ราคาน้ำมันขยับขึ้นเล็กน้อยในวันพฤหัสบดี (14 พ.ย.) หลังพบคลังปิโตรเลียมสำรองสหรัฐฯ ลดลงผิดคาด ส่วนวอลล์สตรีทปิดลบ ประธานเฟดกัดเซาะความหวังปรับลดดอกเบี้ยอีกรอบ ส่วนทองคำแกว่งตัวลงอย่างต่อเนื่อง
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 27 เซนต์ ปิดที่ 68.70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 28 เซนต์ ปิดที่ 72.56 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานแห่งสหรัฐฯ (อีไอเอ) เผยแพร่รายงานในวันพฤหัสบดี (14 พ.ย.) ระบุคลังน้ำมันเบนซินสำรองของประเทศลดลง 4.4 ล้านบาร์เรล สวนทางกับพวกนักวิเคราะห์คาดหมายไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 600,000 บาร์เรล ส่งผลให้สต๊อกเบนซินอยู่ที่ระดับ 206.9 ล้านบาร์เรล ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 8 พฤศจิกายน ต่ำที่สุดนับตั้งแต่พฤศจิกายน 2022
ขณะเดียวกัน คลังน้ำมันกลั่นสำรองที่ประกอบด้วยดีเซลและน้ำมันทำความร้อน ลดลง 1.4 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่พวกนักวิเคราะห์คาดหมายไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 200,000 บาร์เรล
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดี (14 พ.ย.) ปิดลบเล็กน้อย หลังเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) กัดเซาะความหวังของนักลงทุนสำหรับการปรับลดดอกเบี้ยอีกรอบในปีนี้ โดยบอกว่าเฟดจะไม่เร่งรีบผ่อนคลายนโยบายทางการเงิน
ดาวโจนส์ ลดลง 207.33 จุด (0.47 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 43,750.86 เอสแอนด์พี ลดลง 36.21 จุด (0.61 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,949.17 จุด แนสแดค ลดลง 123.07 จุด (0.64 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 19,107.65 จุด
พาวเวล กล่าวในกิจกรรมของเฟด ในดัลลัส ว่าด้วยเศรษฐกิจยังคงเติบโต ตลาดแรงงานแข็งแกร่งและเงินเฟ้อยังคงอยู่เหนือระดับเป้าหมาย 2% ดังนั้น เฟดจึงจำเป็นต้องดำเนินการอย่างระมัดระวังเกี่ยวกับการปรับลดดอกเบี้ย
ความเห็นของประธานเฟด ประกอบกับการแข็งค่าของดอลลาร์ ฉุดให้ราคาทองคำปรับลดต่อเนื่องในวันพฤหัสบดี (14 พ.ย.) โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 12.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 2,574.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา : รอยเตอร์)