ส.ว.มาร์โก รูบิโอ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น “สายเหยี่ยว” สุดเข้มข้น โดยเรียกร้องให้วอชิงตันใช้นโยบายการทูตที่แข็งกร้าวกับพวกที่ถูกเขามองว่าเป็นศัตรูทางภูมิศาสตร์ทั้งหลายของสหรัฐฯ โดยเฉพาะจีน อิหร่าน และคิวบา รวมทั้งยังประกาศโจ่งแจ้งที่จะยุติสงครามยูเครนอย่างรวดเร็วด้วยการเจรจาไกล่เกลี่ย ได้รับการคาดหมายว่ากำลังจะได้รับแต่งตั้งจากว่าที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ให้เข้ารับตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ โดยเริ่มงานเมื่อทรัมป์สาบานตัวเข้าครองทำเนียบขาวในเดือนมกราคมปีหน้า
หากข่าวนี้เป็นจริงตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์ และสื่อใหญ่สหรัฐฯ หลายราย เป็นต้นว่า นิวยอร์กไทมส์ วอชิงตันโพสต์ และเว็บไซต์ข่าวโพลิติโค โดยอ้างอิงแหล่งข่าวหลายรายที่เปิดเผยออกมาเมื่อวันจันทร์ (11 พ.ย.) ก็จะทำให้นักการเมืองชาวฟลอริดาผู้นี้กลายเป็นชาวอเมริกันเชื้อสายละตินคนแรกที่ได้ครองตำแหน่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายการทูตสูงสุดของสหรัฐฯ
รูบิโอ ถูกมองว่าเป็น “สายเหยี่ยว” ชัดเจนที่สุดในลิสต์รายชื่อแคนดิเดตรัฐมนตรีต่างประเทศของทรัมป์ โดยที่ก่อนหน้านี้เขาถึงขั้นสนับสนุนนโยบายการต่างประเทศที่แข็งกร้าวกับศัตรูทางภูมิรัฐศาสตร์ของอเมริกาอย่างเช่น จีน อิหร่าน และคิวบา
อย่างไรก็ดี ช่วงหลายปีที่ผ่านมา รูบิโอผ่อนคลายจุดยืนลงเพื่อให้สอดคล้องกับมุมมองของทรัมป์มากขึ้น โดยว่าที่ประธานาธิบดีใหม่ของอเมริกาผู้นี้กล่าวหาอดีตประธานาธิบดีคนก่อนๆ นำประเทศเข้าสู่สงครามที่มีต้นทุนสูงและไร้ประโยชน์ ควบคู่กับการผลักดันนโยบายการต่างประเทศที่มีการบันยะบันยังมากขึ้น
แม้ ทรัมป์ จะได้ชื่อว่าเป็นคนอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ และอาจเปลี่ยนใจในนาทีสุดท้ายได้เสมอ แต่สำหรับเก้าอี้รัฐมนตรีต่างประเทศนั้นดูเหมือนจะลงตัวที่ รูบิโอ ตามคำบอกเล่าของแหล่งข่าวซึ่งไม่ประสงค์ออกนาม
สหรัฐฯ ในใต้การนำของ ทรัมป์ สมัยที่ 2 จะต้องเตรียมตัวเผชิญหน้ากับสถานการณ์โลกที่ผันผวนและอันตราย ทั้งสงครามร้อนระอุในยูเครนและตะวันออกกลาง ขณะที่จีนหันไปใกล้ชิดกับศัตรูของอเมริกาอย่างรัสเซียและอิหร่านมากขึ้น
