สงครามของอิสราเอลในกาซา เข้าองค์ประกอบลักษณะของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ จากความเห็นของคณะกรรมการพิเศษแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ในวันพฤหัสบดี (14 พ.ย.) ในขณะที่รายงานของฮิวแมนไรท์วอชต์ ระบุเช่นกันว่าปฏิบัติการของอิสราเอลที่บีบให้ชาวกาซาต้องไร้ถิ่นฐานนั้น ก็เทียบเท่ากับ "การก่ออาชญากรรมกับมนุษยชาติ"
อิสราเอลบอกว่าคำกล่าวหาของฮิวแมนไรท์วอชต์ "ไม่ถูกต้องโดยสิ้นเชิง" ยืนยันว่าปฏิบัติการของพวกเขามีเป้าหมายแต่เพียงอย่างเดียวไปที่การรื้อถอนศักยภาพการก่อการร้ายของพวกฮามาส และไม่ได้เล็งเป้าเล่นงานประชาชนชาวกาซา อย่างไรก็ตาม อิสราเอลยังไม่ได้ตอบโต้รายงานของยูเอ็น
คณะกรรมการพิเศษของสหประชาชาติ อ้างอิงถึงกรณีที่ "มีพลเมืองบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก และสภาพแวดล้อมที่เสี่ยงต่อการเสียชีวิต ที่มีความตั้งใจกำหนดเล่นงานชาวปาเลสไตน์" ครอบคลุมช่วงเวลาที่พวกฮามาสเปิดปฏิบัติการโจมตีสายฟ้าแลบเล่นงานอิสราเอล ในวันที่ 7 ตุลาคม 2023 มาจนถึงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
รายงานของคณะกรรมการพิเศษแห่งสหประชาชาติ ระบุว่าการที่อิสราเอลทั้งปิดล้อมฉนวนกาซา ปิดกั้นการเข้าถึงของสิ่งของบรรเทาทุกข์ โจมตีอย่างเจาะจงและเข่นฆ่าพลเรือน แม้มีคำสั่งของทางสหประชาชาติและศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ คือความตั้งใจก่อให้เกิดการเสียชีวิต อดยากและได้รับบาดเจ็บสาหัส
"แนวทางปฏิบัติในสงครามของอิสราเอลในกาซา เข้าองค์ประกอบของลักษณะการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์" คณะกรรมาธิการพิเศษระบุ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่สหประชาชาติใช้ถ้อยคำนี้ ในบริบทของสงครามในปัจจุบันในกาซา พร้อมบอกว่า "อิสราเอลกำลังใช้การก่อความอดอยากเป็นยุทธวิธีในการทำสงคราม และทำการลงโทษร่วมประชาชนชาวปาเลสไตน์"
ไม่ใช่ครั้งแรกที่อิสราเอลต้องเผชิญข้อกล่าวหาในลักษณะนี้ โดยก่อนหน้านี้แอฟริกาใต้ยื่นฟ้องคดีหนึ่งกับศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ อ้างว่าสงครามกาซาของอิสราเอลละเมิดสนธิสัญญาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของสหประชาชาติปี 1948 คำกล่าวหาที่ทางอิสราเอลปฏิเสธ
คำประเมินหนึ่งที่ได้รับการสนับสนุนจากสหประชาชาติ ที่เผยแพร่เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ เตือนว่าทางเหนือของฉนวนกาซาใกล้เข้าสู่ภาวะอดอยากแล้ว ดินแดนที่อิสราเอลปฏิบัติการโจมตีอย่างหนักหน่วงมาตั้งแต่ช่วงต้นเดือนตุลาคม
หลุยส์ วอเทอร์ริดจ์ โฆษกสำนักงานช่วยเหลือผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ของสหประชาชาติ (UNRWA) บอกกับเอเอฟพีว่า ปฏิบัติการของอิสราเอลบีบให้ประชาชนอย่างน้อย 100,000 คน ต้องหนีออกจากทางเหนือของกาซา ไปยังกาซา ซิตี และบริเวณใกล้เคียง
ฮิวแมนไรท์วอชต์ เผยแพร่รายงานแยกกัน ระบุว่า "ถ้อยแถลงจากพวกเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่มีหน้าที่รับผิดชอบบัญชาการ แสดงให้เห็นว่าการบีบบังคับไร้ถิ่นฐาน เป็นการดำเนินการอย่างมีรูปแบบและโดยเจตนา ส่วนหนึ่งในนโยบายของรัฐอิสราเอล เพราะฉะนั้นมันจึงเทียบเท่ากับเป็นการก่ออาชญากรรมของมนุษย์"
อิสราเอลปฏิเสธรายงานของฮิวแมนไรท์วอตช์ "เป็นอีกครั้งและอีกครั้ง ที่ฮิวแมนไรท์วอตช์ใช้วาทกรรมผิดๆ โดยสิ้นเชิงเกี่ยวกับปฏิบัติการของอิสราเอลในกาซา และไม่ใกล้เคียงกับความเป็นจริง" โฆษกของกระทรวงการต่างประเทศอิสราเอลโพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์
ส่วนกองทัพอิสราเอลกล่าวหาฮิวแมนไรท์วอตช์ "ลำเอียงกับอิสราเอล" และบิดเบือนความจริงบางอย่างอย่างโต้งๆ
เช่นเดียวกับสหรัฐฯ ที่ระบุว่าพวกเขาไม่เห็นด้วยกับผลการค้นพบของคณะกรรมการสหประชาชาติ "เราคิดว่าลักษณะของวาทกรรมและรูปแบบของคำกล่าวหาเหล่านี้ไม่มีมูลโดยสิ้่นเชิง" เวแดนท์ ปาเทล โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าว
อ้างอิงข้อมูลของสหประชาชาติ จนถึงเดือนตุลาคม 2024 มีชาวปาเลสไตน์ต้องไร้ถิ่นฐานมากกว่า 1.9 ล้านคน ในขณะที่ก่อนสงครามปะทุขึ้นในวันที่ 7 ตุลาคม 2023 จำนวนประชากรอย่างเป็นทางการของดินแดนแห่งนี้ อยู่ที่ 2.4 ล้านคน
(ที่มา : เอเอฟพี)