โหดเกินคน! ยิวถล่มบ้าน-โรงพยาบาล-ที่หลบภัย ทำท่าขับไล่ปาเลสไตน์ตอนเหนือกาซาให้สิ้นซาก เพื่อตั้งเขตกันชน ขณะอเมริกายังดื้อตาใสขวางหยุดยิงถาวร

กองทัพอิสราเอลถล่มบ้านที่มีคนพักอาศัยแออัดอย่างน้อย 5 หลังทางตอนเหนือของกาซาเมื่อเช้าวันพฤหัสบดี (21 พ.ย.) โดยผู้บาดเจ็บล้มตายจำนวนมากยังคงถูกฝังอยู่ใต้กองปรักหักพัง แถมก่อนหน้านั้นยังปูพรมโจมตีทั้งบ้านเรือน ที่หลบภัย และทิ้งระเบิดใส่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ขณะที่พันธมิตรหลักอย่างอเมริกา ก็ใช้สิทธิยับยั้งญัตติของคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นที่เรียกร้องการหยุดยิงถาวรในกาซาโดยไม่มีเงื่อนไข

พวกเจ้าหน้าที่แพทย์ฉุกเฉินบอกว่า การปฏิบัติการกู้ชีพกำลังดำเนินอยู่ในเมืองเบอิต ลาฮิยา ทางตอนเหนือของดินแดนกาซา ขณะที่สื่อของฮามาสระบุจำนวนผู้เสียชีวิตว่ามี 66 คน ส่วนใหญ่ยังคงไม่สามารถกู้ศพออกมาได้

ยังไม่มีการแสดงความเห็นใดๆ จากฝ่ายทหารอิสราเอล ซึ่งกำลังปฏิบัติการอยู่ในเบอิต ลาฮิยา และเมืองใกล้เคียงอย่างจาบาเลีย และ เบอิต ฮานูน ตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ในการรณรงค์ซึ่งกองทัพรัฐยิวอ้างว่ามุ่งหมายที่จะป้องกันไม่ให้พวกนักรบกลุ่มฮามาสกลับมารวมตัวกันและก่อการโจมตีขึ้นมาอีก

ฮัสซัม อบู ซาฟิยา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลคามัล อัดวานใน เบอิต ลาฮิยา 1 ใน 3 สถานพยาบาลทางตอนเหนือของกาซาที่อยู่ใต้การปิดล้อมของทหารอิสราเอล แต่ยังพยายามเปิดดำเนินการทั้งที่ขาดแคลนทั้งบุคลากรและเวชภัณฑ์ แถลงว่า มีผู้คนอย่างน้อย 200 คนพำนักอยู่ในย่านที่อยู่อาศัยซึ่งถูกถล่มทิ้งระเบิดในเบอิต ลาฮิยา และจำนวนมากที่สูญหายยังคงหาตัวไม่พบ

อบู ซาฟิยา บอกว่า เจ้าหน้าที่แพทย์ฉุกเฉินทยอยค้นเจอผู้บาดเจ็บ และกำลังบำบัดรักษาพวกเขาตรงที่เกิดเหตุ เนื่องจากพวกเขาไม่มีรถฉุกเฉินที่จะนำคนเหล่านี้ไปโรงพยาบาล

กระทั่งว่าถ้าผู้บาดเจ็บไปถึงโรงพยาบาลได้ จำนวนมากก็ต้องเสียชีวิตเนื่องจากขาดแคลนหยูกยาข้าวของทางการแพทย์ ตลอดจนศัลยแพทย์เฉพาะทาง หลังจากที่อิสราเอลได้คุมขังหรือขับไล่เจ้าหน้าที่การแพทย์แทบทั้งหมดออกไปแล้ว อบู ซาฟิยา กล่าว

ก่อนหน้านั้นเมื่อวันพุธ (20) ผู้อำนวยการโรงพยาบาลผู้นี้ เผยว่า โรงพยาบาลถูกทิ้งระเบิดโจมตีทั่วทุกแผนกโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้าในวันอังคาร (19)

เขาเล่าอีกว่า อิสราเอลจับบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ห้องผ่าตัดไป 45 คน และห้ามทีมสำรองเข้าไปปฏิบัติหน้าที่แทน รวมทั้งไม่ยอมให้ส่งน้ำและอาหาร หรือแม้แต่รถพยาบาลเข้าไปในโรงพยาบาล ขณะที่ในโรงพยาบาลมีผู้บาดเจ็บ 85 คน ซึ่ง 6 คนอยู่ในห้องไอซียู

การปฏิบัติการของอิสราเอลในกาซาช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา มุ่งโฟกัสที่บริเวณขอบตอนเหนือของดินแดนแห่งนี้ ซึ่งกองทัพรัฐยิวได้เข้าปิดล้อม 3 เมือง นั่นคือ จาบาเลีย เบอิต ลาฮิยา และเบอิต ฮานูน เอาไว้ และออกคำสั่งให้ชาวบ้านชาวเมืองหลบหนีออกไป

