อดีตผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารของรองประธานาธิบดี กมลา แฮร์ริส ออกมาเรียกร้องผ่านสื่อให้ประธานาธิบดี โจ ไบเดน “ลาออก” เสียแต่วันนี้ เพื่อเปิดทางให้ แฮร์ริส ได้ขึ้นเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐฯ ในช่วงเวลาไม่กี่สัปดาห์ก่อน โดนัลด์ ทรัมป์ จะกลับเข้าทำเนียบขาวในปีหน้า
จามาล ซิมมอนส์ (Jamal Simmons) ซึ่งเคยเป็นทีมงานของ แฮร์ริส เมื่อช่วงปี 2022-2023 เสนอให้ ไบเดน ยอมถอยอีกก้าวเพื่อให้ แฮร์ริส ได้มีโอกาสสร้างประวัติศาสตร์ แม้ว่าเธอจะเพิ่งพ่ายแพ้หมดรูปในศึกเลือกตั้งเมื่อวันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมาก็ตามที
“โจ ไบเดน เป็นผู้นำที่ยอดเยี่ยม แต่เขาควรเติมเต็มคำมั่นสัญญาสุดท้ายในการเป็นผู้นำช่วงเปลี่ยนผ่าน เขาควรลาออก เพื่อให้ กมลา แฮร์ริส ได้ขึ้นเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรก” ซิมมอนส์ โพสต์ข้อความผ่าน X
“มันจะเป็นการพลิกเกม และช่วยให้ กมลา ไม่ต้องทำหน้าที่ประธานในการประชุมรัฐสภาเพื่อรับรองชัยชนะของ ทรัมป์ ในวันที่ 6 ม.ค. และยังเพิ่มโอกาสให้สตรีคนต่อไปที่คิดจะชิงเก้าอี้ผู้นำสหรัฐฯ ด้วย”
อันที่จริง ไบเดน วัย 81 ปี ก็ได้ช่วยเหลือ แฮร์ริส อย่างมากแล้วด้วยการแต่งตั้งเธอเป็นรองประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐฯ และเธอยังเป็นผู้หญิงผิวสีและชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียคนแรกที่ก้าวขึ้นมาถึงตำแหน่งนี้ด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น ตอนที่ ไบเดน เผชิญแรงกดดันจากคนในพรรคให้ถอนตัวจากศึกเลือกตั้งเมื่อวันที่ 21 ก.ค. เขาก็ตัดสินใจประกาศสนับสนุน แฮร์ริส ในทันที ซึ่งช่วยให้เธอคว้าตั๋วเป็นผู้สมัครชิงประธานาธิบดีในนามของพรรคแบบลอยลำไร้คู่แข่ง
แฮร์ริส พยายามหลีกเลี่ยงไม่พูดถึงอุปสรรคต่างๆ ที่เป็นเสมือน “กำแพงที่มองไม่เห็น” ที่เธอต้องเผชิญในการลงชิงชัยเลือกตั้งครั้งนี้ ซึ่งนับว่าแตกต่างอย่างมากจากสมัยที่ ฮิลลารี คลินตัน ท้าชิงกับ ทรัมป์
ในฐานะรองประธานาธิบดี แฮร์ริส มีหน้าที่จะต้องเป็นประธานในการประชุมสภาคองเกรสในวันที่ 6 ม.ค. ปีหน้า เพื่อรับรองผลเลือกตั้งประธานาธิบดีที่ ทรัมป์ เป็นฝ่ายชนะ
ซิมมอนส์ ย้ำว่า หาก ไบเดน ลาออกให้ แฮร์ริส ขึ้นเป็นประธานาธิบดีรักษาการ ก็จะช่วยให้เธอไม่ต้องรับหน้าที่ดังกล่าว
ที่มา : Sky News
Biden should resign and make Kamala #47. What I said on @CNNSOTU this morning. https://t.co/3KqmTMFuyL— Jamal Simmons (@JamalSimmons) November 10, 2024