นาทีทอง! ผู้อพยพเร่งเดินเท้าข้ามพรมแดนเข้าสหรัฐฯ ก่อน ‘ทรัมป์’ รับตำแหน่งปีหน้า

ผู้อพยพกลุ่มใหญ่กว่า 100 คนเร่งเดินเท้าข้ามพรมแดนจากเม็กซิโกเข้าสู่เมืองอีเกิลพาส (Eagle Pass) ในรัฐเทกซัสของสหรัฐฯ เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ชนะศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี 2024 พร้อมกับคำมั่นสัญญาป้องกันพรมแดนและกวาดล้างพวกผู้อพยพผิดกฎหมายอย่างจริงจัง

ผู้อพยพซึ่งส่วนใหญ่มาจากประเทศแถบอเมริกากลางและใต้ และบางส่วนมาจากแอฟริกา ปรากฏตัวที่พรมแดนสหรัฐฯ ในสภาพเปียกปอนจากการเดินลุยข้ามแม่น้ำรีโอแกรนด์

หนังสือพิมพ์นิวยอร์กโพสต์อ้างข้อมูลจากแหล่งข่าวตำรวจตระเวนชายแดนสหรัฐฯ ซึ่งระบุว่า ผู้อพยพจำนวนมากพยายามที่จะลักลอบข้ามเข้าสู่สหรัฐฯ ก่อนที่ ทรัมป์ จะเข้ารับตำแหน่งในปีหน้า และนำนโยบายแข็งกร้าวต่อผู้อพยพมาบังคับใช้

ในบรรดาผู้อพยพเหล่านี้มีเด็กหลายสิบคนที่เดินทางโดยไม่มีผู้ปกครองดูแล

เด็กๆ ที่เดินทางมายังสหรัฐฯ โดยไม่มีผู้ใหญ่ดูแลเหล่านี้จะได้รับการยกเว้นจากข้อจำกัดว่าด้วยการยื่นคำร้องขอลี้ภัย ซึ่งรัฐบาลประธานาธิบดี โจ ไบเดน เริ่มนำมาบังคับใช้ในปีนี้ นั่นหมายความว่าพวกเขาน่าจะได้รับการปล่อยตัวหลังจากที่ถูกส่งไปตรวจร่างกายโดยกระทรวงสุขภาพและบริการมนุษย์แห่งสหรัฐฯ

ระหว่างเดินสายหาเสียง ทรัมป์ ประกาศกร้าวว่าหากชนะเลือกตั้งก็จะดำเนินการอย่างรวดเร็วเพื่อปกป้องชายแดนตอนใต้ของสหรัฐฯ และจะ “เนรเทศหมู่” ผู้อพยพผิดกฎหมายหลายล้านคนออกจากสหรัฐอเมริกา

ตอนที่กล่าวสุนทรพจน์ประกาศชัยชนะในเช้าวันพุธ (6) ทรัมป์ ยังยืนกรานว่าจะ “แก้” และ “ปิด” พรมแดนสหรัฐฯ โดยคงอนุญาตให้เฉพาะผู้อพยพที่เข้ามาอย่างถูกกฎหมายเท่านั้น

“เราจะปิดพรมแดนเหล่านั้น และยังอนุญาตให้คนเข้ามาได้ เราต้องการให้ผู้คนกลับเข้ามา แต่พวกเขาจะต้องเข้ามาอย่างถูกกฎหมาย” ทรัมป์ กล่าว

ขณะเดียวกัน ทางตอนใต้ของพรมแดนสหรัฐฯ ก็มีคาราวานผู้อพยพกลุ่มใหญ่อีก 3,000 คนรวมตัวกันแล้วที่เม็กซิโก โดยมีทั้งชาย หญิง และเด็กๆ ที่เดินเท้ามาจากเมือง Tapachula ทางตอนใต้ของแดนจังโก้ตั้งแต่เมื่อวันอังคาร (5)

“ถ้า ทรัมป์ ชนะ พวกเขาจะต้องพยายามมาให้ถึงที่นี่ก่อนที่เขาจะรับตำแหน่ง” แหล่งข่าวรายหนึ่งกล่าว “นี่เป็นโอกาสสุดท้ายที่จะได้เข้าอเมริกา”

จากฐานข้อมูลของสหรัฐฯ พบว่า มีผู้อพยพกว่า 10 ล้านคนหลั่งไหลเข้าสู่สหรัฐอเมริกาภายใต้รัฐบาลไบเดน-แฮร์ริส โดยในช่วงเดือน ต.ค. ปี 2021 ถึงเดือน ก.ย. ปี 2022 มีผู้อพยพข้ามแดนผิดกฎหมายมากถึง 2.2 ล้านคน ซึ่งถือเป็นตัวเลขสูงสุดในรอบปีงบประมาณ

ที่มา : New York Post