ชาวบ้านชาวเมืองในเมืองทั้ง 3 เล่าว่า ทหารอิสราเอลได้ทำลายบ้านเรือนไปหลายร้อยหลัง นับตั้งแต่ที่พวกเขาเริ่มการปฏิบัติการกวาดล้างระลอกล่าสุดนี้เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม

ชาวปาเลสไตน์พูดกันว่า อิสราเอลดูเหมือนตั้งใจที่จะทำให้พื้นที่บริเวณนี้ไร้คนอาศัยแบบถาวร เพื่อสร้างเป็นเขตกันชนขึ้นมาตามแนวขอบตอนเหนือของกาซาซึ่งอยู่ติดต่อกับดินแดนรัฐยิว ถึงแม้อิสราเอลปฏิเสธเรื่องนี้ก็ตามที

ในวันอังคาร (19) นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ประกาศขณะเดินทางไปเยือนกาซาว่า ฮามาสจะไม่ได้ปกครองดินแดนนี้หลังสิ้นสุดสงคราม และสำทับว่า อิสราเอลได้ทำลายศักยภาพการสู้รบของกลุ่มติดอาวุธกลุ่มนี้

เนทันยาฮูยังบอกอีกว่า อิสราเอลยังไม่เลิกล้มความพยายามในการค้นหาตัวประกันอีก 101 คนที่เชื่อว่า ยังถูกคุมขังอยู่ในกาซา พร้อมเสนอรางวัล 5 ล้านดอลลาร์ต่อตัวประกันหนึ่งคนที่ได้รับความช่วยเหลือ

ทางด้าน ฟิลิปป์ ลาซซารินี ผู้อำนวยการของ UNRWA ซึ่งเป็นสำนักงานยูเอ็นที่ช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ ระบุในวันพฤหัสฯ (21) ว่า กว่า 80% ของฉนวนกาซาเวลานี้คือพื้นที่ความเสี่ยงสูง โดยที่ผู้คนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ กำลังอยู่ในสภาพจนตรอก

“พวกเขาอยู่ในสภาพติดกับไม่มีที่ปลอดภัยใดๆ ที่จะไปได้ ทางตอนเหนือกาซา ผู้คนยังคงถูกปิดล้อมอย่างแน่นหนา พวกเขาต้องเอาตัวรอดภายในวงจรอุบาทว์ และถูกริบเอาความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมนับถึงเวลานี้ก็เป็นเวลามากกว่า 40 วันแล้ว” เขากล่าวเช่นนี้ในข้อความที่โพสต์บนแพลตฟอร์ม X

“ทั่วทั้งกาซา การขนส่งความช่วยเหลือน้อยนิดที่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าไป กลายเป็นเรื่องสลับซับซ้อนเหลือเกินไปแล้ว ส่วนหนึ่งเนื่องจากเส้นทางไม่มีความมั่นคงปลอดภัย” เขากล่าวต่อ

นอกเหนือจากปัญหาท้าทายต่างๆ แล้ว ยังมีแก๊งติดอาวุธออกปฏิบัติการปล้นชิงรถบรรทุกขนข้าวของความช่วยเหลือกันมากขึ้นด้วย จนมีส่วนทำให้ราคาของพวกอาหารจำเป็นเป็นต้นว่า แป้งทำขนมปังพุ่งขึ้นรวดพราด โดยเวลานี้ ราคาของแป้ง 1 กระสอบขนาด 25 กก. ถ้าหากสามารถซื้อหาได้ มีราคา 700 เชเคล (186 ดอลลาร์) แล้ว จาก 50 เชเคล (13 ดอลลาร์) ในสัปดาห์ที่แล้ว

คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ เมื่อเดือนที่แล้วให้เวลาอิสราเอล 30 วันในการปรับปรุงแก้ไขให้ความช่วยเหลือหลั่งไหลเข้าสู่กาซาได้ดียิ่งขึ้น ไม่เช่นนั้นก็มีความเสี่ยงที่สหรัฐฯ จะต้องดำเนินการเกี่ยวกับความช่วยเหลือทางทหารที่ให้แก่รัฐยิว ทว่าในวันที่ 12 พฤศจิกายน วอชิงตันแถลงว่าตนได้ข้อสรุปแล้วว่าอิสราเอลมีความก้าวหน้าในเรื่องนี้ และไม่ได้ขัดขวางการส่งความช่วยเหลือเข้ากาซา ถึงแม้พวกกลุ่มให้ความช่วยเหลือจำนวนมากไม่เห็นด้วยกับข้อสรุปนี้ก็ตามที

ในวันพุธ (20) ณ การประชุมของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ สหรัฐฯ ยังออกเสียงค้านซึ่งเท่ากับเป็นการใช้สิทธิยับยั้ง ญัตติฉบับหนึ่งที่เรียกร้องใหมีการการหยุดยิงถาวรในกาซาโดยไม่มีเงื่อนไข โดยเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำยูเอ็นอ้างว่า จะสนับสนุนญัตติข้อตกลงหยุดยิงซึ่งต้องมีข้อความเรียกร้องอย่างชัดแจ้งให้ปล่อยตัวประกันชาวอิสราเอลทันที

(ที่มา : รอยเตอร์/เอเจนซีส์)