เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ชิเงรุ อิชิบะ แสดงความวิตกอย่างสูงต่อสถานการณ์ทะเลจีนใต้กับประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง ในการหารือนอกรอบการประชุมเอเปกวันศุกร์ (15 พ.ย.) ที่กรุงลิมา เปรู หลังก่อนหน้าปักกิ่งเผยแพร่แผนที่ทะเลจีนใต้ใหม่ระบุเขตหมู่กาะพาราเซลและเขตหมู่เกาะสแปรตลีย์ พื้นที่พิพาทฟิลิปปินส์ เป็นครั้งแรกครอบคลุมพื้นที่ 800,000 ตารางไมล์รวมบนบกและทะเล
เอเอฟพีรายงานวันเสาร์ (16 พ.ย.) ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นและจีนเลวร้ายลงทุกขณะในช่วงเวลาเดียวกันที่ปักกิ่งได้สะสมความสามารถกำลังทหารในภูมิภาค และโตเกียวกระชับความสัมพันธ์ทางความมั่นคงกับสหรัฐฯ และชาติพันธมิตรทั้งหลาย
กระทรวงต่างประเทศญี่ปุ่นแถลงวันเสาร์ (16) ว่า นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นคนใหม่ ชิเงรุ อิชิบะ ได้แสดงความวิตกกังวลอย่างสูงต่อการเพิ่มมากขึ้นในความเคลื่อนไหวทางการทหารของจีนต่อประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง
และเสริมต่อว่า อิชิบะย้ำว่า “สันติภาพและเสถียรภาพของช่องแคบไต้หวันนั้นถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างสูงต่อญี่ปุ่น และประชาคมโลก และยังได้แสดงความวิตกอย่างมากต่อสถานการณ์โดยรอบของทะเลจีนใต้ ฮ่องกง และซินเจียง”
อย่างไรก็ตาม ทั้งสองผู้นำที่มีการพบกันครั้งแรกอย่างเป็นทางการที่การประชุมนอกรอบของประชุมเอเปกที่กรุงลิมา เปรู นั้น ผู้นำจีนได้ตอบกลับว่า เขาตั้งความหวังว่า ญี่ปุ่นจะทำงานร่วมกับจีนเพื่อจัดการปัญหาใหญ่ของหลักการอย่างเหมาะสมเช่น ทางประวัติศาสตร์และไต้หวัน
และประธานาธิบดีสีกล่าวต่อว่า และจัดการความแตกต่างอย่างสร้างสรรค์ อ้างอิงจากกระทรวงต่างประเทศจีน
สีกล่าวว่า จีนและญี่ปุ่น ที่ซึ่งผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและห่วงโซ่อุปทานและอุตสาหการนั้นเกี่ยวร้อยพันจำเป็นต้องหันไปหาความร่วมมือแบบวิน-วิน และยังคงระบบการค้าโลกเสรีและรวมไปถึงเสถียรภาพและการผลิตแบบไม่มีข้อจำกัดและห่วงโซ่อุปทาน”
อิชิบะยังเรียกร้องสีให้ออกมาตรการเข้มงวดเพื่อรับประกันความปลอดภัยของพลเมืองญี่ปุ่นอาศัยในจีน ขณะที่สีได้รับปากถึงความปลอดภัยของพลเมืองต่างชาติในจีน รวมถึงพลเมืองแดนอาทิตย์อุทัย กระทรวงต่างประเทศญี่ปุ่นกล่าวในแถลงการณ์
ซึ่งในการประชุมเอเปกครั้งนี้ซึ่งจะเป็นการเข้าร่วมครั้งสุดท้ายของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ที่กำลังจะหมดวาระลง ผู้นำญี่ปุ่นคนใหม่จะได้พบหน้าและประชุมระดับทวิภาคีร่วมกันและรวมไปถึงการเจรจาระดับทวิภาคีร่วมกับประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ยุน ซอกยอล
การออกมาแสดงความวิตกถึงสถานการณ์ทะเลจีนใต้ของผู้นำญี่ปุ่นโดยตรงต่อประธานาธิบดีจีน เกิดขึ้นหลังปักกิ่งได้เผยแพร่แผนที่ทะเลจีนใต้ฉบับปรับปรุงที่มีการเพิ่มเขตใหม่ ซึ่งเป็นเขตหมู่เกาะพาราเซล (Paracel) ที่มีชื่อเรียกในจีนว่า “สีชา” (Xisha) และเขตหมู่เกาะสแปรตลีย์ (Spratly) ที่มีเรียกชื่อในจีนว่า “หนานชา" (Nansha) พื้นที่ทับซ้อนกับฟิลิปปินส์เข้าไป ดิอินดีเพนเดนท์ของอังกฤษรายงานวันพฤหัสบดี (14) ว่า เขตใหม่นั้นครอบคลุมพื้นที่ 800,000 ตารางไมล์รวมบนบกและทะเล
ตามการรายงานที่อ้างอิงจากหนังสือพิมพ์เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์พบว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติจีนได้เผยแพร่แผนที่ใหม่วันอาทิตย์ (10) ซึ่งเขตตั้งใหม่ทั้งสองตั้งแต่ปี 2020 แต่ไม่เคยปรากฏบนแผนที่ทะเลจีนใต้ของปักกิ่งมาก่อนจนกระทั่งเมื่อล่าสุด
กระทรวงกิจการพลเรือนจีนได้กำหนดโค้ดภูมิภาคใหม่สำหรับ 2 เขตใหม่นี้ถูกใช้เพื่อทำการสำรวจประชากรและจุดประสงค์ด้านการบริหารเป็นหลัก ที่ดูเหมือนเป็นตัวเลข 6 หลักครั้งแรกบนบัตรประชาชนที่เกิดในพื้นที่และขึ้นทะเบียน
นอกจากนี้ พบว่าพื้นที่ด้านเขตอำนาจศาลการปกครองครอบคลุมกว่า 280 เกาะแก่ง แนวสันดอน แนวประการังและสิ่งปลูกสร้างทางทะเลอื่นๆ ที่ขนานไปกับทะเลโดยรอบที่มีจำนวนพื้นที่ทั้งหมดร่วม 800,000 ตารางไมล์รวมบนบกและทะเล
CNN ของสหรัฐฯ รายงานเพิ่มเติมว่า ความเคลื่อนไหวจากปักกิ่งล่าสุดออกมา 2 วันหลังประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ได้ลงนามในกฎหมาย 2 ฉบับปักเขตการอ้างสิทธิในน่านน้ำพิพาท