ NOS ว่า รึตเตอวางแผนเยือนทรัมป์
โพลิติโกรายงานว่า มาร์ค รึตเตอ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเนเธอร์แลนด์มาตลอดเกือบ 14 ปี ถูกมองว่ามีความสัมพันธ์ที่ดีกับทรัมป์มากกว่าเจ้าหน้าที่ยุโรปคนอื่นๆ ช่วงระหว่างสมัยแรกของทรัมป์
และเลขาธิการใหญ่นาโตมีกำหนดที่จะเดินทางไปกรุงอังการาวันจันทร์ (25) เพื่อหารือร่วมกับประธานาธิบดีตุรกี เรเจป ไตยิป แอร์โดอัน เกี่ยวข้องกับสงครามยูเครน รอยเตอร์รายงานวันอาทิตย์ (24) โดยอ้างแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ตุรกี
การพบกันระหว่างผู้นำนาโตและว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่เกิดขึ้นหลังการยกระดับครั้งใหญ่สัปดาห์ที่แล้วพร้อมกับรัสเซียยิงมิสไซล์ไฮเปอร์โซนิกพิสัยกลางเทคโนโลยีใหม่ “โอเรชนิค" (Oreshnik) โจมตีเมืองดนิโปรเพื่อตอบโต้การที่เคียฟใช้อาวุธมิสไซล์อเมริกัน-อังกฤษยิงโจมตีข้ามพรมแดนเข้าไปในรัสเซีย
ซึ่งตามคลิปที่ปรากฏนั้นพบว่าการโจมตีด้วยมิสไซล์โอเรชนิคนั้นเร็วมากและคล้ายกับสายฟ้าแลบปรากฏบนท้องฟ้า และมิสไซล์ประเภทนี้สามารถติดหัวรบนิวเคลียร์ได้และสร้างความตกตะลึงให้หลายชาติในยุโรป