วิกฤตการณ์ยูเครนถือเป็นหนึ่งในวาระสำคัญที่สุดสำหรับรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ คนใหม่ โดย รูบิโอ วัย 53 ปี เคยออกมาให้สัมภาษณ์เมื่อเร็วๆ นี้ว่า ยูเครนจำเป็นต้องหาวิธี “เจรจาทำข้อตกลง” กับรัสเซีย มากกว่าจะมุ่งเน้นทวงดินแดนคืนให้ได้ทั้งหมด นอกจากนี้เขายังเป็นหนึ่งใน 15 ส.ว.รีพับลิกันที่โหวตคัดค้านแพกเกจความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครนมูลค่า 95,000 ล้านดอลลาร์ที่ผ่านรัฐสภาสหรัฐฯ แบบหืดขึ้นคอเมื่อเดือนเมษายน
แม้ รูบิโอ อาจจะไม่ใช่นักการเมืองประเภทนิยมแนวทางให้สหรัฐฯ “อยู่อย่างโดดเดี่ยว” มากที่สุด ทว่าการแต่งตั้งเขาเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศก็สะท้อนความเปลี่ยนแปลงด้านนโยบายต่างประเทศของรีพับลิกันภายใต้การนำของทรัมป์ จากเดิมที่พรรคนี้เคยเป็นพรรครวมนักการเมืองสายเหยี่ยวที่สนับสนุนการแทรกแซงทางทหารและใช้อิทธิพลทางการทูตแบบสุดลิ่มทิ่มประตู แต่มาถึงเวลานี้พันธมิตร ทรัมป์ ส่วนใหญ่ออกมาพูดถึงการ “ยับยั้งชั่งใจ” มากขึ้น โดยเฉพาะกับพันธมิตรใน “ยุโรป” ที่พวกรีพับลิกันจำนวนมากมองว่า ยังไม่เข้ามาร่วมแบกรับภาระค่าใช้จ่ายด้านกลาโหมในสัดส่วนที่เป็นธรรม
รูบิโอเคยให้สัมภาษณ์เครือข่ายโทรทัศน์เอ็นบีซีเมื่อเดือนกันยายนว่า เขาไม่ได้เข้าข้างรัสเซีย แต่ความเป็นจริงก็คือสงครามในยูเครนจำเป็นต้องจบลงด้วยการเจรจาทำข้อตกลงกัน
จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของ รูบิโอ คือ เขาเป็นเหยี่ยวต่อต้านจีนตัวท็อปในสภาสูงของสหรัฐฯ และถึงขั้นถูกปักกิ่งประกาศแซงก์ชันในปี 2020 จากจุดยืนของเขาที่หนุนหลังการประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง
กรณีชัดเจนที่สุดคือในปี 2019 ที่รูบิโอเรียกร้องกระทรวงการคลังเปิดการสอบสวนด้านความมั่นคงแห่งชาติกับกรณีที่ติ๊กต็อก แอปโซเชียลมีเดียยอดฮิตของจีน เข้าซื้อ Musical.ly ที่นำไปสู่การสอบสวนและคำสั่งให้บริษัทแม่คือไบแดนซ์ ขายกิจการติ๊กต็อกในอเมริกา
ในฐานะเป็นสมาชิกคนหนึ่งของคณะกรรมาธิการวิสามัญด้านข่าวกรองของวุฒิสภา รูบิโอได้จี้ให้คณะบริหารไบเดน ปิดกั้นการขายผลิตภัณฑ์และบริการด้านเทคโนโลยีทั้งหมดให้หัวเว่ยเมื่อต้นปีนี้ หลังจากบริษัทไฮเทคจีนรายนี้เปิดตัวแล็ปท็อปรุ่นใหม่ที่ใช้ชิปเอไอของอินเทล ถึงแม้ถูกสหรัฐฯแซงก์ชันในหลายๆ ด้านไปแล้ว
นอกจาก รูบิโอ แล้ว สื่อยังคาดการณ์กันอย่างกว้างขวางว่า ไมเคิล วอลซ์ ส.ส.จากรัฐฟลอริดาเหมือนรูบิโอ ก็เป็นตัวเก็งที่จะได้ครองตำแหน่งที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติซึ่งทรงอำนาจมาก โดยที่ วอลซ์ ก็เป็นพวกสายเหยี่ยวในเรื่องจีนเหมือนกัน จากการที่ทั้งคู่มองว่าแดนมังกรคือภัยคุกคามและตัวท้าทายแสนยานุภาพทางเศรษฐกิจและทางทหารของสหรัฐฯ
(ที่มา : รอยเตอร์, เอเอฟพี)